แสนสิริ ตอกย้ำความเป็น Design Leader และผู้นำด้านความยั่งยืน ด้วยการประกาศสเกลอัพ Green Mission ครั้งใหญ่ ขานรับนโยบายรัฐและกระแสโลก ด้วยการปรับเป้าหมายสู่การเป็นองค์กรที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ให้เร็วขึ้นถึง 15 ปี จากเดิมปี 2065 เป็นปี 2050 ชี้ชัดว่านี่ไม่ใช่แค่พันธกิจด้านสิ่งแวดล้อม แต่คือ “กลยุทธ์การอยู่รอด” ของธุรกิจในเวทีโลก
สเกลอัพ Sansiri Sustainable Design สู่ 25 โครงการทั่วประเทศเดินหน้าสู่ความยั่งยืนเต็มสูบ ผ่านการ “คิดใหญ่และทำจริง” อย่างต่อเนื่อง โดยการนำหลักการ Green Architecture & Design มาเป็นหัวใจสำคัญในการพัฒนาสินค้า “Sansiri Sustainable Design” ซึ่งเป็นแนวคิดการสร้างที่อยู่อาศัยที่โอบรับนวัตกรรม ความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม และสุขภาวะที่ดี

ความมุ่งมั่นนี้ถูกพิสูจน์ด้วยการถอดรหัสความสำเร็จจาก “Sansiri Sustainable Home Prototype 1” บ้านต้นแบบนวัตกรรมยั่งยืนแห่งแรกของไทย จากนั้นได้ขยายผลและประยุกต์ใช้สู่ 25 โครงการใหม่ทั่วประเทศ ครอบคลุมทั้งบ้านเดี่ยว (เช่น เศรษฐสิริ) และคอนโดมิเนียม (เช่น เดอะ เบส และดีคอนโด) รวมถึง 2 โครงการใหม่อย่าง วาลเลส เฮาส์ และ ไวด์เด็น บาย แสนสิริ

4 แกนหลักแห่งความยั่งยืนที่ “จับต้องได้” และ “เห็นผลจริง”
Sansiri Sustainable Design มุ่งเน้นการส่งมอบ “Sustainable Happiness: สร้างสุขที่ยั่งยืน” ผ่านการออกแบบที่ลดการใช้พลังงาน และส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่ดีในระยะยาว ด้วย 4 แกนความยั่งยืนหลัก
- Cooliving Design (นวัตกรรมบ้านเย็นสู้โลกร้อน):
- การออกแบบที่คำนึงถึงทิศทางแสงแดดและลมตามธรรมชาติ
- ใช้ กระจกเขียวตัดแสงพิเศษ ที่ป้องกันรังสี UV ได้สูงถึง 93% และรังสีอินฟราเรดได้ 97% ทำให้บ้านเย็นสบายแม้อากาศร้อนจัด
- Resource Efficiency (ประสิทธิภาพการใช้ทรัพยากรสูงสุด):
- เพิ่มการใช้พลังงานสะอาด และส่งเสริมนวัตกรรมการจัดการของเสียและทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ
- Green Materials (ใช้วัสดุรักษ์โลก ลดคาร์บอน):
- มุ่งเน้นการใช้วัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและกระบวนการผลิตที่มีการปล่อยคาร์บอนต่ำ
- นำแนวคิด Upcycling วัสดุเหลือใช้จากการก่อสร้าง (เช่น เศษหินอ่อน) มาออกแบบเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ ลดขยะ
- Health and Well-being Design (ออกแบบเพื่อสุขภาพและสุขภาวะที่ดี):
- มอบอากาศบริสุทธิ์ด้วยนวัตกรรมการกรองอากาศและฆ่าเชื้อโรค พร้อม ระบบแรงดันบวก ป้องกันฝุ่น PM และมลพิษจากภายนอก
- ใช้วัสดุตกแต่งภายในและเฟอร์นิเจอร์คุณสมบัติ Zero-VOCs (ปลอดสารระเหย)
- ส่งเสริมคอมมูนิตี้ยั่งยืนด้วยพื้นที่ Sansiri Backyard และการออกแบบเพื่อทุกวัย (Universal Design)
Net Zero 2050: จุดเปลี่ยนอุตสาหกรรม
จากข้อมูลสถิติที่แสดงให้เห็นว่ากรุงเทพฯ เป็นหนึ่งในจังหวัดที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกมากที่สุดในประเทศไทย โดยมีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกมากกว่า 40 ล้านตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าต่อปี ด้วยจำนวนประชากรที่มากกว่า 10 ล้านคน ส่งผลให้เกิดการผลิตและบริโภคที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกมากที่สุด นี่จึงเป็นโอกาสสำคัญที่แสนสิริได้แสดงพลังให้เห็นถึงการ “คิดใหญ่ – ทำจริง – ต่อเนื่อง” เพื่อพิสูจน์ว่า Sustainability ไม่ได้เป็นแค่แนวคิดเพียงเท่านั้น แต่เป็นกุญแจสำคัญที่ขับเคลื่อนการสร้างเมืองแห่งอนาคตที่มีความยั่งยืนได้ในที่สุด

การดำเนินงานในครั้งนี้ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่จะยกระดับอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ไทยตั้งแต่ต้นน้ำไปยังปลายน้ำสู่มาตรฐานสากล และตอกย้ำตัวจริงในฐานะผู้นำด้านดีไซน์ คุณภาพโครงการ การบริการหลังการขาย และความยั่งยืนที่แท้จริง เพื่อพุ่งสู่เป้าหมายที่ยิ่งใหญ่คือการเป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์แห่งแรกที่ตั้งเป้าหมายสู่การเป็นองค์กรที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2050

Net Zero 2050 ไม่ใช่แค่ “พันธกิจด้านสิ่งแวดล้อม” แต่คือ “กลยุทธ์การอยู่รอด” ของทุกธุรกิจในประเทศไทยบนเวทีโลก ในยุคที่กฎเกณฑ์การค้าและข้อกำหนดด้าน ESG เข้มงวดขึ้นเรื่อย ๆ ธุรกิจที่ปรับตัวทันและผสานความยั่งยืนเป็นหัวใจหลักของกลยุทธ์ ทุกองค์กร และทุกภาคส่วนต้องเริ่มลงมือ “ทำจริง” ตั้งแต่วันนี้ เพื่อรับมือกับการเปลี่ยนผ่านครั้งใหญ่ที่สุดในระดับโลกต่อไป
อ่านบทความเพิ่มเติม:
- เปลี่ยน SMEs สู่ “สังคมคาร์บอนต่ำ” ขับเคลื่อนสู่เส้นทางความสำเร็จของ “พาเลทเมกเกอร์ กรุ๊ป” ที่เริ่มจากเรียนรู้และเข้าใจ
- “บ้านปู” จุดพลัง SE ไทย ใช้วิทยาศาสตร์แก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน
- หาดทิพย์ จับมือพันธมิตร เปิดตัว “Southern Recycling Alliance” ยกระดับรีไซเคิลขวด PET สู่ rPET ครั้งแรกของอุตสาหกรรมเครื่องดื่มไทย
