พลเอกประยุทธ์
จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการคืนความสุขให้คนชาติว่า วันที่ 23 – 25
ธ.ค.นี้ จะแถลงผลงานรอบ 1 ปี ของรัฐบาล เพื่อสรุปสิ่งที่ได้ดำเนินการไปแล้ว รวมทั้งชี้แจงแผนงานที่จะดำเนินการต่อไปในอนาคตทั้งหมด
เป็นเรื่องที่ความสำคัญเป็นอย่างมาก ที่มีข้อเท็จจริงในเรื่องปัญหาของประเทศ กระบวนการแก้ไขปัญหาของรัฐบาล
ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน
รวมทั้งการดำเนินการร่วมกันแบบประชารัฐ ทั้งนี้รัฐบาลจะเปิดโอกาสให้ประชาชน
นักวิชาการ และผู้ที่สนใจ รวมทั้งผู้สื่อข่าว ได้ซักถาม แลกเปลี่ยนความคิดเห็นเสนอแนะต่างๆ
เพื่อที่จะได้นำไปสู่การแก้ไขได้อย่างรวดเร็ว แต่ต้องรักษากฎกติกา ขออย่าเสนอความคิดเห็นที่ทำให้เกิดความเสียหายต่อการบริหารราชการแผ่นดินโดยส่วนรวม
“เรื่องรถไฟฟ้าให้กระทรวงคมนาคมไปปรับในเรื่องของแผนการขนส่งมวลชน
ทั้งระบบ ต้องเชื่อมโยงสัญจรไปมาของประชาชนในแต่ละภูมิภาค
สู่ศูนย์กลาง เข้าสู่กรุงเทพฯ เชื่อมโยงไปประเทศเพื่อนบ้าน เชื่อมโยงไปยังประชาคมอื่นๆ
ในอนาคต จึงจำเป็นต้องออกแบบทั้งหมดเพื่อไม่ให้เปลื้องงบประมาณ
ได้วางแผนไว้หมดแล้ว แรกๆ อาจขาดทุน
และกำลังคิดว่าจะทำยังไง ให้ราคาตั๋วรถไฟฟ้าถูกลง คนมีรายได้น้อยมีโอกาสได้ใช้บ้าง
แต่ยังไม่ได้ข้อยุติ”
สำหรับแก้ปัญหาการจราจร
แม้ว่าจะมีรถไฟฟ้า ก็ยังมีปัญหาเรื่องการจอดรถอยู่ดี
กำลังหาแนวทางแก้ปัญหา หรือหาพื้นที่ที่เหมาะสมในการทำธุรกิจเกี่ยวกับเรื่องจัดทำที่จอดรถให้บริการในพื้นที่ที่การจราจรติดขัด
เช่นศูนย์การค้า จะต้องมีที่จอดรถที่มีระยะห่างประมาณ 300–500
เมตร เพื่อให้คนได้เดินออกกำลังกายกันบ้าง และต้องปลอดภัย เพื่อจะลดอุบัติเหตุ ปีๆ
หนึ่งต้องสูญเสียคนจากอุบัติเหตุเป็นจำนวน สิ้นเปลือง สูญเสียงบประมาณ
สูญเสียกำลังเจ้าหน้าที่ ไม่อยากให้เกิดขึ้นอีก ก็ต้องเริ่มกันตั้งแต่วันนี้
จากนั้นนายกฯ
กล่าวถึงการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศจะใช้แนวทาง “ประชารัฐ”โดยหารือกับภาคเอกชน และรายได้ประเทศจะต้องเพิ่มขึ้นในอนาคต ฉะนั้นทุกคนคงต้องร่วมมือกัน
ทั้งภาครัฐ ประชาชน และภาคธุรกิจเอกชน ในการที่จะสนับสนุนการดำเนินงานของรัฐบาล ในเรื่องของการพูดคุยกับนักธรกิจนั้น
ก็พูดถึงเรื่องการเชื่อมโยงธุรกิจภาคต่างๆ ทั้งระบบ ตั้งแต่ธุรกิจขนาดใหญ่
ข้ามประเทศ ในประเทศ, กลาง, เล็ก ค้าปลีก ค้าส่ง ว่าจะร่วมมือกันได้ตรงไหนกับรัฐบาล
ในการจะขับเคลื่อนประเทศในลักษณะ “ประชารัฐ” ถ้ารัฐบาลเริ่มต้น กำหนดนโยบาย ทำกฎหมายอำนวยความสะดวก ภาคธุรกิจก็ควรจะมาส่งเสริม
เอาประชาชนมาเรียนรู้ ขยายเรื่องของการผลิตคน ให้ตรงความต้องการก็จะเพิ่มมูลค่าให้สินค้าแล้วก็สร้างรายได้ให้กับประชาชนในพื้นที่อย่างแท้จริง
รวมทั้งต้องเร่งเรื่อง
Social
Enterprise การสร้างนักธุรกิจใหม่ การสร้างนักธุรกิจเพื่ออนาคต
การปฏิรูประบบการศึกษา ในเรื่องของการดูแลและพัฒนาครู นักเรียน
โรงเรียนสถานที่ศึกษาโดยใช้กิจกรรม CSR ของภาคธุรกิจมาสนับสนุน
โดยในปีหน้าจะเร่งรัดเรื่องของความร่วมมือลักษณะ “ประชารัฐ”
แต่ทั้งหมดทั้งพ่วงก็เพื่อลดความเหลื่อมล้ำ
พัฒนาคุณภาพคน เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ
เรื่องสำคัญอีกเรื่องคือ
การประชุม COP21 ที่กรุงปารีส สาธารณรัฐฝรั่งเศส ที่ผู้แทนจาก 195 ประเทศให้การยอมรับ “ข้อตกลงใหม่” อย่างเป็นเอกฉันท์
ที่จะพยายามร่วมมือกันลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก จนทำให้สามารถจำกัดอุณหภูมิของโลกในศตวรรษไม่เกิน
1.5 องศาเซลเซียส คือถ้าเกินกว่านี้ มีปัญหาเยอะมาก น้ำแข็งละลาย น้ำท่วม
ฝนแล้งภัยพิบัติต่างๆ จะตามมา ได้มีการย้ำ ทุกกระทรวงในเรื่องดังกล่าวโดยเฉพาะกระทรวงทรัพยากรฯ
สัปดาห์หน้ามีวันสำคัญทางคริสต์ศาสนา
เป็นวัน คริสตสมภพ ที่เรียกว่า วันคริสต์มาส คนไทยนี่ทุกวันนะ มีความสุขทุกวัน
ไม่ว่าจะของไทย ของต่างประเทศ มีความสุขหมด นี่คนไทยมีความสุข
คนไทยเป็นชาติที่รักสงบ สันติมีความสุข ในนามของรัฐบาลไทย
ผมขออวยพรให้คริสต์ศาสนิกชนทุกคนในประเทศไทย รวมถึงนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งหลาย
ให้มีแต่ความสุข สมหวัง และสุขภาพที่ดี
ขอให้เฉลิมฉลองวันคริสต์มาสนี้กันอย่างมีสติ สนุกสนาน และปลอดภัยมีความสุข
ที่มา : Thaiquote
