“หญิงหน่อย” นำ “ธนาธร-เสรีพิศุทธิ์” ตาม ลง ‘สัตยาบัน’ เรียกร้องประชาธิปไตย

“หญิงหน่อย” นำ “ธนาธร-เสรีพิศุทธิ์” ตาม ลง ‘สัตยาบัน’ เรียกร้องประชาธิปไตย


7 พรรคร่วมฝั่ง “เพื่อไทย” ลงสัตยาบันขอหยุดการสืบทอดอำนาจ คสช. “สุดารัตน์” พร้อมบุก กกต. เรียกร้องเปิดคะแนน 100% “ธนาธร” ขอ พปชร.หยุดจัดตั้งรัฐบาล หวั่นประเทศถึงทางตัน ด้าน “เสรีพิศุทธิ์” จวกประยุทธ์ ควรลาออกได้แล้ว

วันที่ 27 มีนาคม 2562 – คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้งพรรคเพื่อไทย และแคนดิเดตนายกฯ ของพรรคเพื่อไทย นำพรรคที่พร้อมจะร่วมกันจัดตั้งรัฐบาลรวม 7 พรรค ประกอบด้วย 1. เพื่อไทย 2. อนาคตใหม่ 3. เสรีรวมไทย 4. ประชาชาติ 5. เพื่อชาติ 6.พลังปวงชนไทย และ 7. เศรษฐกิจใหม่ ของนายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ ที่ติดภารกิจไม่ได้มาร่วมแถลงข่าว

แต่ยืนยันแสดงเจตนารมย์ของพรรคว่าจะไม่ร่วมงานเด็ดขาดกับพรรคที่สนับสนุนการสืบทอดอำนาจของคสช. โดยคุณหญิงสุดารัตน์ แถลงว่า คะแนนที่พวกเราได้รับมาจากประชาชน ถือเป็นความต้องการของประชาชนที่อยากให้พวกเราหยุดยั้งการสืบทอดอำนาจของ คสช.

และต้องการให้มีการจัดตั้งรัฐบาลจากพรรคที่สนับสนุนประชาธิปไตย และแน่นอนว่า เราพยายามทำตามความคาดหวังของประชาชนอย่างเต็มที่ และทำให้ได้มากที่สุด ตามกติกาและมารยาททางการเมือง พร้อมกันนี้ จะส่งเสริมให้เกิดวัฒนธรรมการเมืองที่สร้างสรรค์ ซึ่งทั้งหมดเป็นสิ่งที่พวกเราทั้ง 6 พรรคได้พูดคุยกัน

 

อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าแม้การเลือกตั้งครั้งนี้จะยากลำบากมากที่สุด เพราะเริ่มตั้งแต่การรับสมัครที่มีการเขียนกติกาเพื่อมุ่งให้ คสช.ได้สืบทอดอำนาจ ไม่ว่าจะเป็นการนับคะแนนคนแพ้การเลือกตั้งเพื่อเอาคะแนนมารวม การตั้งสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) 250 คน รวมถึงขณะที่มีการเลือกตั้งก็มีการใช้อำนาจรัฐเพื่อเอาเปรียบอีกเช่นกัน ทั้งการซื้อเสียงอย่างมากมาย และแม้แต่วันที่นับคะแนน ซึ่งประชาชนได้เห็นแล้วว่ามีข้อกังขามากที่สุด

“ต่อไปเราจะต้องเจอกับการพยายามตัดทอนคะแนนของเรา ไม่ว่าจะเป็นการใช้อำนาจมาแจกใบเหลือง ใบแดง ให้กับ ส.ส. เพราะยังมีเวลาอีกกว่า 1 เดือนที่จะมีการรับรอง ส.ส.ทั้งหมด แต่เราจะเก็บคะแนนดิบเอาไว้เพื่อป้องกันการถูกบิดเบือน ป้องกันไม่ให้ฝ่ายตรงข้ามที่มีอำนาจมาโกงคะแนน” คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าว

คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวอีกว่า ขณะนี้มีการพยายามอย่างหนักมากที่จะดึงดูดพรรคอื่นให้มาร่วมจัดตั้งรัฐบาลของฝ่ายตรงข้าม ทั้งการเสนอเงิน ตำแหน่ง ที่หลอกล่อกันอยู่ แต่พวกเรามั่นใจว่าเมื่อมีอุดมการณ์ที่ชัดเจนแล้ว อุดมการณ์ของพวกเราจะไม่เปลี่ยนแปลง และหวังว่าพรรคการเมืองอื่นๆ ที่ไม่ได้มาร่วมกับเรา จะยังคงเห็นแก่บ้านเมือง เห็นแก่ประชาชนที่ต้องการให้ประเทศกลับคืนสู่ประชาธิปไตย

คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวต่อไปว่า จะเดินทางไป กกต. เพื่อจะไปพูดจาและเรียกร้องให้เปิดเผยข้อมูลผลการนับคะแนนทั้ง 100% รวมทั้งขอให้ชี้แจงข้อสงสัยในเรื่องที่มีความไม่ชอบมาพากล ทั้งในการนับคะแนน และพฤติกรรมที่เกิดขึ้นก่อนการลงคะแนน ที่มีการซื้อเสียง การใช้อำนาจรัฐ ทั้ง 7 พรรคมุ่งหวังที่จะสร้างความเชื่อมั่นต่อการเลือกตั้งครั้งนี้ ต่อคนทั้งประเทศ และนานาชาติ

คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า การจัดการเลือกตั้งไม่บริสุทธิ์ มีข้อกังขามากมาย ผลการเลือกตั้งที่ออกมาจะไม่ได้รับความเชื่อถือจากในประเทศและต่างประเทศ และจะกระทบต่อเศรษฐกิจ และเป็นหน้าที่ของพวกเราที่จำเป็นจะต้องขอความาร่วมมือจาก กกต.ให้แสดงความจริงที่ชัดเจน ว่าตัวเลขต่างๆ เป็นอย่างไร ข้อครหาติติงต่างๆ จะต้องได้รับคำชี้แจง

“เราจะดำเนินการอย่างมีมารยาท และจะรวบรวมเสียงที่มีจัดตั้งรัฐบาล จะไม่ทำอะไรนอกกติกา หรือไร้มารยาท หรือทำอะไรที่ไปกระทบการเมืองที่ไม่สร้างสรรค์ อย่างประเทศในขณะนี้ แม้ฝั่งตรงข้ามมีเสียงน้อยกว่า แต่มีการพยายามดึงตัวกันอย่างถึงที่สุด ให้เกิดงูเห่า หรือการพยายามให้เกิดการย้ายค่าย เราต้องการหยุดยั้ง และสร้างประชาธิปไตยของไทย ขอเรียกร้องพรรคการเมือง ที่ระหว่างรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง ทุกพรรคต่างพูดในทางเดียวกันมาร่วมกันหยุดยั้งการสืบทอดอำนาจของ คสช.

พรรคต่างๆ หากไม่ร่วมกัน จะป็นตราบาป เป็นมรดกให้ลูกหลานเราอีกนาน ในปี 2557 คือการยึดอำนาจของประชาชน แต่ปี 2562 การยึดอำนาจนั้นได้ถูกเขียนให้เป็นกติกาทั้งหมดแล้ว เป็นกติกาที่เขาจะยึดอำนาจได้อย่างยาวนาน อนาคตลูกหลานจะอยู่ภายใต้ระบอบแบบนี้ นี่เป็นโอกาสเดียวที่จะเปลี่ยนแปลงได้ เราต้องการเห็นประเทศอยู่บนความสงบ มีอนาคตที่ดี” คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวในที่สุด

 

 

ด้านนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ กล่าวว่า เจตจำนงค์ของประชาชนที่มอบมาให้กับพวกเรา ในนามของพรรคอนาคตใหม่และพรรคร่วมอีก 6 พรรค ขอแสดงเจตจำนงค์รวม 5 ข้อ ประกอบด้วย

1.พรรคอนาคตใหม่ ยืนยันว่า จะร่วมกับพรรคการเมืองที่ร่วมกันในวันนี้ หยุดยั้งการสืบทอดอำนาจของคสช. ให้ดีที่สุด แม้ว่าหนทางข้างหน้าจะยากลำบาก หรือต้องฝ่าฟันกับ ส.ว. แต่ก็พร้อมจะเดินหน้าไปด้วยกันเพื่อทำงานร่วมกันให้สำเร็จให้ได้

2.ขอเชิญชวนพรรคการเมืองอื่นๆ ที่เคยสัญญากับประชาชนไว้ว่าจะไม่สนับสนุน คสช. ให้มาร่วมกันสร้างรัฐบาลประชาธิปไตย ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายค้านหรือฝ่ายรัฐบาลก็ตาม

3.ยืนยันว่าพรรคที่ได้จำนวน ส.ส.มากที่สุด จะต้องได้รับการให้เสนอชื่อนายกรัฐมนตรี และพรรคอนาคตใหม่จะสนับสนุนคุณหญิงสุดารัตน์ เป็นนายกฯ เพราะว่ามีความเหมาะสมมากที่สุด

4.พรรคอนาคตใหม่ขอเรียกร้องทางการเมืองไปยังพรรคที่พยายามจัดตั้งรัฐบาลด้วยเสียงข้างน้อย และกำลังใช้กลไกต่อรองเพื่อให้ได้รัฐบาลเสียงข้างน้อย หากทำเช่นนี้จะมีแต่เกิดความวุ่นวายต่อสังคม และเป็นการนำประเทศกลับไปสู่ทางตัน

5.ขอเรียกร้องให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ทำหน้าที่อย่างบริสุทธิ์ยุติธรรม เพราะหลังการเลือกตั้งผ่านพ้นไปแล้ว 2 วันยังไม่มีการประกาศผลการเลือกตั้ง ขอเรียกร้องให้ กกต.เปิดผลคะแนนของทุกหน่วย เพื่อให้สาธารณะนำผลคะแนนดังกล่าวไปตรวจสอบความถูกต้อง

ขณะที่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธิ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย อีกหนึ่งในบิ๊กเนมของ 7 พรรคร่วมที่แถลงข่าวด้วยกัน กล่าวว่า หากเรามองย้อนกลับไปจะเห็นว่ามีการพยายามสืบทอดอำนาจในการเลือกตั้งครั้งนี้ แต่พวกเรายืนยันว่าจะเป็นพรรคที่สนับสนุนประชาธิปไตย ไม่ว่าสถานการณ์จะเป็นอย่างไรก็ตามในอนาคต

ก็ยังยืนยันในอุดมการณ์ที่ต้องการเห็นประเทศเป็นประชาธิปไตย ทั้งนี้ ขอเรียกร้องให้พรรคการเมืองต่างๆ ที่ลงสมัครรับเลือกตั้งในครั้งนี้ ให้ยึดมั่นระบอบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข อย่าเอาผลประโยชน์จากการที่พรรคอื่นหยิบยื่นเพื่อแลกกับการได้สืบทอดอำนาจ

“กกต.ก็ต้องออกมาทำหน้าที่อย่างยุติธรรม อย่าให้คนทั้งประเทศมาดูถูกเหยียดหยามท่านได้ ส่วนพล.อ.ประยุทธ์ ก็ควรลาออกไปซะ อย่ามาสืบทอดอำนาจอีก ถ้าผมเป็น พล.อ.ประยุทธ์ ผมคงลาออกไปนานแล้ว” พล.ต.อ.เสรีพิศุทธิ์ กล่าว

ส่วนนายภูมิธรรม เวชยชัย เลขาธิการพรรคเพื่อไทย อ่านแถลงการณ์โดยระบุว่าเป็นการลงนามสัตยาบันร่วมกันของทั้ง 7 พรรค ซึ่งในสัตยาบันนี้ระบุว่า

“แถลงการณ์ร่วม การลงสัตยาบันเพื่อหยุดยั้งการสืบทอดอำนาจของ คสช.วันที่ 27 มีนาคม 2562 ตามที่ได้มีการเลือกตั้งทั่วไป เมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2562 และได้รับทราบผลการเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการไปแล้วนั้น

บัดนี้ พรรคการเมืองตามรายชื่อท้ายแถลงการณ์นี้ ซึ่งยืนยันว่าได้รวบรวมเสียงในสภาผู้แทนราษฎรเกินกว่า 255 เสียง ได้ลงสัตยาบันร่วมกันในการหยุดยั้งการสืบทอดอำนาจของ คสช.
จึงแสดงเจตนารมณ์ไว้ร่วมกัน

ลงชื่อ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย
(พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์)

ลงชื่อ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่
(นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ)

ลงชื่อ หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย
(พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส)

ลงชื่อ หัวหน้าพรรคประชาชาติ
(นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา)

ลงชื่อ หัวหน้าพรรคเพื่อชาติ
(นายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์)

ลงชื่อ หัวหน้าพรรคพลังปวงชนไทย
(นายนิคม บุญวิเศษ)”