ธปท.ยืนยัน ทุกธนาคารยังแกร่ง มีแผนรับผลกระทบเศรษฐกิจจากโควิด-19

ธปท.ยืนยัน ทุกธนาคารยังแกร่ง มีแผนรับผลกระทบเศรษฐกิจจากโควิด-19


เอาอยู่!!! แบงก์ชาติยืนยัน ฐานะการดำเนินงานและเงินกองทุนธนาคารทุกแห่งยังเข้มแข็ง รองรับผลกระทบจากปัญหาเศรษฐกิจจากโควิด-19 ได้

จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจในภาพรวมอย่างหนัก ทำให้หลายฝ่ายมีความกังวลในภาคสถาบันการเงิน โดยเฉพาะธนาคารพาณิชย์ต่างๆ ว่าอาจเกิดปัญหาด้านเสถียรภาพตามไปด้วย

อย่างไรก็ตาม ล่าสุด นายรณดล นุ่มนนท์ รองผู้ว่าการ ด้านเสถียรภาพสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย ได้ออกมาระบุว่า ตั้งแต่ต้นปี 2563 ระบบธนาคารพาณิชย์มีเงินสำรองส่วนเกินอยู่มากจากนโยบายการกันสำรองอย่างเข้มงวดในช่วงหลายปีที่ผ่านมา โดย ณ สิ้นมิถุนายน 2563 อัตราส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง (BIS ratio) ของระบบธนาคารพาณิชย์ อยู่ที่ระดับสูงถึงร้อยละ 19.2 และผลประกอบการยังมีกำไร รวมทั้งสภาพคล่องในระบบการเงินและระบบธนาคารพาณิชย์ยังมีสูงมากด้วย

นอกจากนั้น จากการให้ธนาคารพาณิชย์จัดทำประมาณการฐานะและการดำเนินงานภายใต้ภาวะวิกฤติ (stress test) พบว่า ธนาคารพาณิชย์ทุกแห่งมีระดับเงินกองทุนสูง รองรับภาวะวิกฤติในระดับที่รุนแรงได้ ในขณะที่ภาครัฐและแบงก์ชาติได้ออกมาตรการช่วยเหลือเยียวยาได้อย่างรวดเร็ว ทั้งมาตรการการเงินและการคลังตั้งแต่เกิดปัญหาโควิด-19 ทำให้ช่วยบรรเทาผลกระทบต่อประชาชนและธุรกิจได้มาก และประชาชนและธุรกิจจำนวนมากยังชำระหนี้ได้ตามปกติ

ขณะนี้ แบงก์ชาติและสถาบันการเงินทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดเพื่อเร่งให้ความช่วยเหลือลูกหนี้ และเร่งปรับปรุงโครงสร้างหนี้ เพื่อช่วยให้ลูกหนี้ชำระหนี้ได้สอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจปัจจุบัน ซึ่งจะช่วยให้ธนาคารพาณิชย์สาบริหารจัดการคุณภาพสินเชื่อได้ในเชิงรุก ป้องกันมิให้เกิดเป็นหนี้เสียเพิ่มขึ้นมากจนเป็นปัญหาต่อฐานะและการดำเนินงานของธนาคารพาณิชย์ และต่อเสถียรภาพระบบการเงินไทย

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ธปท.ปรับเงื่อนไข “คลินิกแก้หนี้” เลื่อนโอกาสเป็นหนี้เสีย-เพิ่มช่องก่อหนี้ใหม่