พปชร.ปักธงชัยนาท ขออาสาช่วยชาวนาลืมตาอ้าปาก

พปชร.ปักธงชัยนาท ขออาสาช่วยชาวนาลืมตาอ้าปาก


วันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2562 – นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ กล่าวในเวทีชาวนา 7 จังหวัดภาคกลาง ที่อ.เมือง จ.ชัยนาท ว่า พรรคพลังประชารัฐขอเสนอนโยบาย “ข้าวได้ราคา ชาวนาได้เงินเพิ่ม” โดยพรรคพลังประชารัฐอาสาตัวมาช่วยเกษตรกร ซึ่งวันนี้ประเทศไทยกำลังเข้าสู่การเลือกตั้งครั้งสำคัญ ที่จะชี้ชะตาประเทศไทย เป็นการเลือกตั้งที่เราจะต้องเลือกอนาคต ที่ผ่านมาเราผ่านอะไรหลายๆอย่าง วันนี้บ้านเมืองสงบสุข แต่ปัญหาคือเรื่องปากท้อง ที่เรามาวันนี้คือเรื่องเกษตรโดยเฉพาะ เรื่องข่าว ชาวนาเป็นกระดูกสันหลังของประเทศไทยมาตลอด

ทั้งนี้ หากจะให้คนไทยอยู่ดีกินดีเราต้องแก้ปัญหาด้านการเกษตร ไม่ใช่แก้เฉพาะหน้าแต่ต้องยั่งยืน วันนี้พรรคพลังประชารัฐเสนอว่าเรามาร่วมแก้ปัญหาให้ยั่งยืน ตรงจุด ครบวงจร เพราะเราต้องการให้คนไทยมีความสุข

นายอุตตม กล่าวอีกว่า ดังนั้นจะต้องแก้จากฐานรากชุมชน ไม่ใช่พึ่งส่งออกแล้วเงินไหลเข้าประเทศ เรามองกลับว่า ฐานรากต้องแน่น แล้วมันจะเกื้อกูลระหว่างกัน ทั้งอุตสาหกรรม การผลิตและการส่งออก หากเกษตรไม่เข้มแข็งจะเอาอะไรไปส่งออก วันนี้ตนอยากคุยกับชาวนาเรื่องข้าวโดยเฉพาะว่ามีแนวทางอย่างไรให้ยั่งยืน โดยพรรคพลังประชารัฐมีนโยบายเกษตรยั่งยืน คือ 3 ลด 3 เพิ่ม คือ ลดต้นทุน ลดภาระหนี้และลดความเสี่ยงจากราคาตกต่ำ เพิ่มรายได้ เพิ่มช่องทางการทำการเกษตรและเพิ่มแนวทางหารายได้ที่กระจายและยั่งยืน

“อย่างไรก็ตาม ความคืบหน้าล่าสุดสนช.ที่กำลังพิจารณาพ.ร.บ.ข้าว พ.ศ…. เขาเลื่อนออกไปเพื่อรับฟังปัญหาจากชาวนาให้มากกว่านี้ แสดงว่าชาวนามีพลัง ที่เขาต้องฟังพวกเรา ขณะที่ตนขอยืนยันว่านโยบายของพรรค พปชร. จะช่วยให้ชาวนาลืมตาอ้าปากได้” หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ กล่าว

ด้านนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า ตนเคยเป็นอดีต รมว.พาณิชย์ ทำเรื่องข้าวมาโดยตลอด ที่ผ่านมารัฐบาลนี้ทำให้ข้าวที่ภาคอีสานดีมาแล้ว ตนไปอีสานมาโดนชาวบ้านกอดจนตัวเปื่อยเพราะราคาข้าวดีมาก แต่ภาคกลางยังไม่ดีเท่าที่

ทั้งนี้ ที่ผ่านมาชาวนาเหมือนตัวประกันทางการเมือง แต่พรรค พปชร. จะไม่ทำเช่นนั้นเรามีวิธีการช่วยพี่น้องชาวนาให้ยั่งยืนคือต้องทำให้ชาวนาเข้มแข็งด้วยตัวเอง ทำให้ราคาข้าวดีด้วยกลไกตลาด ทั้งนี้นโยบายของพรรคจะเพิ่มค่าชดเชยค่าเกี่ยวข้าวจากเดิม 12 ไร่เป็น 20 ไร่ และเพิ่มจากไร่ละ 1,500 บาทเป็น 2,000 บาท เกี่ยวปุ้บรับเงินแล้ว 40,000 บาทต่อครัวเรือนและยังให้ค่าเก็บเพิ่มอีก 30,000 บาท รวมเป็น 70,000 บาท