“จรุงวิทย์” แถลงภาพรวมเปิดหีบช่วงเช้าทุกหน่วยเรียบร้อย อาจคิวยาวบ้าง เผยพบ 54 เรื่องทำผิดก.ม.เลือกตั้ง ส่วนใหญ่ซื้อเสียง – ขายเหล้า-ขี้เมามาใช้สิทธิ-ฉีกบัตร
เมื่อเวลา 10.25 น.ที่สำนักงานกกต.พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการกกต.แถลงข่าวหลังการเปิดหีบเลือกตั้งในช่วงเช้าว่า ได้รับรายงานการเปิดหน่วยเลือกตั้งเวลา 08.00น.เป็นที่เรียบร้อยทุกหน่วย จากทั้งหมด 92,320 หน่วยเลือกตั้ง เฉลี่ยผู้มาใช้สิทธิหน่วยเลือกตั้งละประมาณ 800 คนต่อหน่วย ก่อนเปิดหีบมีผู้ใช้สิทธิเข้าคิวรอจำนวนมาก อาจไม่สะดวกบ้าง ทั้งนี้หากทั้งปิดหีบแล้วเวลา 17.00น.หากผู้มาใช้สิทธิมาแสดงตัวที่หน่วยเลือกตั้งแล้ว ก็สามารถลงคะแนนให้เสร็จสิ้นได้ สภาพปัญหาช่วงเช้าที่ผ่านมา คิวยาวอาจใช้เวลาบ้าง นอกจากนี้ยังมีปัญหาที่กรรมการประจำหน่วยเลือกตั้งบางหน่วยฉีกบัตรเลือกตั้งแล้วฉีกเอาต้นขั้วติดไปด้วย ซึ่งมีการลงบันทึกรายงานเหตุแล้ว หลังปิดหีบจะนำต้นขั้วบัตรออกมาก่อนเปิดนับคะแนน นอกจากนี้ยังพบปัญหาประชาชนไม่ได้เซ็นชื่อที่บัญชีตรวจสอบสิทธิ แต่ไม่เป็นปัญหา เพราะได้เซ็นชื่อที่ต้นขั้วบัตร

ทั้งนี้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.)เดินทางมายังสำนักงานกกต.เพื่อร่วมประชุมติดตามสถานการณ์การเลือกตั้งร่วมกับเลขาธิการกกต.พร้อมกันนี้ยังมีผู้สังเกตการณ์การเลือกตั้งจาก 11 ประเทศ และ 1 องค์กรระหว่างประเทศ เดินทางมาสังเกตการณ์การจัดการเลือกตั้งและภาพรวมการเปิดหน่วย ที่สำนักงานกกต.ด้วย โดยตลอดทั้งวันผู้สังเกตการณ์จะกระจายลงตามพื้นที่ต่างๆ เพื่อสังเกตการณ์การใช้สิทธิและการอำนวยความสะดวกให้ประชาชน
พ.ต.อ.จรุงวิทย์ กล่าวว่า “จากการรวบรวมเหตุการณ์ตั้งแต่คืนวันที่ 23 มี.ค.พบการกระทำความผิดเกี่ยวกับการเลือกตั้ง 54 เรื่อง ส่วนใหญ่เป็นการแจกเงินซื้อเสียง ที่เหลือเป็นการจำหน่ายสุราในช่วงเวลาต้องห้าม 1 ราย โพสต์ข้อความหาเสียง 2 ราย บริษัทไม่ให้หยุดงานมาใช้สิทธิ 1 ราย เมาสุรามาใช้สิทธิแล้วฉีกบัตรเลือกตั้งที่จังหวัดลำพูน 1 ราย ซึ่งจะตรวจสอบต่อไปว่าเจตนาหรือรู้เท่าไม่ถึงการณ์”
“ส่วนจะดำเนินคดีอาญาหรือไม่ต้องดูที่เจตนาก่อน สำหรับการแจ้งเหตุผ่านสายด่วน 1444 ส่วนใหญ่ เป็นเรื่องการเดินทางกลับไปเลือกตั้ง อาทิ ไม่มีรถกลับภูมิลำเนา รถไฟเต็ม ขนส่งหมอชิตแน่น ซึ่งกกต.ไม่สามารถประสานเพิ่มเที่ยวรถไฟได้ ทั้งนี้คาดการณ์ว่าช่วงเช้าที่ผ่านมา มีผู้เข้าคิวใช้สิทธิจำนวนมาก ถึงร้อยละ 80% จึงขอแนะนำให้ทยอยกันไป เพราะหน่วยเลือกตั้งมีเกือบทุกตำบลใกล้บ้าน”
