“ลุงตู่” ห่วงภัยแล้งหยิบปัญหาน้ำวาระเร่งด่วน

ทั้งนี้ประเด็นปัญหาภัยแล้งและการขาดแคลนน้ำ
รัฐบาลได้เน้นการแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบ อย่างการพัฒนาความรู้ ด้านการทำอาชีพทางการเกษตรที่หลากหลาย
เป็น Smart
farmer และใช้หลักการปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เกษตรทฤษฎีใหม่”
สร้างแหล่งน้ำในพื้นที่ทำการเกษตรให้เพียงพอตลอดปี
แบ่งพื้นที่ปลูกพืชเพื่อขายและปลูกเพื่อบริโภคในครัวเรือน  ช่วยลดค่าใช้จ่ายพึ่งพาตนเองได้
น้อมนำเอาพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอยู่ฯมาประยุกต์ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน

              รัฐบาลและคสช.ถือเป็นความรับผิดชอบในการดำรงชีวิตความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนโดยรวม
โดยได้กำหนดมาตรการต่างๆ ที่จะเสริมสร้างแรงจูงใจ โดยล่าสุดคณะกรรมการ BOI
ได้อนุมัติการส่งเสริมการลงทุนที่เกี่ยวข้องกับการเกษตรและอุตสาหกรรมต่อเนื่อง
มูลค่ากว่า 17,000 ล้านบาท เพื่อเป็นทางเลือกเพิ่มเติมกับเกษตรกร
ในการปลูกพืชอื่นแทนข้าว รวมทั้งการเพิ่มประสิทธิภาพการแข่งขันของสินค้าเกษตรในตลาดโลก

               สำหรับมาตรการอื่นๆ
คือการขอความร่วมมือจากภาคอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรมได้ผ่อนปรนเงื่อนไขในเรื่องของ
“การห้ามระบายน้ำทิ้งออกนอกบริเวณโรงงาน” เป็นการชั่วคราว
ทั้งนี้ไม่เกินวันที่ 30 มิถุนายน 2559 เพื่อจะรับฤดูฝน เราจะสนับสนุนให้มีการนำน้ำทิ้งของโรงงาน
แต่ต้องผ่านการบำบัดตามมาตรฐานไปช่วยเหลือภาคเกษตรกรรมโดยเฉพาะโรงงานเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์อาหาร
ซึ่งไม่มีสารโลหะหนักหรือสารเคมีที่เป็นอันตรายกว่า 2 พันโรงงาน
คาดว่าจะมีน้ำเข้าสู่ระบบถึง 5 แสน ลบ.ม./วัน ครอบคลุมพื้นที่ทางการเกษตรราว 5
หมื่นไร่ทั่วประเทศ

               ในส่วนของภาคเกษตรกรรม
กระทรวงมหาดไทย 
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม 
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้เร่งส่งเสริมการสร้าง “ฝายชาวบ้าน ฝายประชารัฐ” เพื่อเตรียมรองรับน้ำฝนในช่วงฤดูฝนที่จะมาถึงและ
การขอความร่วมมือจากประชาชนเรื่องของการใช้น้ำเพื่อการอุปโภค-บริโภคอย่างประหยัด

               เรื่องสำคัญอันดับถัดมาคือ
เรื่องของพลังงานทดแทน ซึ่งเป็น 1 ในการสร้างความเข้มแข็งด้วยตนเอง อย่างที่โรงเรียนศรีแสงธรรม
จ.อุบลราชธานี  มีแนวคิดในเรื่อง “พลังงานทดแทนจากแสงอาทิตย์” โดยนำโซลาเซลล์มาใช้
สามารถช่วยลดค่าไฟฟ้าลงได้ จาก 6,000 บาท/เดือน เหลือเพียง 40 บาท/เดือน  และขยายผลเป็น “โครงการสู้ภัยแล้ง”
จัดทำระบบสูบน้ำ ด้วยพลังแสงอาทิตย์ ซึ่งเรื่องดังกล่าวสามารถต่อยอดไปสู่เรื่องการรับซื้อไฟฟ้าจากภาคครัวเรือน
(Net Metering)  ซึ่งจะทำให้สามารถสร้างรายได้ให้กับครัวเรือนของตนเองได้

              อย่างไรก็ตาม
ตอนท้ายนายกฯยังได้ฝากถึงเรื่องการของการพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษในบุคคล
โดยขณะนี้รัฐบาลได้ร่วมมือในรูปแบบประชารัฐระหว่างกระทรวง ศึกษาธิการ, มูลนิธียุวสถิรคุณ และ Enconcept สร้างแอพพลิเคชั่น เรียนภาษาอังกฤษผ่านโทรศัพท์มือถือ
และแท็บเล็ต  ในชื่อแอพพลิเคชั่นว่า  “Echo English”  เพื่อส่งเสริมความสามารถด้านภาษาอังกฤษของคนไทย