ปั้นซอฟต์พาวเวอร์ไทยขึ้นทำเนียบเวทีโลก ฟูมฟัก 20 สตาร์ทอัพไทยเปลี่ยนผ่านสู่ยุค 5.0

ปั้นซอฟต์พาวเวอร์ไทยขึ้นทำเนียบเวทีโลก ฟูมฟัก 20 สตาร์ทอัพไทยเปลี่ยนผ่านสู่ยุค 5.0


ถอดบทเรียน แรงบันดาลใจจากคน ปลุกซอฟต์พาวเวอร์ไทย เจียระไนหาเพชรน้ำงามทักษะไทยขึ้นทำเนียบเวทีโลก กรุงศรี ฟูมฟัก 20 สตาร์ทไทยข้ามยุค5.0 ด้านบ้านปูทรานสฟอร์มธุรกิจหลุดกับดักถ่านหินสู่พลังงานสะอาด

 

 

ในงานเสวนา “THE PEOPLE TALK : GAME CHANGER FORUM 2023 ถอดบทเรียน “คน” เปลี่ยนเกม เพื่อทะยาน สู่เส้นทางแห่งอนาคต” เวทีแลกเปลี่ยน แบ่งปันความรู้และประสบการณ์จากผู้นำระดับประเทศหลากหลายวงการ เพื่อปลุกพลังความเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงเพื่อสร้างแรงบัลดาลใจ เปลี่ยนตัวเองไปสู่การพัฒนาทักษะ จนถึงสร้างธุรกิจ ขับเคลื่อนประเทศ

อนันต์ ลือประดิษฐ์ บรรณาธิการอำนวยการ และ ผู้ร่วมก่อตั้ง The People เปิดเผยว่า ตลอดระยะเวลา 5 ปี ที่ผ่านมา The People นำเสนอเนื้อหาเชิงสร้างสรรค์ด้วยศาสตร์และศิลป์ของการเล่าเรื่องผ่าน “คน” กว่า 5,000 เรื่องราว ในโอกาสก้าวสู่ปี 6 จึงอยากเป็นส่วนหนึ่งในการปลุกพลังความเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลง ผ่านเวทีเสวนา THE PEOPLE TALK : GAME CHANGER FORUM 2023 เพื่อแบ่งปันความรู้และประสบการณ์จากผู้นำทางความคิด ผู้นำองค์กร ทั้งในเรื่องของเทคโนโลยี ภูมิปัญญา อีกทั้งสร้างแรงบันดาลใจ แสดงให้เห็นถึงความเป็นไปได้จริงของการเปลี่ยนแปลง

“ผู้บริหารหลายภาคส่วน ทั้งภาครัฐและเอกชนที่มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนประเทศ มาถ่ายทอดแนวคิดและมุมมองที่แตกต่าง พร้อมแบ่งปันความรู้และประสบการณ์สู่การถอดบทเรียนจาก ‘คน’ ที่เป็นผู้นำ ในการเปลี่ยนแปลงเชิงสร้างสรรค์ต่อเศรษฐกิจและสังคมไทย เพื่อให้ทุกคนก้าวข้ามความท้าทายต่างๆ ไปสู่โอกาสใหม่ๆ ซึ่งนับเป็นโอกาสที่ดีของทุกคนที่จะได้เรียนรู้และพัฒนาทักษะที่จำเป็นสำหรับการเปลี่ยนแปลงธุรกิจ ทั้งเทคนิค การบริหารจัดการ การใช้นวัตกรรม เพื่อให้ธุรกิจก้าวไปสู่โลกอนาคตได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน”

ปลุกซอฟต์พาวเวอร์ 20 ล้านคนไทย
ค้นหาเพชรเจียระไนบุกตลาดโลก

เปิดเวที “THE PEOPLE TALK : GAME CHANGER FORUM 2023” ปลุกพลังด้วย Exclusive Forum ซึ่งได้รับเกียรติจาก นายแพทย์สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี กรรมการและเลขานุการคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ คีย์แมนคนสำคัญที่ร่วมผลักดันยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติให้เป็นจริง กล่าวในหัวข้อ “การเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลง บนโลกที่เปลี่ยนเร็ว” ว่า การเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลง บนโลกที่เปลี่ยนเร็ว ผู้นำจะต้องมีความฝันและลงมือทำให้เป็นจริง ต้องมีความเชื่อ ความตั้งใจจริง มีความอดทน มีสติ และรับฟังข้อมูลแบบเปิดกว้าง พร้อมกันกับหมั่นทบทวนอยู่เสมอว่าทุกอย่างมีการเปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะ คำว่า “ซอฟต์พาวเวอร์” แตกต่างจากนิยามเมื่อ 20 ปีก่อน เพราะบริบทที่เปลี่ยนไป

ศาสตราจารย์ โจเซฟ ไนย์ (Joseph S. Nye) นักรัฐศาสตร์ชาวอเมริกัน และอดีต รมช.ต่างประเทศของรัฐบาลบิล คลินตัน ได้นิยาม องค์ประกอบจาก 3 เสาหลัก ประกอบด้วย วัฒนธรรม คุณค่าทางการเมือง/อุดมการณ์ประชาธิปไตย และนโยบายการต่างประเทศ ซึ่งเป็นมุมมองทางรัฐศาสตร์ในบริบทหลังสงครามเย็น บริบทเปลี่ยนมาสู่ยุค เกี่ยวข้องกับกระแสวัฒนธรรมเข้ามามีอิทธิพล อาทิ “เกาหลี” (Korea Wave/ Hallyu) ที่เริ่มต้นปลายทศวรรษ 1990 และ “ญี่ปุ่นเท่” (Japan Cool) ที่เกิดขึ้นในปี 2002 ขยายสู่มูลค่าทางเศรษฐกิจ

ในปัจจุบันคือ ประเทศที่อุดมสมบูรณ์ด้วยวัฒนธรรม” ขุมทรัพย์และภูมิปัญญาของไทย “พลังละมุน” สร้างความมั่นคงระหว่างประเทศ ถือเป็นเครื่องมือสร้างการยอมรับ ความรู้สึกว่า ชื่นชมองค์รประกอบของความเป็นไทย อาหารไทย ละครไทย กีฬาไทย ก่อเกิดเป็น “วัฒนธรรมที่มีพลังสร้างสรรค์ และสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ”

สำหรับยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์ของไทย ต้องสามารถลดความเหลื่อมล้ำในสังคม สามารถเปลี่ยนชีวิตคน เปลี่ยนการหารายได้ของคน เปลี่ยนโครงสร้างการผลิตของประเทศครั้งใหญ่” เขากล่าว

เป้าหมายของซอฟต์พาวเวอร์ ต้องการทำให้ประชากร 21-22 ล้านครอบครัว อย่างน้อย 1 คนในแต่ละครอบครัวมีโอกาสฝึกฝนพัฒนาทักษะ และสร้างพรสวรรค์ติดตัว ทำความใฝ่ฝันให้สร้างตัว เลี้ยงตัวเองและครอบครัว จนขยายสู่ธุรกิจได้

“หากเราต้องการฝึกฝนทักษะครั้งใหญ่ อัพสกิล (Upskill – พัฒนาทักษะที่มีอยู่เดิม) รีสกิล (Reskill – เพิ่มทักษะใหม่ขึ้นมา) ทำให้คนไทยมีโอกาสพัฒนาทักษะทั้ง 20 ล้านครอบครัว ไม่จำเป็นต้องทุกครอบครัวจะมีโอกาสเป็นอย่าง บัวขาว บัญชาเมฆ หรือ ตะวันฉาย พีเค. แสนชัยฯ นักชกขวัญใจชาวไทยที่คว้าแชมป์โลก แต่การสร้างโอกาสการฝึกฝนทักษะทั้งพรสวรรค์และพรแสวง จะช่วยทำให้ค้นหาเพชรที่สามารถเจียระไนให้มีทักษะสูงในระดับชาติ จนก้าวเป็นตัวแทนไทยสู่ระดับโลก

 

 

 

กรุงศรี จ่อลงทุนฟัก 20 สตาร์ทอัพไทย
ให้โตยั่งยืนคู่ยุคเปลี่ยนผ่านสู่ 5.0

ด้านแซม ตันสกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท กรุงศรี ฟินโนเวต จำกัด ผู้นำด้านการสนับสนุนและลงทุนในเทคโนโลยีนวัตกรรมและสตาร์ทอัพทั้งในระดับประเทศและภูมิภาค ในหัวข้อ “Change สตาร์ทอัพไทยให้ขึ้นทำเนียบ ยูนิคอร์น” กล่าวว่า กรุงศรีฟินโนเวต เข้าไปลงทุนใน 23 สตาร์ทอัพ มีการขับเคลื่อนรวม 3 ยูนิคอร์น ประกอบด้วย Grab, Flash Express และ Klook

ความท้าทายสำหรับสตาร์ทอัพในไทยคือ Venture Capital (VC) ส่วนใหญ่ไม่สนใจลงทุนผลักดันในสตาร์ทอัพที่อยู่ในช่วงฟูมฟัก (Early-stage) ทำให้มีสตาร์ทอัพไทยที่ก้าวไปสู่การเติบโตสุู่การเป็นยูนิคอร์นน้อย

ที่สำคัญที่สุด ในธุรกิจด้านเทคโนโลยี ประเทศไทยมีโปรแกรมเมอร์เพียง 50,000 คน เทียบกับประเทศเพื่อนบ้าน อย่างเช่น เวียดนามมีการพัฒนาโปรแกรมเมอร์ถึง500,000 คน ทำให้สตาร์ทอัพไทยแม้จะคิดอะไรใหม่ๆ ได้ แต่ไม่สามารถปฏิบัติได้จริง เพราะไม่มีหัวกระทิ ที่มีทักษะ

ในปีหน้ากรุงศรีฟินโนเวตมีแผนจะลงทุนธุรกิจสตาร์ทอัพเพิ่มอีกกว่า 20 สตาร์ทอัพรวมถึงจัดตั้งกองทุนใหม่เพื่อสตาร์ทอัพในช่วง Early-stage ที่มีศักยภาพ เพื่อส่งเสริมให้สตาร์ทอัพไทยเติบโตอย่างยั่งยืน ผลักดันให้ประเทศไทยก้าวสู่ยุค 4.0 หรือ 5.0 อย่างเต็มตัวในอนาคต และเศรษฐกิจถูกขับเคลื่อนด้วยสตาร์ทอัพและเทคโนโลยีได้อย่างสหรัฐอเมริกา

 

 

 

บ้านปูก้าวข้ามกับดักฟอสซิล
เปลี่ยนผ่านพลังงานสะอาด

สินนท์ ว่องกุศลกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บ้านปู เน็กซ์ จำกัด ผู้ให้บริการโซลูชันพลังงานสะอาดชั้นนำของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ในหัวข้อ “Greener and Smarter Tomorrow” กล่าวว่า กลุ่มบ้านปูตั้งเป้าหมายที่จะมุ่งสู่การผลิตพลังงานสะอาด ลดการปล่อยคาร์บอน (Decarbonize) ให้ได้มากที่สุด และเปลี่ยนผ่านองค์กรสู่ดิจิทัล (Digitize) ปัจจุบันบ้านปูเน็กซ์ดำเนินธุรกิจใน 7 ประเทศและกำลังจะเพิ่มสหรัฐอเมริกาเข้ามา และตั้งเป้าจะเป็นผู้นำด้าน Total smart energy player และเป็นฟันเฟืองสำคัญในการผลักดันเรื่อง Net Zero ให้กับทุกคนในภูมิภาคนี้ โดยพันธกิจนี้จะสำเร็จได้ ต้องปลูกฝัง Mindset ให้กับคนในองค์กร ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญ โดยคนบ้านปูจะต้องรู้จักยืดหยุ่นในการทำงาน (Resilience) คิดแบบกลยุทธ์เป็น มีการตัดสินใจที่แม่นยำ และส่งผ่านรุ่นต่อรุ่นได้