หากวัดอุณหภูมิการเมืองตั้งแต่เช้าของวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2562 ก็นับว่าร้อนฉ่า และสวนทางกับฟ้าสลัวๆ ที่ปกคลุมเมืองหลวงอย่างกรุงเทพมหานคร
เพราะคนระดับ “บิ๊กแดง” พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก หรือผบ.ทบ. ที่ขยับตัวในเช้าวันนี้ ก็สร้างแรงสั่นสะเทือนในวงการเมืองทันที
“เพลงอะไรที่ฮิตกันในตอนนี้ ก็เพลงหนักแผ่นดินไง”
นั่นคือคำพูดของชายที่คุมกำลังทหาร 2.1 แสนนายที่พร้อมรบ และพร้อมจะฟังคำสั่งของพล.อ.อภิรัชต์เพียงคนเดียว แต่ก่อนจะถึงวลีนี้ที่หลุดออกมาสะเทือนสังคม นั่นเพราะ “บิ๊กแดง” เจอคำถามของนักข่าวที่อยากจะฟังความเห็นต่อสถานการณ์บ้านเมือง ที่อยู่ในห้วงการหาเสียงการเลือกตั้งที่เข้มข้นกันขึ้นเรื่อยๆ ในขณะนี้
แต่สิ่งที่อาจทำให้ชายชาติทหารอย่าง “บิ๊กแดง” พล.อ.อภิรัชต์ ต้องแสดงออกได้ถึงปานนี้ หลายฝ่ายมองว่าเป็นเพราะการหาเสียงของพรรคเพื่อไทย โดย “หญิงหน่อย” คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธ์ ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้งของพรรคเพื่อไทย และในฐานะแคนดิเดตนายกฯ ในบัญชีของพรรค เสนอต่อประชาชนที่มาฟังปราศรัยว่าจะตัด “งบทหาร” 10% และยกเลิกการเกณฑ์ทหารเสีย
เมื่อเจอคำถามนี้เข้าไปอีก คนอย่างบิ๊กแดงก็ได้แต่ย้ำว่าให้ไปฟังเพลง “หนักแผ่นดิน” อีกสักรอบ
แต่ทำไมต้องเป็นเพลงหนักแผ่นดิน แล้วพล.อ.อภิรัชต์ กำลังบอกให้ “ใคร” ไปฟัง
ThaiQuote เชื่อว่าหลายคนคงยังไม่อาจฟันธงในคำถามข้างต้นได้ เพราะคงมีแต่ผบ.ทบ.ผู้เดียวที่รู้อยู่ในใจว่าเขากำลังสื่อไปถึงใคร แต่ก็เชื่อได้อีกว่าสังคมก็คงไม่ยากเกินจะคาดเดาว่าวลีทองคำนี้ “บิ๊กแดง” ส่งตรงไปหาใครกันแน่ แต่สำหรับเพลง “หนักแผ่นดิน” ก็ถูกนำขึ้นมารับรู้ในโสตประสาทของคนไทยอีกครั้ง
เพลง “หนักแผ่นดิน” เป็นเพลงที่แต่งเมื่อ 2518 ครั้งนั้น ถูกใช้เปิดออกอากาศทางสถานีวิทยุ จ.ส. กรมการสื่อสารทหารบก กองทัพบก ในการต่อสู้ทางการเมืองกับขบวนการคอมมิวนิสต์ ห้วงระหว่างปี 2518-2523 เพลงนี้ถูกประพันธ์คำร้องโดย พ.อ.บุญส่ง หักฤทธิ์ศึก และขับร้องโดย ส.อ.อุบล คงสิน และศิริจันทร์ อิศรางกูร ณ อยุธยา กระทั่งต่อมาใน 2520 ชื่อเพลงนี้นำมาสร้างเป็นภาพยนตร์ชื่อ “หนักแผ่นดิน” กำกับโดยและแสดงนำโดย สมบัติ เมทะนี คู่กับนัยนา ชีวานันท์
เนื้อเพลงเป็นการบ่งบอกชัดเจนถึงกลุ่มคนที่เป็นภัยต่อแผ่นดิน ประเทศชาติ และตอกย้ำว่าคนพวกนี้เป็นพวก “หนักแผ่นดิน” ตรงตามความหมายของชื่อเพลงทั้งสิ้น แม้จะเป็นคนไทย แต่ไม่ได้สร้างคุณประโยชน์ใดๆ ให้กับประเทศ หนำซ้ำยังทำร้ายบ้านเกิดเมืองนอน เพลงนี้สะท้อนความหมายของคนประเภทนี้ได้เป็นอย่างดี
“คนใดใช้ชื่อไทยอยู่ กายก็ดูเหมือนไทยด้วยกัน
ได้อาศัยโพธิ์ทองแผ่นดินของราชันย์ แต่ใจมันยังเฝ้าคิดทำลาย
คนใดเห็นไทยเป็นทาส ดูถูกชาติเชื้อชนถิ่นไทย
แต่ยังฝังทำกิน กอบโกยสินไทยไป เหยียดคนไทยเป็นทาสของมัน
หนักแผ่นดิน หนักแผ่นดิน คนเช่นนี้เป็นคนหนักแผ่นดิน (หนักแผ่นดิน!)
หนักแผ่นดิน หนักแผ่นดิน คนเช่นนี้เป็นคนหนักแผ่นดิน (หนักแผ่นดิน!)
คนใดยุยงปลุกปั่น ไทยด้วยกันหวังให้แตกกระจาย
ปลุกระดมมวลชนให้สับสนวุ่นวาย เพื่อคนไทยแบ่งฝ่ายรบกันเอง
คนใดหลงชมชาติอื่น ชาติเดียวกันเขายืนข่มเหง
ได้สินทรัพย์เจือจานก็ประหารไทยกันเอง ทีชาติอื่นเกรงดังญาติของมัน
คนใดขายตนขายชาติ ได้โอกาสชี้ทางให้ศัตรู
เข้าทลายพลังไทยให้สลายทางสู้ เมื่อศัตรูโจมจู่เสียทีมัน
คนใดคิดร้ายราวี ประเพณีของไทยไม่ต้องการ
เกื้อหนุนอคติ เชื่อลัทธิอันธพาล แพร่นำมันมาบ้านเมืองเรา”
เพลง “หนักแผ่นดิน” มักจะเลือกเปิดในงานศพของเหล่าทหาร หรือตำรวจที่เสียชีวิตจากการต่อสู้กับกลุ่มคอมมิวนิสต์ในขณะนั้น ซึ่งในช่วงนั้นก่อนพิธีฌาปนกิจ จะมีการถ่ายทอดผ่านโทรทัศน์พร้อมกับวงดนตรีของกองทัพก็จะเล่นเพลงนี้ปลุกเร้าอารมณ์ของทั้งทหาร และผู้ที่ชมอยู่ทางบ้าน คล้ายกับว่าเป็นการปลุกเร้าอารมณ์ของประชาชนให้เกิดการมีส่วนร่วมเข้าไปด้วย
แต่ในระยะหลัง ในการต่อสู้ทางการเมือง กลุ่มก้อนทางการเมืองที่เป็นคู่ขัดแย้งกันมาโดยตลอด ทั้งจากกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) หรือกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) และแม้แต่กลุ่ม กปปส. ก็มักจะเปิดเพลงนี้กระแทกและปลุกเร้ามวลชนในที่มาเข้าร่วมชุมนุมทางการเมืองแทบจะทั้งวันด้วยเช่นกัน และแน่นอนว่าแต่ละฝ่ายก็ใช้บทเพลง “หนักแผ่นดิน” โยนความผิดให้กับขั้วตรงข้ามสลับกันไปมา
อย่างไรก็ตาม กับสิ่งที่ “บิ๊กแดง” สะท้อนออกมาในเช้าวันที่ 18 กุมภาพันธ์นั้น ถือว่าจะต้องจับตาเป็นพิเศษ เพราะการบอกให้คนไปฟังเพลงหนักแผ่นดินในครั้งนี้ หาใช่แกนนำกลุ่มม็อบต่างๆ ที่นำพามวลชน แต่คนที่พูดเป็นถึงคนที่มีอำนาจคุมกองทัพบก ที่มีทั้งกำลังพล อาวุธยุโธปกรณ์ต่างๆ ที่พร้อมจะพลิกประวัติศาสตร์ใดๆ ก็ได้ มันจึงทำให้คนทั้งประเทศต้องหันมาและจับตาความสำคัญอย่างเป็นพิเศษ
และนั่นย่อมทำให้การลดโทน “ดีกรี” ทางการเมืองต้องเบาลงไปบ้าง เพราะเมื่อคนระดับ “ผบ.ทบ.” ออกมาพูดเช่นนี้ ก็ต้องมีหนาวๆ ร้อนๆ กันบ้างกับกลุ่มก้อนนักการเมืองที่หาเสียงอะไรหลายอย่าง ทีชักจะเลยเถิดออกไป
ทีมข่าว ThaiQuote