‘สมาคมเหล็ก’ร้องนายกฯ ต่ออายุมาตรการป้องนำเข้าเหล็ก

‘สมาคมเหล็ก’ร้องนายกฯ ต่ออายุมาตรการป้องนำเข้าเหล็ก


ที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ สำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี นายนาวา จันทนสุรคน นายกสมาคมเหล็กรีดแผ่นร้อนไทย พร้อมด้วยกลุ่ม 7 สมาคมผู้ประกอบการอุตสาหกรรมเหล็กไทย เข้ายื่นหนังสือต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เพื่อขอให้ต่ออายุมาตรการปกป้องการนำเข้าสินค้า สินค้าเหล็กแผ่นรีดร้อน หรือ safeguard จากเดิมที่จะหมดอายุในวันที่ 26 ก.พ.นี้ โดยขอให้ต่ออายุมาตรการนี้ออกไปอีก 3 ปี เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดผลกระทบอย่างรุนแรงต่ออุตสาหกรรมเหล็กทั้งระบบ
ทั้งนี้ เหล็กรีดร้อนถือเป็นส่วนประกอบหรือวัตถุดิบที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมเหล็กทั้งซัพพายเชนมีความต้องการใช้ในประเทศ กว่าปีละ 7 – 8 ล้านตัน โดยมีการผลิตในประเทศประมาณ 3 ล้านตันและนำเข้าจากต่างประเทศปีละ 4 ล้านตัน ซึ่งบริษัทเหล็กในประเทศได้ใช้กำลังในการผลิตเหล็กประเภทนี้อยู่ที่ 30% ซึ่งที่ผ่านมามาตรการนี้ ได้ทำให้บริษัทที่ดำเนินการผลิตเหล็กประเภทนี้ยังคงกำลังการผลิตอยู่ได้ ช่วยส่งผลดีให้ผู้ประกอบการเหล็กในประเทศที่ใช้เหล็กรีดแผ่นร้อนมีวัตถุดิบที่ราคาถูกกว่านำเข้าจากต่างประเทศ ซึ่งหากยกเลิกมาตรการดังกล่าวนี้ไป จะทำให้ปริมาณการนำเข้าเหล็กชนิดนี้มีเพิ่มขึ้น จนทำให้ผู้ประกอบการในประเทศไม่สามารถแข่งขันได้และจะส่งผลกระทบโดยตรงต่อการดำเนินกิจการ ซึ่งเคยมีเหตุการณ์ลักษณะนี้มาแล้วในช่วงปี 2555 – 2556 หากเกิดเหตุการณ์เช่นนั้นอีก อาจกระทบกับสถาบันการเงินที่ปล่อยกู้ให้กับผู้ประกอบการเหล็กซึ่งถือว่าเป็นความเสี่ยงต่อภาพรวมของเศรษฐกิจ
“ในช่วงที่มีสงครามการค้ามีหลายประเทศที่ใช้มาตรการปกป้องการค้าหากไทยยกเลิก safeguard เท่ากับเราพังกำแพงที่ปกป้องเราเปิดโอกาสให้สินค้าเหล็กจากบางประเทศเข้ามาทุ่มตลาด การขอให้ขยายมาตรการ safeguard ออกไปอีก 3 ปีถือว่ามีความจำเป็นและไม่ขัดต่อหลักขององค์การการค้าโลก (WTO) ที่อนุญาตให้แต่ละประเทศใช้มาตรการนี้ได้ไม่เกิน 10 ปี และการให้โอกาสผู้ประกอบการได้ปรับตัวอีก 3 ปีจะทำให้ไม่กระทบกับอุตสาหกรรมเหล็กทั้งระบบที่มีการจ้างงานกว่า 1 แสนคน มีการลงทุนกว่า 2 แสนล้านบาท รวมทั้งช่วยให้ไม่เกิดความเสี่ยงต่อสถาบันการเงินที่ปล่อยสินเชื่อให้กับกลุ่มอุตสาหกรรมเหล็กด้วย”นายนาวา กล่าว