รัฐบาลทรัมป์ เปิดป่าสงวนแห่งชาติ 50% สั่งตัดไม้เพิ่ม 700 ล้านไร่ เพื่อนำไปแปรรูป ลั่น! ลดพึ่งพาการนำเข้าจากต่างประเทศ แถมช่วยลดความเสี่ยงจากไฟป่าด้วย
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศคำสั่งเมื่อเดือนที่แล้ว เกี่ยวกับการวางรากฐานสำหรับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในด้านการจัดการป่าไม้ ด้วยการเตรียมส่งคนไป ‘ตัดไม้ในป่าสงวนแห่งชาติ’ 280 ล้านเอเคอร์ หรือประมาณ 700 ล้านไร่ และสั่งเพิ่มปริมาณการตัดไม้ขึ้นอีก 25% เพื่อนำมาเพิ่มในอุตสาหกรรมไม้แปรรูป โดยอ้างว่า “นโยบายของรัฐบาลกลางเข้มงวดเกินไป” ทำให้สหรัฐอเมริกาต้องพึ่งพาการนำเข้าไม้จากต่างประเทศ
“สิ่งสำคัญคือเราต้องยกเลิกนโยบายเหล่านี้และเพิ่มการผลิตไม้ในประเทศเพื่อปกป้องความมั่นคงของชาติและเศรษฐกิจของเรา” คำสั่งดังกล่าวระบุเพิ่มเติม ซึ่งคำสั่งนี้ ทำให้ป่าของประเทศเกือบ 60% ต้องตกอยู่ภายใต้คำสั่งนี้
Cr. ภาพ : https://www.voathai.com/
นอกจากนี้ยังอ้างถึงสถานการณ์ฉุกเฉินด้านการจัดหาไม้และความเสี่ยงจากไฟป่า ทั้งยังหลีกเลี่ยงการตรวจสอบด้านสิ่งแวดล้อมด้วย
นักวิทยาศาสตร์บางคนกล่าวว่าการตัดไม้ทำลายป่าโดยเร็ว โดยเฉพาะต้นไม้ที่ยืนต้นและทนไฟได้นั้น จะเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดไฟป่าที่ลุกลามอย่างรวดเร็ว
แชด แฮนสัน นักวิทยาศาสตร์ด้านไฟป่าจากโครงการจอห์น มิวร์ กล่าวว่า สิ่งที่เลวร้ายกว่านั้นคือ คำสั่งของฝ่ายบริหารถูกสร้างขึ้นบนพื้นฐานความโกหก โดยทรัมป์อ้างอย่างเท็จ ๆ ว่าการทำไม้เพิ่มขึ้นจะช่วยลดไฟป่าและปกป้องชุมชนได้ ในขณะที่หลักฐานมากมายมหาศาลกลับแสดงให้เห็นว่าตรงกันข้ามโดยสิ้นเชิง
แฮนสันกล่าวว่า การตัดไม้ทำให้สภาพภูมิอากาศในป่าเปลี่ยนแปลงไป จะทำให้อากาศร้อนและแห้งแล้งมากขึ้น ซึ่งช่วยให้ไฟป่า เช่น เหตุการณ์ที่เพิ่งสร้างความเสียหายให้กับลอสแองเจลิส ลุกลามเร็วขึ้น
“แนวทางที่ชัดเจนของทรัมป์ในการตัดไม้ในป่าห่างไกลและบอกกับชุมชนว่าการกระทำดังกล่าวจะช่วยดับไฟได้ เป็นสาเหตุที่ทำให้เมืองต่าง ๆ จำนวนมากถูกทำลายด้วยไฟในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา และทำให้มีผู้เสียชีวิตหลายร้อยคน” เขากล่าว
ที่ชัดเจนของทรัมป์ในการตัดไม้ในป่าห่างไกลและบอกกับชุมชนว่าการกระทำดังกล่าวจะช่วยดับไฟได้ เป็นสาเหตุที่ทำให้เมืองต่าง ๆ จำนวนมากถูกทำลายด้วยไฟในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา และทำให้มีผู้เสียชีวิตหลายร้อยคน” เขากล่าว
แน่นอนว่าคำสั่งนี้ได้รับเสียงต่อต้านจากนักสิ่งแวดล้อม เนื่องจากป่าสงวนแห่งนี้ ถือเป็นแหล่งพักผ่อนหย่อนใจอันล้ำค่าของภาคตะวันตกเฉียงเหนือ เป็นพื้นที่สาธารณะสำหรับการตั้งแคมป์และเดินป่ามีความยืดหยุ่นเพราะสามารถพาสัตว์เลี้ยงอย่างสุนัขและม้า รวมถึงการนำรถจักรยานยนต์และจักรยานเสือภูเขาเข้าไปได้
ขณะที่ กลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ประณามความพยายามล่าสุดของทรัมป์ในการหลีกเลี่ยงกฎหมายคุ้มครองสัตว์ใกล้สูญพันธุ์ซึ่งคุ้มครองสัตว์ประมาณ 400 สายพันธุ์ในป่าสงวน รวมถึงหมีกริซลี่ นกฮูกจุด และปลาแซลมอนป่า และเตือนว่าการตัดไม้เพิ่มมากขึ้นอาจทำให้แหล่งน้ำที่ชาวอเมริกันหลายล้านคนต้องพึ่งพาปนเปื้อนได้
“คำสั่งของทรัมป์จะทำให้ต้องใช้เลื่อยยนต์และรถปราบดินทำลายป่าของรัฐบาลกลาง การตัดไม้ทำลายป่าในพื้นที่สวยงามเหล่านี้จะเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดไฟไหม้ ส่งผลให้สัตว์หลายชนิดสูญพันธุ์ ทำให้แม่น้ำและลำธารของเราปนเปื้อน และทำลายแหล่งพักผ่อนหย่อนใจระดับโลก” แรนดี สปิแวก ผู้อำนวยการฝ่ายนโยบายที่ดินสาธารณะของศูนย์ความหลากหลายทางชีวภาพกล่าว
อ้างอิง
https://geographical.co.uk/news/trump-orders-for-increased-logging-in-national-forests
https://www.theguardian.com/us-news/2025/mar/03/trump-national-forest-executive-order
บทความอื่น ที่น่าสนใจ
