“ออมสิน” ขยายพักชำระหนี้ถึงสิ้นปี ช่วยลูกค้าได้รับผลกระทบโควิด-19

“ออมสิน” ขยายพักชำระหนี้ถึงสิ้นปี ช่วยลูกค้าได้รับผลกระทบโควิด-19


ธนาคารออมสิน ขยายพักชำระหนี้ให้ลูกหนี้ถึงสิ้นปี พร้อมรับกำไรปีนี้หดเหลือ 1.3 หมื่นลบ. หลังช่วยลูกค้าช่วงโควิด-19 แย้มปีหน้าลุยลดดบ.สินเชื่อ- บัตรเครดิตช่วยปชช.ต่อ

นายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า ธนาคารเตรียมขยายมาตรการพักชำระหนี้เงินต้นและดอกเบี้ย เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการและประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ไปจนถึงสิ้นเดือนธ.ค.นี้ จากเดิมมาตรการดังกล่าวจะสิ้นสุดในเดือนก.ย. นี้ เนื่องจากผลกระทบจากโควิด-19 ยังคงมีอยู่ ทำให้รายได้ต่าง ๆ ของลูกค้ายังไม่กลับเข้าสู่ภาวะปกติ

จึงเห็นว่าควรขยายมาตรการดังกล่าวออกไป แต่จะให้เลือกออฟชั่นได้ว่าจะพักชำระหนี้ในลักษณะไหน ทั้งพักทั้งเงินต้นและดอกเบี้ย หรือจะชำระเพียงอย่างใดอย่างหนึ่ง ซึ่งจะทำให้เกิดความยืดหยุ่นมากขึ้น ซึ่งปัจจุบันมีลูกค้าที่พักชำระหนี้ทั้งหมด 3.10 ล้านราย คิดเป็นมูลหนี้ 1.14 ล้านล้านบาท

ส่วนมาตรการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ(ซอฟต์โลน) วงเงิน 150,000 ล้านบาท ขณะนี้ได้ปล่อยไปแล้ว 14,800 ราย คิดเป็นวงเงิน 136,800 ล้านบาท ขณะที่ความคืบหน้ามาตรการสินเชื่อซอฟต์โลน ก้อนใหม่วงเงิน 100,000 ล้านบาท สำหรับกลุ่มท่องเที่ยวนั้น ขณะนี้ได้ส่งเรื่องให้กับกระทรวงการคลังพิจารณาแล้ว

ทั้งนี้ ยอมรับจากปัญหาโควิด-19 ที่ธนาคารได้ออกมาตรการช่วยเหลือลูกค้าไป รวมไปถึงการลดอัตราดอกเบี้ยให้ต่ำลงนั้น จะทำให้กำไรสุทธิอยู่ที่ 12,000-13,000 ล้านบาท โดยในช่วงครึ่งปีแรกมีกำไรสุทธิประมาณ 5,229 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อนที่มีกำไร 24,208 ล้านบาท และปี 2561 มีกำไร 30,842 ล้านบาท

ส่วนการปรับโครงสร้างหนี้ข้าราชการนั้น เบื้องต้นจะใช้แหล่งเงินอื่นในการชำระหนี้ และมาตรการแก้ไขหนี้สนับสนุนจากรัฐบาลและต้นสังกัด ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จภายใน 6 เดือนเช่นกัน ซึ่งปัจจุบันมีสินเชื่อบุคลากรภาครัฐ 577,900 ล้านบาท คิดเป็น 1.11 ล้านราย โดยประกอบด้วย บุคลากรทางการศึกษา 62% ข้าราชการทั่วไป 30% ตำรวจ 5% และทหาร 3%

นอกจากนี้ นายวิทัย ยังกล่าวอีกว่า จากนี้ไปธนาคารจะปรับบทบาทให้เป็น social bank มากขึ้น โดยจะปรับกลยุทธ์ ช่วยคนฐานรากเป็นหลัก ซึ่งเบื้องต้นได้หารือกับกรรมการและผู้บริหารระดับสูงแล้ว และจะเพิ่มฐานลูกค้าในแอพลิเคชั่น My Mo มากขึ้น โดยปัจจุบันอยู่ที่ 10 ล้านราย ซี่งในอนาคตจะขยายบริการในแอพให้เพิ่มมากขึ้น

“เป้าหมายจากนี้ จะเน้นบรรเทาภาระลูกหนี้กลุ่ม Non-Bank ทั้งกลุ่มสินเชื่อบุคคล บัตรกดเงินสด บัตรเครดิต และสินเชื่อจำนำทะเบียนรถ โดยมีเป้าหมายลดดอกเบี้ย 8-10% จากปัจจุบัน อัตราดอกเบี้ยอยู่ที่ 24-28% เพื่อเป็นการบรรเทาภาระให้กับลูกหนี้ จะทำให้แล้วเสร็จภายใน 6 เดือน และเริ่มได้ในปีหน้า” นายวิทัย กล่าวในท้ายสุด

 

ข่าวที่น่าสนใจ

“ออมสิน-ธกส.” นัดทำสัญญาเงินกู้ฉุกเฉินสู้โควิด-19 ดีเดย์เริ่ม 7 พ.ค.นี้

สธ.ชวนประกวดคลิปวิดีโอ “ฐานวิถีชีวิตใหม่ในสถานประกอบการ กรณีโควิด-19”