จบลงไปแล้วสำหรับเวทีการแสดงวิสัยทัศน์ของ 4 พรรคการเมืองใหญ่ อย่าง พรรคพลังประชารัฐ นำโดย อุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรค ,พรรคเพื่อไทย โดย ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ได้รับการเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรี , อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ภายใต้หัวข้อ “อนาคตประเทศไทย ภายหลังการเลือกตั้ง” ซึ่งจัดโดย หนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์ โดยที่นโยบายของแต่ละพรรคนั้นมีความน่าสนใจดังนี้
นำเศรษฐกิจไปหาประชาชน พร้อมสวัสดิการประชารัฐ
อุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึง การลงทุนในพื้นที่ EEC ซึ่งถือการลงทุนขนาดใหญ่ครั้งแรกของประเทศไทยในรอบ 30 ปี และเป็นโมเดลการลงทุนที่จะกระจายไปทั่วทุกภาคของประเทศ กล่าวคือ ในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ สามารถที่จะสร้าง “อีสาน 4.0” ภาคเหนือ “ล้านนา 4.0” และภาคใต้ “ด้ามขวาน 4.0” ซึ่งสามารถทำได้จริงไม่ใช่แค่ฝัน การลงทุนเหล่านี้จะช่วยสร้างงาน สร้างรายได้ให้เกิดขึ้นกับพื้นที่ เป็นการนำงานนำรายได้ นำภาคอุตสาหกรรมและความเจริญไปสู่พื้นที่ กระจายการลงทุนไปสู่ภูมิภาค ไม่ใช่การกระจุกตัวอยู่เฉพาะหัวเมืองใหญ่ คนต่างจังหวัดจะไม่ต้องไปหางานทำไกลบ้านอีกต่อไป
ด้านสังคมประชารัฐ ประชาชนต้องดีทั้งสุขภาพกาย สุขภาพจิต ถึงจะเป็นสังคมที่ดี มีความสุขที่แท้จริง ผ่าน 1.หลักประกันรายได้ที่ต้องลดค่าใช้จ่าย ความมั่นคงทางด้านรายได้ต้องมาอันดับแรก 2.หลักประกันสุขภาพ สุขภาพเราต้องดี แข็งแรง ต้อเงข้าถึงคนไทยทุกพื้นที่ อย่างทั่วถึงเหมาะสม และด้วยค่าใช้จ่ายที่รับได้ ในคุณภาพของการดูแลที่ดี หรือที่เรียกว่า “หมอถึงบ้าน พยาบาลถึงเรือน” โดยเราจะสร้างทีมหมอครอบครัวให้ได้ 6,500 ทีมดูแลชุมชนทั่วประเทศ ดูแลให้ถึงบ้าน 3.หลักประกันการศึกษาจะต้องดูแลตั้งแต่เด็กจนถึงมหาวิทยาลัย เด็กจบใหม่จะไม่ต้องกังวล เพราะทุกคนมีโอกาสที่จะได้ทำงาน เช่นเดียวกับคนในวัยเกษียณก็จะได้รับการดูแลมีรายได้ที่เพิ่มขึ้นจากการส่งเสริมอาชีพ
ยุทธศาสตร์ต้องเชื่อมด้วยนโยบาย
ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ถูกเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรีในนามพรรคเพื่อไทย กล่าวถึง 6 ยุทธศาสตร์ของพรรคเพื่อไทยที่เชื่อมโยงกับนโยบายพรรค ประกอบด้วย 1. ไทยทำ แบรนด์คนไทยต้องส่งขายไปทั่วโลก พัฒนาสินค้าเกษตรที่มีคุณภาพ มีความปลอดภัย การกระจายการท่องเที่ยวไปทุกหัวเมืองย่อยด้วยการท่องเที่ยวที่มีคุณภาพ 2.ไทยทันสมัย จะต้องใช้ Big Data และ AI ในการพัฒนาการเกษตร ใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสม ลดขั้นตอนการผลิต 3. ไทยเท่าเทียม ทุกคนต้องมีสิทธิเท่าเทียมกัน ได้โอกาสทั้งทางการศึกษา ทำงาน สาธารณสุข ชุมชน อย่างเสมอภาค 4.ไทยเชื่อมไทย การคมนาคมแบบไร้รอยต่อ การสร้างเส้นเลือดฝอยของการคมนาคม เพื่อเชื่อมโยงจากชุมชนสู่โครงสร้างหลัก 5.ไทยเชื่อมโลก การเจรจาระหว่างประเทศ การเชื่อมโยงการค้าขายระหว่างภูมิภาค เปลี่ยนสถานทูตให้เป็นสถานการค้า 6.ไทยยั่งยืน สร้างความโปร่งใส ดูแลคุณภาพชีวิต ลดมลพิษ เน้นการใช้พลังงานแบบ Green Enegy
นอกจากนี้บางนโยบายจะต้องมีความต่อเนื่องเชิงนโยบายต่อไปเช่น โครงการพัฒนา EEC ซึ่งจะทำให้เกิดความมั่นคงทางเศรษฐกิจ จะต้องเร่งรัดการใช้จ่ายภาครัฐทำให้รายได้กระจายไปสู่ท้องถิ่นมากยิ่งขึ้น รวมไปถึงการขยายด้านการท่องเที่ยว ปรับปรุงให้มีประสิทธิภาพเพิ่มากขึ้น การตลาดการค้าแห่งใหม่มุ่งให้ความสำคัญด้านการการส่งออก
นโยบายประกันรายได้จะกลับมา
อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ความสำคัญของการสร้างเศรษฐกิจในวาระเร่งด่วน คือ การเพิ่มกำลังซื้อให้กับคนในประเทศ พรรคจะนำนโยบายประกันรายได้ กลับมาอีกครั้ง เพื่อการดูแลราคาผลผลิตของเกษตรกร ซึ่งจากข้าว จะขยายไปสู่ยางพารา ปาล์มน้ำมัน ผลไม้ มะพร้าว โดยจะต้องเพิ่มความต้องการผลผลิตเหล่านี้ในประเทศเสียก่อน เช่น ยางพาราเอามาแปรรูป จัดการระบบสวนยางฯ ปาล์มน้ำมัน แบ่งผลประโยชน์ระหว่างชาวสวนและโรงงานอย่างลงตัว ถ้าเราสามารถทำให้คนส่วนใหญ่ของประเทศ คือเกษตรมีรายได้เพิ่มขึ้นก็จะช่วยให้เศรษฐกิจดีขึ้น
นอกจากนี้พรรคได้กำหนดนโยบายหลักประกันรายได้ในโรงงาน เหมือนกับที่ใช้ในเกษตรกร คือ แรงงานมีรายได้เท่าไหร่ รัฐจะช่วยเพิ่มส่วนต่างให้
ด้านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จะมีการทำใหม่ โดยจะหนุนให้คนจนซื้อของจากร้านคนจน ขยายการเรียนฟรีในสายอาชีพคือระบบอาชีวะ ให้ภาคเอกชนมีส่วนร่วมในการฝึกทักษะแรงงานที่ต้องการ
ปลดล็อคความเท่าเทียมให้ประชาชน
ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ กล่าวถึงนโยบายของพรรค ว่า คนไทยจะต้องมีความเท่าเทียมกัน ประเทศไทยจะต้องเท่าทันโลก คือสิ่งที่พรรคอนาคตใหม่จะสร้างขึ้น โดยเราสามารถสร้างสรรค์การเมืองที่ดีได้ สร้างระบการศึกษา คมนาคม สร้างสังคมที่น่าอยู่ได้ สังคมที่ใช้ชีวิตโดยมีความหมาย โดยนโยบายของทุกพรรคนั้นมีความแตกต่างกันน้อยมาก แต่ต้องตั้งคำถามว่าแล้วประเทศไทยทำไมถึงยังไม่ก้าวผ่านจากจุดเดิมเสียที ปัญหาคือเรายังไม่มีข้อตกลงว่าจะอยูร่วมกันในสังคมอย่างไร อำนาจในการบริหารทรัพยากรประเทศอยู่ที่ใคร? อำนาจที่มาจากการเลือกตั้ง อำนาจที่ใช้ในการบริหารประเทศ นี่คือปัญหาในเชิงโครงสร้าง
นั่นคือ โครงสร้างที่ไม่เป็นธรรม ระบบทุนผูกขาด ระบบราชการรวมศูนย์ กลุ่มผู้นำที่เป็นปฏิปักษ์ต่อประชาธิปไตย ผมต้องการปลดล็อคระบบโครงสร้างเหล่านี้
และนี่คือบางส่วนจากการแสดงวิสัยทัศน์ของหัวหน้าพรรคการเมือง 4 พรรคใหญ่ ที่มีการคาดหวังกันว่าจะเป็นส่วนหนึ่งของการจัดตั้งรัฐบาลในการเลือกตั้งครั้งนี้