ไทยพบโควิดเดลตากลายพันธุ์ 4 แบบ คาดมาจากสายพันธุ์เดลตาที่ระบาดในไทย หลังสุ่มตรวจผู้ติดเชื้อใน 8 จังหวัด รวม 13 ราย ชี้เป็นสายพันธุ์ย่อยที่พบระบาดในประเทศอื่นด้วย ไม่ใช่สายพันธุ์ไทย หรือสายพันธุ์ใหม่ พร้อมเฝ้าระวังและติดตามต่อเนื่อง
นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เปิดเผยว่า กรณีที่พบการกลายพันธุ์ของโควิด-19 สายพันธุ์เดลตา ซึ่งเป็นสายพันธุ์ที่ระบาดหลักในประเทศไทยนั้น มีรายงานการตรวจเจอในต่างประเทศเหมือนกัน เช่น AY.4 อังกฤษ 67% อเมริกา 13% เดนมาร์ก 3% สเปน 2% ฝรั่งเศส 2%
ดังนั้นจึงไม่ใช่สายพันธุ์ใหม่ หรือสายพันธุ์ไทย โดยขณะนี้กำลังเฝ้าระวังและติดตามการแพร่ระบาด หรือการส่งผลทำให้มีอาการรุนแรงหรือไม่ต่อไป แต่จากที่มีการติดตามผู้ป่วยที่ตรวจเจอสายพันธุ์ย่อยยังไม่ได้มีอาการที่รุนแรงขึ้นกว่าเดิม
ขณะที่ข้อมูลจากต่างประเทศ 4 สายพันธุ์ย่อยที่พบนั้น ยังไม่ได้เป็นสายพันธุ์ที่ถูกจัดชั้นว่าเป็นสายพันธุ์ที่น่าวิตกกังวลจากองค์การอนามัยโลก(WHO)
ด้าน ศ.เกียรติคุณ ดร.วสันต์ จันทราทิตย์ หัวหน้าศูนย์จีโนมทางการแพทย์ คณะแพทยศาสตร์ รพ.รามาธิบดี ม.มหิดล กล่าวว่าสายพันธุ์เดลตา มีการกลายพันธุ์มากถึง 60 ตำแหน่งเมื่อเทียบกับสายพันธุ์ดั้งเดิมอู่ฮั่น มีสายพันธุ์ย่อยที่เรียกว่า เอวาย(AY) ตั้งแต่จุด 1 ถึง จุด 22 และมีสายพันธุ์ย่อยออกไปอีก 27 จุด เนื่องจากสายพันธุ์ย่อยAY บางจุดมีการแตกย่อยออกอีก
ในส่วนของไทย พบ 4 สายพันธุ์ย่อย คือ AY.4 พบในปทุมธานี 4 คน AY.6 พบในกทม. 1 คน AY.10 พบในกทม. 1 คน และAY.12 พบในกทม. 1 คน
ซึ่ง เดลตา AY.4 มีรายงานพบมากที่สุด คือ ประเทศอังกฤษ 67 % ช่วงเดือน มิ.ย.-ส.ค. ขณะที่ไทยพบที่บุรีรัมย์ 1 คน กำแพงเพชร 1 คน ปทุมธานี 4 คน เชียงใหม่ 1 คน สมุทรปราการ 1คน และชลบุรี 1 คน
ส่วน AY.6 มีรายงานพบมากที่สุด คือ ประเทศอังกฤษ 79 % ในช่วงเดือน ก.ค. ในไทย พบที่ กทม. 1 คน
ด้าน AY.10 ประเทศที่รายงานพบมากที่สุดคือ อังกฤษ 71 % ในช่วงก.ค. ในไทยพบที่กทม. 1 คน และ AY.12 ประเทศที่รายงานพบมากที่สุด คือ เดนมาร์ก และอังกฤษ ประเทศละ 11 % ในช่วงก.ค. –ส.ค. ในไทยพบที่สุราษฎร์ธานี 2 คน และกทม. 1 คน
อย่างไรก็ตาม การที่ประเทศใดมีรายงานการตรวจพบมาก ไม่ได้แปลว่าประเทศนั้นมีจำนวนของสายพันธุ์นั้นเป็นจำนวนมาก แต่เพียงเป็นประเทศที่มีการสุ่มตรวจและรายงานจำนวนมากกว่าประเทศอื่นๆ
“โดยข้อสรูปของการพบสายพันธุ์ย่อย AY ทั้ง 4 ตัว ในประเทศไทย พบว่าเป็นลูกหลานสายพันธุ์หลักเดลตาที่ระบาดในประเทศไทยอยู่แล้ว ซึ่งต้องมีการควบคุมดูแลอีกรูปแบบหนึ่ง โดยเฉพาะการเฝ้าระวังการเพิ่มจำนวนในท้องถิ่น โดยนอกจากประเทศไทยเอง ก็มีรายงานพบในต่างประเทศด้วย และยังไม่มีข้อมูลทางวิทยาศาสตร์และคลินิกมากพอที่จะบอกว่า ดื้อต่อวัคซีนมากกว่า หรือน้อยกว่า สานพันธุ์เดลตาหลัก” ศ.เกียริติคุณ ดร.วสันต์ กล่าว
ขณะที่ นพ.สุรัคเมธ มหาศิริมงคล ผอ.สถาบันชีววิทยาศาสตร์ทางการแพทย์ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวว่า สายพันธุ์เดลตา มีการกลายพันธุ์อยู่ตลอดเวลา เช่นเดียวกับไวรัสชนิดอื่น โดยข้อมูลล่าสุดเมื่อวันที่ 9 ส.ค.64 พบว่ามีสายพันธุ์ย่อย AY.1 ไปจนถึง .25 ซึ่งสายพันธุ์เดลตา ทุกตัว ยังคงมีคุณสมบัติแพร่กระจายเร็ว อาการรุนแรง
เรื่องที่น่าสนใจ
