“คนละครึ่ง” เฟส 2 วันแรกคึกคัก ดันยอดใช้จ่ายพุ่ง 5 หมื่นล้าน

ผู้ประกอบการยิ้มกันถ้วนหน้า หลัง “คนละครึ่ง”เฟส 2 เปิดใช้วันแรกยอดใช้จ่ายคึกคัก พุ่งทะลุ 5 หมื่นล้านแล้ว มีร้านค้าเข้าร่วมถึง 1.07 ล้านร้านค้า

บรรยากาศการใช้จ่ายโครงการ”คนละครึ่ง” เฟสที่ 2 ที่เริ่มเปิดให้ใช้เมื่อวันที่ 1 ม.ค.64 เป็นวันแรก ปรากฎว่ามีความคึกคักอย่างมาก โดยมีประชาชนผู้ได้สิทธิทั้งคนละครึ่งเฟสแรกที่ได้รับเงิน 500 บาท และผู้ได้สิทธิเฟสสองได้รับเงิน 3,500 บาท ออกมาใช้สิทธิใช้จ่ายซื้อสินค้ากันจนมียอดใช้จ่ายสะสม ณ วันที่ 1 ม.ค.64 สูงกว่า 50,500 ล้านบาทแล้ว ส่วนจำนวนร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการการมีจำนวนถึง 1.07 ล้านร้านค้า

โดยข้อมูลกระทวงการคลังระบุ จังหวัดที่มียอดใช้จ่ายสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ กรุงเทพฯ สงขลา ชลบุรี เชียงใหม่ และสุราษฎร์ธานี

ทั้งนี้ ผู้ประกอบการร้านอาหารที่เข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง เปิดเผยว่า ช่วงเดือนธันวาคมที่ผ่านมาการขายอาหารลดลงมาก เนื่องจากคนใช้คนละครึ่งส่วนใหญ่ได้ใช้สิทธิ 3,000 บาทแรกหมดไปแล้ว ทำให้ช่วงก่อนปีใหม่ ค้าขายไม่ค่อยดี แต่พอวันที่ 1 ม.ค.64 ซึ่งเป็นวันแรกของคนละครึ่งเฟสสอง กลับเริ่มมีผู้มาใช้สิทธิคนละครึ่งเพิ่มมากขึ้นหลังได้รับเงินเพิ่มเติม 500 บาทและผู้ได้สิทธิใหม่ 3,500 บาท ทำให้การใช้จ่ายกลับมาคึกคักอีกครั้งหนึ่ง

ด้าน น.ส.กุลยา ตันติเตมิท ผู้ตรวจราชการกระทรวงการคลัง รักษาราชการแทนผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง กล่าวว่า กระทรวงการคลังได้เติมเงินให้กับโครงการคนละครึ่งเฟสสองให้กับผู้ลงทะเบียนใหม่และยืนยันสิทธิรายเดิมในวันที่ 1 ม.ค.64 เป็นวันแรก

โดยพบว่าช่วงเช้าถึงสายมีผู้ลงทะเบียนคนละครึ่งเฟสสองใช้จ่ายสูงถึง 2 แสนราย คาดจะมีผู้ใช้จ่ายเยอะมากขึ้นเรื่อยๆในช่วงเย็น อย่างไรก็ตามขอให้ผู้ลงทะเบียนคนละครึ่งเฟสสองและยังไม่มายืนยันตัวตนกว่า 8.5 แสนคน ให้รีบยืนยันและใช้จ่ายภายในวันที่ 14 ม.ค.นี้ ก่อนจะถูกตัดสิทธิอัตโนมัติ

สำหรับผู้ลงทะเบียนคนละครึ่งระยะสอง ที่ผ่านการตรวจสอบสิทธิแล้ว สามารถยืนยันตัวตนในแอพพลิเคชั่น เป๋าตัง ได้ 3 ช่องทาง ได้แก่ 1.ยืนยันตัวตนผ่านแอพพลิเคชั่นเป๋าตัง 2.ยืนยันตัวตนผ่านสาขาธนาคารกรุงไทย 3.ยืนยันตัวตนโดยใช้บัตรประชาชน ณ ตู้เอทีเอ็มสีเทาของธนาคารกรุงไทย ส่วนคนลงทะเบียนคนละครึ่งเฟสแรก สามารถกดยืนยันเพื่อรับสิทธิต่อเนื่อง 500 บาท ได้ตลอดจนสิ้นสุดโครงการ

อย่างไรก็ตาม ขอให้ผู้ลงทะเบียนคนละครึ่งเฟสสองและยังไม่มายืนยันตัวตนกว่า 8.5 แสนคน ให้รีบยืนยันและใช้จ่ายภายในวันที่ 14 ม.ค.นี้ ก่อนจะถูกตัดสิทธิอัตโนมัติ