สสว. รุกช่วย SMEs กว่า 5,000 ราย เตือนระวังมิจฉาชีพแอบอ้างช่วยเข้าถึงแหล่งเงิน

สสว. รุกช่วย SMEs กว่า 5,000 ราย เตือนระวังมิจฉาชีพแอบอ้างช่วยเข้าถึงแหล่งเงิน


สสว. เร่งเครื่อง “โครงการสนับสนุน SMEs รายย่อย” อุ้มผู้ประกอบการฝ่าวิกฤตเศรษฐกิจชะลอตัว ตั้งเป้า 5,000 ราย พร้อมเตือนมิจฉาชีพแฝงคราบช่วยเข้าถึงการอนุมัติสินเชื่อ

 

นายวีระพงศ์ มาลัย ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม เปิดเผยว่า ตามที่ สสว.ได้ร่วมกับธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทยหรือ SME D Bank ดำเนินโครงการสนับสนุน SMEsรายย่อย ซึ่งได้ดำเนินมาตั้งแต่เดือน มิถุนายน 2563 นั้น ล่าสุดโครงการดังกล่าวมีผู้ประกอบการยื่นสมัครสินเชื่อจำนวนมาก ซึ่งบางส่วนอยู่ในสถานะการพิจารณาคำขอและอยู่ในกระบวนการอนุมัติสินเชื่อกว่า 5,000 ราย เชื่อว่าจะช่วยให้SMEs มีสภาพคล่องและเงินทุนหมุนเวียนที่ดีมากขึ้นส่งผลถึงการเติบโตทางเศรษฐกิจและการจ้างงานได้ในลำดับต่อไป

สำหรับโครงการสนับสนุน SMEs รายย่อย เป็นโครงการสำหรับกลุ่มผู้ประกอบการกลุ่มเอสเอ็มอีขนาดเล็กที่ต้องการมีแหล่งเงินทุนเพื่อการฟื้นฟูและขยายธุรกิจและลดปัญหาการเข้าไม่ถึงสินเชื่อให้เป็นรูปธรรมมากขึ้นอีกทั้งยังเป็นการช่วยสร้างความมั่นใจในการดำเนินธุรกิจโดยเฉพาะในการนำไปพัฒนาสินค้าและผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เพื่อลดปัญหาการปิดกิจการและการจ้างงานและเป็นเงินทุนเสริมสภาพคล่องในช่วงที่เศรษฐกิจอยู่ในภาวะชะลอตัว

ทั้งนี้ รายละเอียดของวงเงินสินเชื่อนั้นแบ่งเป็นบุคคลธรรมดาวงเงินกู้ไม่เกิน 500,000 บาทและนิติบุคคลหรือบุคคลธรรมดาที่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มวงเงินกู้ไม่เกิน3,000,000 บาท อัตราดอกเบี้ยอยู่ที่ร้อยละ 1.0 ต่อปี สามารถผ่อนชำระสูงสุดได้ถึง 7ปี และเวลาปลอดชำระคืนเงินต้นสูงสุดไม่เกิน 1 ปี โดย SMEs ที่ประสงค์ขอสินเชื่อต้องไม่เคยได้รับความช่วยเหลือจากสินเชื่อกองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีตามแนวประชารัฐโครงการเงินทุนพลิกฟื้นฯ โครงการฟื้นฟูฯ และยังต้องไม่เป็นหนี้ NPLs ไม่ถูกดำเนินคดี และไม่เป็นบุคคลล้มละลาย

โดยในช่วงครึ่งปีที่ผ่านมาหลายปัจจัยได้ส่งผลกระทบต่อธุรกิจ SME โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ประกอบการรายย่อยอย่างต่อเนื่อง ซึ่งกระทบทั้งในด้านการจ้างงานการขยายธุรกิจ รวมถึงการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการใหม่สถานการณ์เหล่านี้กระทบไปถึงภาพรวมการเติบโตเศรษฐกิจของประเทศ

ขณะเดียวกันสิ่งสำคัญเร่งด่วนในขณะนี้คือ การผลักดันให้เข้าถึงมาตรการสนับสนุนและเยียวยา โดยเฉพาะในด้านสินเชื่อเพื่อเสริมสภาพคล่องและเงินทุนหมุนเวียนธุรกิจ และช่องทางการเข้าถึงหน่วยงานที่สามารถให้การช่วยเหลือได้อย่างตรงจุดไม่ว่าจะเป็นการช่วยเพิ่มยอดขาย การทำตลาด การลดโอกาสการเกิดหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้(NPL) ต่อเนื่องไปถึงการกระตุ้นให้ภาคธุรกิจที่หยุดพักการดำเนินงานในช่วงการระบาดของโรคโควิด– 19 สามารถกลับเข้าสู่กระบวนการผลิตและให้บริการได้อีกครั้ง

สำหรับการผ่อนปรนมาตรการป้องกันโควิด – 19 ในระยะปัจจุบันรวมถึงมาตรการในการสนับสนุนสินเชื่อของหน่วยงานและสถาบันการเงินต่าง ๆ ได้เริ่มทำให้เห็นสัญญาณที่ดีขึ้นของกลุ่มธุรกิจ SMEsซึ่งเชื่อว่าจนถึงปลายปีนี้จะค่อย ๆเห็นภาคดังกล่าวมีความสดใสเพิ่มมากขึ้น

อย่างไรก็ตามในสถานการณ์ปัจจุบันยังมีสิ่งที่ผู้ประกอบการต้องเฝ้าระวังเพิ่มเติมคือ มิจฉาชีพที่อาจแฝงมาในนามของผู้ให้และผู้อนุมัติสินเชื่อโดยเฉพาะเว็บไซต์ปลอมที่มักจะอาศัยประโยชน์จากข้อความที่ดึงดูดความสนใจให้คลิกเข้าไปชมเกี่ยวกับข้อมูลด้านการเงินที่บิดเบือนจากความเป็นจริงซึ่งจะสร้างความเข้าใจผิดให้แก่ผู้ประกอบการที่สนใจขอสินเชื่อ รวมถึงลูกค้าธนาคารต่างๆ พร้อมด้วยการอ้างตัวเป็นตัวแทนในการพาเข้าถึงสินเชื่อโดยมีเงื่อนไขในการเสียค่าธรรมเนียมและค่าดำเนินการ

กรณีนี้ สสว.ขอย้ำว่าโครงการสนับสนุน SMEs รายย่อย ของสสว.นั้นไม่มีค่าใช้จ่ายในการดำเนินการใด ๆ ทั้งสิ้น และอีกรูปแบบคือกลโกงที่มาในคราบของคอลเซ็นเตอร์ที่ส่วนใหญ่ปลายสายมักอ้างตัวเป็นผู้อนุมัติสินเชื่อการหลอกโอนเงินผิด หรืออ้างว่ามีผู้นำเอกสารไปขอวงเงินสินเชื่อแล้วให้โอนเงินกลับมายังบัญชีของมิจฉาชีพเพื่อทำการตรวจสอบหรือคืนเงินที่มีผู้โอนไปผิด ดังนั้นระยะนี้จึงอยากให้ผู้ประกอบการตรวจสอบข้อมูลต่าง ๆผ่านทางสถาบันการเงินและหน่วยงานของรัฐที่เชื่อถือได้เท่านั้น

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ตอบโจทย์อนาคต! วงถก SIIT เห็นพ้อง “นวัตกรรม” ชี้ขาดยุคสมัย