ใจเด็ดไม่ไหว! เมื่อโดนัลด์ ทรัมป์ออกแถลงการณ์ที่อาจทำให้ iPhone ในมือคุณกลายเป็นของหายากในอนาคต หลังขู่เรียกเก็บภาษีนำเข้าสูงลิ่วถึง 25% สำหรับสมาร์ทโฟนที่ไม่ได้ผลิตในอเมริกา
เพียงแค่คำประกาศเดียว หุ้น Apple ดิ่งทันที 2.6% มูลค่าระเหยไป 70,000 ล้านดอลลาร์ในเวลาไม่ถึงวัน ขณะที่นักวิเคราะห์เริ่มคำนวณว่า หาก Apple จริงจังกับการย้ายฐานผลิตกลับอเมริกา iPhone รุ่นใหม่อาจมีราคาพุ่งไปที่ 3,500 ดอลลาร์ หรือราว 105,000 บาท – แพงกว่าปัจจุบันถึง 3 เท่าตัว!
นี่ไม่ใช่แค่การเมือง แต่เป็นการเปลี่ยนแปลงกติกาของอุตสาหกรรมเทคโนโลยีโลกที่จะส่งผลต่อทุกคนที่ใช้สมาร์ทโฟน

Cr. ภาพ : Uzalendo News
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ได้ประกาศนโยบายที่อาจเขย่าขวัญวงการเทคโนโลยีโลก เมื่อขู่เรียกเก็บภาษีนำเข้าสูงถึง 25% สำหรับสมาร์ทโฟนจากบริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง Apple และ Samsung หากไม่ย้ายฐานการผลิตกลับมายังสหรัฐอเมริกา
เป้าหมายชัดเจน บังคับให้ยักษ์ใหญ่เทคกลับบ้าน
การเคลื่อนไหวครั้งนี้ไม่ใช่แค่คำขู่เปล่า ทรัมป์ได้แสดงจุดยืนอย่างชัดเจนในการแถลงข่าวที่ทำเนียบขาว พร้อมทั้งโพสต์ข้อความสนับสนุนบน Truth Social ส่งผลให้หุ้น Apple ร่วงลงทันที 2.6% หรือคิดเป็นมูลค่าตลาดที่หายไปกว่า 70,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐในเพียงวันเดียว
“หาก Apple ไม่ผลิต iPhone สำหรับตลาดอเมริกันภายในประเทศ พวกเขาจะต้องเผชิญกับภาษีอย่างน้อย 25%” ทรัมป์กล่าวอย่างเด็ดขาด โดยเน้นย้ำว่ามาตรการนี้จะครอบคลุม Samsung และผู้ผลิตโทรศัพท์รายอื่นด้วย “เพื่อความเป็นธรรม”

ความท้าทายของการย้ายฐานผลิต
ทั้ง Apple และ Samsung ต่างก็มีฐานการผลิตหลักกระจายอยู่ทั่วเอเชีย โดย Apple พึ่พาการประกอบ iPhone จากจีนถึง 90% ขณะที่ Samsung มีโรงงานหลักในเวียดนาม เกาหลีใต้ และอินเดีย การย้ายฐานการผลิตขนาดใหญ่กลับสหรัฐฯ จึงเป็นเรื่องที่ซับซ้อนและต้องใช้เวลานาน
ในอดีต Apple เคยพยายามหาทางเลี่ยงสงครามการค้าโดยการพิจารณาใช้อินเดียเป็นฐานการผลิต iPhone สำหรับส่งออกไปยังสหรัฐฯ แต่ทรัมป์ได้แสดงความไม่พอใจอย่างชัดเจน โดยบอกกับ ทิม คุก ซีอีโอของ Apple ว่า “อเมริกาต้องการให้ Apple สร้างโรงงานในอเมริกา ไม่ใช่อินเดีย”

ราคา iPhone อาจพุ่งสูงสุดขีด
นักวิเคราะห์จากบริษัท Wedbush Securities ได้ออกมาเตือนถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น หาก Apple ต้องย้ายการผลิตมายังสหรัฐฯ ด้วยต้นทุนแรงงานที่สูงกว่าและการขาดแคลนโครงสร้างพื้นฐานที่เหมาะสม iPhone รุ่นใหม่อาจมีราคาสูงถึง 3,500 ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งแพงกว่าปัจจุบันถึงสามเท่า
ตัวเลขนี้สะท้อนถึงความยากลำบากในการหาโรงงานและบุคลากรที่มีความยืดหยุ่นเทียบเท่ากับที่มีอยู่ในจีนและประเทศอื่นในเอเชีย ซึ่งได้พัฒนาระบบการผลิตมาอย่างยาวนาน
กลยุทธ์หลีกเลี่ยงภาษีอาจใช้ไม่ได้ผล
สถานการณ์นี้ชี้ให้เห็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในกลยุทธ์การค้าของทรัมป์ แทนที่จะเจรจาการค้าเป็นรายประเทศ การพิจารณาเก็บภาษีในระดับบริษัทจะทำให้กลยุทธ์การใช้ประเทศที่สาม (third country strategy) ที่ทั้ง Apple และ Samsung เคยใช้หลีกเลี่ยงภาษีไม่สามารถใช้ได้อีกต่อไป
Samsung ที่เคยพิจารณาส่งออกอุปกรณ์จากโรงงานในอินเดียไปยังสหรัฐฯ เพื่อหลีกเลี่ยงอัตราภาษีที่สูงกว่า อาจต้องปรับกลยุทธ์ใหม่หมด

ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมและผู้บริโภค
นโยบายนี้สร้างความไม่แน่นอนอย่างมากต่อทั้งอุตสาหกรรมเทคโนโลยีและผู้บริโภคชาวอเมริกัน ในระยะสั้น ผู้บริโภคอาจต้องเผชิญกับราคาสมาร์ทโฟนที่แพงขึ้นอย่างมาก ขณะที่บริษัทเทคโนโลยีต้องตัดสินใจเลือกระหว่างการรับภาระภาษีที่หนักหนวงหรือการลงทุนมหาศาลในการสร้างโรงงานใหม่
สำหรับ Apple ที่มีรายได้จากสหรัฐฯ คิดเป็นสัดส่วนใหญ่ของยอดขายทั่วโลก การตัดสินใจครั้งนี้อาจส่งผลต่อแผนธุรกิจระยะยาวอย่างมีนัยสำคัญ
การเคลื่อนไหวของทรัมป์ครั้งนี้จึงไม่เพียงแค่เป็นการเมืองการค้า แต่เป็นการเปลี่ยนแปลงกติกาของอุตสาหกรรมเทคโนโลยีโลกที่อาจส่งผลกระทบไปยังผู้บริโภคทั่วโลกในท้ายที่สุด
อ้างอิง
https://www.cnbc.com/2025/05/23/trump-tariff-apple-iphones-not-made-in-the-us.html
บทความอื่น ที่น่าสนใจ
