ตอนหนึ่งจากปาฐกถาพิเศษที่
ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวไว้บนเวที เปิดปฏิบัติการ“เพิ่มความเข้มแข็งของเศรษฐกิจฐานรากตามแนวทางประชารัฐ” ก่อนจะตามติดด้วยแนวคิดในการสนับสนุนชุมชนเพื่อให้เกิดการพัฒนาจากฐานรากโดยตรงทั้งในเรื่องของ
“สินค้าชุมชนและการท่องเที่ยวชุมชน” ที่ถือเป็นกุญแจดอกสำคัญต่อยอดพัฒนาชุมชนทั่วประเทศ
โดยมีงบประชารัฐกว่า 3.5 หมื่นล้านบาท หมู่บ้านละ 5 แสนบาทรอการสนับสนุน
ทั้งนี้ดร.สมคิดยังได้กล่าวต่อว่า รัฐบาลมีแนวคิดที่จะออกมาตรการด้านภาษีเพื่อสนับสนุนการท่องเที่ยวและการค้าของชุมชนโดยเมื่อนักท่องเที่ยวได้ซื้อสินค้าของชุมชนกลับไปแล้ว
สามารถนำค่าใช้จ่ายดังกล่าวมาหักลดหย่อนภาษีได้
ซึ่งเป็นการสนับสนุนให้คนมาซื้อสินค้าหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ หรือ โอท็อป
ที่มีคุณภาพ แต่ในขั้นตอนการปฏิบัติจะต้องดูแนวทางให้ชัดเจนว่า
สินค้านั้นเป็นสินค้าจากชุมชนจริงๆ หรือไม่
ซึ่งหากทำได้จริงจะช่วยส่งเสริมชีวิตความเป็นอยู่ของชาวบ้านให้มีรายได้จากการขายสินค้าชุมชนเพิ่มมากขึ้น
ขณะที่ข้อมูลด้านการท่องเที่ยวของไทยที่ผ่านมาพบว่าตัวเลขแนวโน้มที่น่าพอใจ
โดยเฉพาะเมื่อดูจากจำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาพบว่ามีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
สะท้อนให้เห็นว่าประเทศไทยยังมีความน่าสนใจ หากต้องการหารายได้เพิ่มขึ้นก็ต้องยืดเวลาให้นักท่องเที่ยวได้อยู่ยาวนานขึ้น
ซึ่งตามแนวทางของรัฐบาลต้องพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวชุมชนขึ้นมา
ดึงนักท่องเที่ยวเข้าไปสัมผัสชีวิตจริง ๆของชุมชนไม่ใช่เข้ามาแล้วซื้อสินค้าแบรนด์เนมแล้วก็กลับ
นั่นไม่ถือว่าเป็นการท่องเที่ยว รัฐต้องหาแนวทางเพื่อให้นักท่องเที่ยวเหล่านี้อยู่และใช้จ่ายในประเทศไทยยาวขึ้น
เช่นการพัฒนาที่ท่องเที่ยวให้สามารถเที่ยวในเวลากลางคืนได้
แต่ต้องทำให้เกิดความปลอดภัย
เหล่านี้ต้องใช้งบลงทุนซึ่งให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาไปพิจารณาจะใช้งบประมาณเท่าไร
นอกจากพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวในชุมชนแล้ว
กระทรวงท่องเที่ยวฯยังผลักดันการเชื่อมโยงการท่องเที่ยวในภูมิภาคอาเซียน
โดยดึงสายการบินเข้ามาร่วมจัดเส้นทางเพื่อให้การท่องเที่ยวไม่ได้อยู่เฉพาะประเทศใดประเทศหนึ่ง
แต่มีแพ็คเกจกระตุ้นให้เดินทางไปเมืองสำคัญ ๆ ซึ่งเรื่องนี้กระทรวงการท่องเที่ยวฯ
และสายการบินต่างๆ ที่ร่วมโครงการ จะเปิดเผยรายละเอียดช่วงเดือนเมษายนหรือพฤษภาคม
เพื่อชักชวนนักท่องเที่ยวตั้งแต่เดือนมิถุนายนเป็นต้นไป
และนื่คือภาพของแนวทางในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานราก
ตามแนวทางประชารัฐสู่การปฏิบัติ ที่หลายฝ่ายเชื่อมั่นว่าจะเป็นจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญที่นำไปสู่การสร้างเศรษฐกิจฐานรากเพื่อความมั่งคั่งและยั่งยืนของประเทศต่อไป
