สทบ.นำร่อง ส่งเสริมสมาชิก 40 กองทุนฯหมู่บ้าน พัฒนาผลิตภัณฑ์ข้าวส่งออกตลาดจีน

สทบ.นำร่อง ส่งเสริมสมาชิก 40 กองทุนฯหมู่บ้าน พัฒนาผลิตภัณฑ์ข้าวส่งออกตลาดจีน


สทบ. จับมือ สสว. หนุนสมาชิกกองทุนหมู่บ้านฯ นครนายก และภาคกลาง 40 หมู่บ้าน สร้างองค์ความรู้ นำร่องส่งออกผลิตภัณฑ์ข้าวในจีน หวังใช้โอกาสช่วงโควิด-19 สร้างรายได้อย่างยั่งยืน

“รักษ์พงษ์ เซ่งเจริญ” ผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง (สทบ.) เปิดเผยว่า สทบ. ได้ร่วมกับ สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) จัดกิจกรรมอบรมความรู้ ความเข้าใจ การจำหน่ายสินค้าเกษตรประเทศจีน ภายใต้ชื่อโครงการ “ กทบ.-สสว. Connext Village Cultural Links to China” โดยนำร่องอบรมสมาชิกกองทุนหมู่บ้านนครนายกและภาคกลางจำนวน 40 กองทุน ที่ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ข้าว ซึ่งมีเอกลักษณ์จากจำนวน 80 กองทุนทั่วประเทศ

“กิจกรรมนี้เป็นการเตรียมความพร้อมให้กับสมาชิกกองทุนหมู่บ้านที่วันนี้ เราได้รับคำสั่งซื้อหรือจองผลิตภัณฑ์ข้าวของสมาชิกกองทุนในส่วนของพื้นที่นครนายกและภาคกลาง จากบริษัทผู้ส่งออกข้าวไปยังประเทศจีน โดยสิ่งที่จะต้องส่งเสริมให้กับสมาชิกกองทุนคือการพัฒนาผลิตภัณฑ์ข้าวเพื่อการส่งออก ทั้งเรื่องของมาตรฐานและบรรจุภัณฑ์ให้ตรงกับความต้องการของตลาดในประเทศจีน
ทั้งนี้จากที่ผ่าน สทบ.ได้ดำเนินโครงการซื้อขายแลกเปลี่ยนผลิตภัณฑ์ระหว่างกันของสมาชิกกองทุนฯ โดยเริ่มต้นจากระหว่างกองทุนในพื้นที่ใกล้เคียง ขยายไปในระดับจังหวัด และในระดับภาค เมื่อเราคิดว่าวันหนึ่งเมื่อพวกเขามีความเข้มแข็งแล้ว ก็จะต้องส่งเสริมให้สามารถเดินต่อไปข้างหน้าได้อย่างมั่นคง นี่คือหน้าที่ของ สทบ.ที่จะต้องทำให้สมาชิหมีรายได้ที่เพิ่มมากขึ้น และมีคุณภาพชีวิตที่มั่นคง ยั่งยืน” ผอ.สทบ.กล่าว

 

ด้าน “วีระพงศ์ มาลัย” ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกจิขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) กล่าวว่า จากวิกฤตโควิดที่กำลังเกิดขึ้น ทำให้ความต้องการอาหารในตลาดทั่วโลกเพิ่มขึ้นด้วย วันนี้เราพบว่า ไมโครเอสเอ็มอี กำลังกลายเป็นกลไกที่มีความสำคัญต่อเศรษฐกิจมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ทั้งในด้านจำนวนกิจการและการจ้างงาน ซึ่งเชื่อมโยงกับเศรษฐกิจในระดับชุมชนและท้องถิ่น
ดังนั้น โครงการพัฒนาศักยภาพและช่องทาง การตลาดเชิงลึกสู่ตลาดจีน สำหรับผู้ประกอบการ SME จึงต้องการพัฒนายกระดับศักยภาพกลุ่มผู้ประกอบการในพื้นที่ ระดับชุมชน เพื่อให้เติบโตและแข่งขันได้ในระดับสากล โดยการร่วมมือกับ สทบ. ซึ่งมีสมาชิกกองทุนหมู่บ้านฯ กว่า 13 ล้านคนทั่วประเทศ 79,000 กองทุน จัดกิจกรรมที่เป็นองค์ความรู้รวม มีกระบวนการเรียนรู้ พึ่งพาพัฒนาตนเองได้ ก่อนต่อยอดไปยัง ชุมชนอื่นในระดับจังหวัดและภูมิภาคต่อไป

โดยหวังว่ากิจกรรมดังกล่าวหากสำเร็จลุล่วงได้ในตอนท้ายนอกจาก เราจะสามารถสร้างเครือข่าย และการรวมกลุ่มของกองทุนหมู่บ้านที่เติบโตเป็น SME ที่เข้มแข็ง สามารถส่งออกสินค้าไปยังตลาดสากลได้แล้ว ยังจะช่วยสร้างมูลค่าการส่งออกของประเทศ และสร้างรายได้ให้กับสมาชิกกองทุนหมู่บ้านมากถึง 1,000-2,000 ล้านบาท

ขณะที่ “นิธิวดี จรรยาสวัสดิ์” คณบดีวิทยาลัยนานาชาติจีน มหาวิทยาลัยกรุงเทพ ซึ่งเป็นวิทยากรในการอบรม กล่าวว่า สิ่งที่สมาชิกกองทุนหมู่บ้านจะต้องเตรียมความพร้อมนั้น ประกอบด้วย 1.การสร้างผลิตภัณฑ์ที่มีมาตรฐานตามมาตรฐานของประเทศไทย ก่อนส่งออก ซึ่งเมื่อส่งออกแล้วก็จะต้องมีมาตรฐานตามที่ประเทศนำเข้ากำหนด ขณะเดียวกันสินค้าข้าวก็ต้องมีเอกลักษณ์เฉพาะพื้นที่
2.การออกแบบบรรจุภัณฑ์ที่จะต้องเน้นถึงการสร้างเอกลักษณ์ที่ถูกใจผู้บริโภคในต่างประเทศ ความน่าสนใจของผลิตภัณฑ์ที่จะดึงดูดให้ผู้บริโภคต้องซื้อ เมื่อซื้อแล้วได้รับประทานข้าวที่มีคุณภาพ

“2 สิ่งที่กล่าวข้างต้นคือสิ่งที่สำคัญ จะขาดสิ่งใดสิ่งหนึ่งไม่ได้ เพราะแม้ว่าข้าวของเราจะมีเอกลักษณ์มีความอร่อย แต่หากบรรจุภัณฑ์ไม่ดึงดูดความสนใจ ชวนให้เลือกซื้อ สินค้าของเราก็จะวางอยู่บนชั้นวางเหมือนเดิม แต่หากเรามีทั้ง 2 สิ่งก็จะทำให้ผู้บริโภคของเรามีความเชื่อมั่นในแบรนด์ของเรา” นิธิวดี กล่าวในตอนท้าย

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ