รัฐบาลเดินหน้าหนุนประชารัฐสร้างไทย มุ่งผลักดันโมเดลใหม่ “ประชาชนเป็นศูนย์กลาง” พัฒนาเศรษฐกิจในประเทศ โดยมีการท่องเที่ยวเมืองรองและชุมชนเป็นฟันเฟืองหลัก แย้มผลักดันชิมช้อมใช้ เฟส 3
นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานมอบนโยบาย “ประชารัฐสร้างไทย พัฒนาล้านนา ขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากอย่างยั่งยืน” กล่าวย้ำว่า รัฐบาลต้องการส่งสัญญาณผ่านนโยบาย “ประชารัฐสร้างไทย” เพื่อดึงความร่วมมือทั้งจากภาครัฐ เอกชน ประชาชน โดยมีจุดมุ่งหมายให้ “ประชาชนเป็นจุดหมายหลัก” เพราะแม้ว่าจีดีพีจะเติบโตสูง แต่ประชาชนรายย่อยไม่ได้รับประโยชน์ การพัฒนาประเทศจึงต้องกระจายความเจริญ กำลังซื้อไปยังต่างจังหวัดให้ทั่วถึง
สำหรับการดูแลรายย่อย กระทรวงการคลังอยู่ระหว่างประเมินผลมาตรการชิมช้อปใช้เฟส 1 และเฟส 2 นับว่ามีประชาชนเข้าร่วมโครงการถึง 13 ล้านคน รัฐบาลจึงต้องการผลักดันโครงการให้ดำเนินต่อเนื่อง หวังส่งเสริม การขับเคลื่อนเศรษฐกิจภายในประเทศให้มีความเข้มแข็งผ่าน การส่งเสริมท่องเที่ยวไปสู่ต่างจังหวัดในเมืองรอง หรือการท่องเที่ยวในระดับชุมชน หวังลดพึ่งการภาคส่งออก ชะลอตัวลงเศรษฐกิจโลกผันผวน จึงต้องหันมาเน้นการสร้างภูมิคุ้มกันในประเทศ ดังนั้นมาตรการโครงการ ชิมช้อปใช้ เฟส 3 ยังมีความจำเป็น แต่ขอให้รอแผนการศึกษาของกระทรวงการคลังในการศึกษารายละเอียด เมื่อประชาชนเกิดการใช้จ่ายจะเกิดเงินหมุนเวียนเพิ่มเติมอีกหลายรอบในเศรษฐกิจ การส่งเสริมโครงการ “ชิมช้อปใช้” จึงยังไม่จบอยู่แค่นี้ นอกจากนี้ยังต้องผลักดันการดูแลรายย่อยผู้ถือบัตรสวัสดิการฯ ด้วยการดูแลสุขภาพเพิ่มเติม เพื่อดูแลความมั่นคงของครอบครัว รัฐบาลจึงต้องช่วยหาคำตอบให้กับประชาชนรายย่อย
นายสมคิด กล่าวเพิ่มเติมว่า การยกระดับท่องเที่ยวเมืองรอง การท่องเที่ยวชุมชน รัฐบาลได้ทุ่งงบด้านการวิจัยและพัฒนา เพื่อให้สถาบันการศึกษา ร่วมพัฒนาผ่านนวัตกรรมชุมชน การส่งเสริมท่องเที่ยวเมืองรอง การส่งนักศึกษา บัณฑิต มาช่วยพัฒนาเศรษฐกิจชุมชน เพื่อใช้เป็นโมเดลใหม่ “ พัฒนาเศรษฐกิจชุมชน” ให้เข้มแข็ง สำหรับการส่งสัญญาณตัด GSP ของสหรัฐ ไม่อยากให้ทุกฝ่ายเป็นกังวล เพราะเศรษฐกิจไทยพัฒนาไปไกลมากแล้ว สามารถชำระหนี้ให้กำกับกองทุน IMF ภายใน 7 ปี เร็วกว่ากำหนด นับว่าเป็นสิ่งน่าภาคภูมิใจ และการให้สิทธิ์ GSP เพื่อดูและประเทศกำลังพัฒนา เมื่อเป็นพันธมิตรทางเศรษฐกิจด้วยกัน จึงต้องหารือและเจรจาร่วมกันเพิ่มเติม
นายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง เปิดเผยว่า ผู้บริหารธนาคารกรุงไทย รับรายว่า การลงทะเบียนชิมช้อปใช้เฟส 2 มีผู้ลงทะเบียนครบเต็มจำนวน 3 ล้านคน ทำให้มีผู้ลงทะเบียนร่วมมาตรการชิมช้อปใช้รวม 13 ล้านคน เพื่อรองรับการใช้จ่ายของประชาชนผ่านแอปพลิเคชั่น “เป๋าตัง” กับร้านค้า ร่วมโครงการได้จนถึงสิ้นเดือน ธ.ค. 2562 ธ.กรุงไทย เตรียมจับมือร่วมกับ ททท. ในวันที่ 1 พ.ย. 62 เปิดตัวแคมเปญใหญ่ รองรับ ชิมช้อปใช้ ด้วยการเชิญผู้ประกอบการ โรงแรม และที่พักทั่วประเทศให้มาร่วมโครงการ เมื่อใช้เวลาประเมินโครงการ 1 เดือน กระทรวงการคลัง จะเสนอแนวทางขับเคลื่อนชิมช้อปใช้เพิ่มเติมอย่างไรบ้าง .
ข่าวอื่นที่น่าสนใจ
