สุริยะ สั่งลุยช่วย SME ทั้งระบบ เตรียมหารือคลัง-แบงค์ชาติ ปลดล็อกเครดิตบูโรให้ผู้ประกอบการ โวยสื่อบางสำนักจ้องโจมตีเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อน ยันไม่มีและไม่ทำแน่นอน
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมให้สัมภาษณ์ภายหลัง เป็นประธานเปิดงาน Thailand Industry Expo 2019 ซึ่งจัดขึ้น ณ อิมแพค เมืองทองธานี ว่า จากภาวะเศรษฐกิจโลกในปัจจุบันเกิดภาวะถดถอย ซึ่งประเทศไทยกำลังเผชิญความท้าทาย ซึ่งทางกระทรวงอุตสาหกรรมจะต้องมีบทบาทเข้ามาร่วมกับภาคเอกชนไม่ว่าจะเป็นหอการค้าไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศจัดทำยุทธศาสตร์เพื่อตอบสนองแก้ไขปัญหานี้ได้
ดังนั้นนโยบายสำคัญที่ควรจะต้องดำเนินการ คือ
1.เรื่องของอุตสาหกรรมเป้าหมาย 12 อุตสาหกรรม ทั้งเรื่องของยานยนต์ อาหาร เทคโนโลยีชีวภาพ การแพทย์ ซึ่งต้องอาศัยเทคโนโลยีเข้ามาช่วย โดยหากสามารถขับเคลื่อนได้ตามเป้าหมาย ก็จะสิ่งซึ่งสามารถสนับสนุนภาคเอกชนได้
2. การให้ความช่วยเหลือ SME ที่ประสบปัญหาในเรื่องของเงินทุน เทคโนโลยีและนวัตกรรมต่างๆ ซึ่งกระทรวงอุตสาหกรรมจะต้องมีบทบาทเข้าไปช่วยเหลือ
ทั้งนี้เท่าที่ได้รับรายงานพบว่า ผู้ประกอบการบางรายมีปัญหาเรื่องของการขอสินเชื่อเพิ่มเนื่องจากติดเครดิตบูโร แต่หนี้ดังกล่าวได้รับการชำระเรียบร้อยแล้ว แต่ก็ยังมีกฎเกณฑ์ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)ที่ทำให้ธนาคารไม่สามารถปล่อยกู้ให้กับผู้ประกอบการกลุ่มดังกล่าว ซึ่งผมจะต้องปรึกษาหารือร่วมระหว่างกระทรวงการคลังและธปท. อีกครั้งหนึ่ง ซึ่งกระทรวงการคลังเองก็มีความพยายามที่จะช่วยเหลือผู้ประกอบการ SME ทั้งหมด โดยหาก SME ซึ่งมีความเกี่ยวโยงกับภาคเกษตรฟื้น ก็จะสามารถทำให้เศรษฐกิจของประเทศเติบโตไปได้ด้วย
3. เรื่องของสิ่งแวดล้อม การสร้างโรงงานสีเขียว การนำนวัตกรรมเข้ามาช่วยเหลือในการผลิตเพื่ออกแบบในเกิดเป็น กรีน เทคโนโลยี ผลิตแล้วสามารถนำมารีไซเคิล
ขณะที่ในเรื่องของค่าแรงที่จะเพิ่มขึ้นนั้น ทางด้าน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้มอบหมายลงมาให้มีการพูดคุยในระบไตรภาคี ทั้งภาครัฐ เอกชน และแรงงาน เพื่อให้ได้ผลสรุปก่อนนำเสนอไปสู่การพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง
ในส่วนของนโยบายที่เกี่ยวข้องกับอ้อยและน้ำตาลนั้น จะต้องมีการพิจารณาทั้งระบบ เพราะจะต้องคำนึงถึงผลกระทบของเกษตร โรงงานผู้ผลิต และข้อระเบียบของ องค์การการค้า (WTO) ด้วย
ด้านโครงการอีอีซี จะมีการขยายโครงการดังกล่าวไปยังภูมิภาคต่างๆ เพราะจากการลงพื้นที่ในระหว่างการเลือกตั้งนั้น พบว่าพี่น้องประชาชนในพื้นที่ทั่วประเทศมีการต้องการเขตเศรษฐกิจพิเศษเพื่อการพัฒนาในภูมิภาคของตนเองเช่นกัน
“เรื่องที่ผมดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีแล้วจะมีผลประโยชน์ทับซ้อน เอื้อประโยชน์ในกลุ่มธุรกิจเครือญาติผมนั้น ขอเรียนว่าไม่จำเป็น และผมก็จะไม่ทำด้วย โดยประเด็นหลักเรื่องนี้ผมตั้งข้อสังเกตุว่ามีสื่อบางสื่อพยายามนำมาโจมตีผม โดยผมประโยชน์ทับซ้อนนี้ผมได้อธิบายไปแล้ว และไม่มีแน่นอน ไม่ต้องเป็นห่วง” นายสุริยะ กล่าวในตอนท้าย
ข่าวอื่นที่เกี่ยวข้อง
ธพว. ขนสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำลุย Thailand Industry Expo 2019
