อิตาลีจับกุมเจ้าของโรงงานชาวจีน ฐานเอารัดเอาเปรียบแรงงานในอุตสาหกรรมแฟชั่น
มิลาน – 20 พฤษภาคม 2025 – เจ้าหน้าที่ตำรวจอิตาลีได้จับกุมชาวจีนรายหนึ่งในข้อหาแสวงหาประโยชน์จากแรงงาน และสั่งปิดโรงงานแห่งหนึ่งในย่านชานเมืองมิลานซึ่งผลิตสินค้าให้กับอุตสาหกรรมแฟชั่น หลังพบหลักฐานบ่งชี้ว่าคนงานในโรงงานถูกใช้แรงงานอย่างไม่เป็นธรรม
แรงงานผิดกฎหมาย-สภาพการทำงานสุดโหด
ตำรวจ Carabinieri หน่วยพิทักษ์แรงงานในเมืองมิลาน เปิดเผยว่าแรงงานชาวจีนจำนวน 10 คนตกเป็นเหยื่อในคดีนี้ โดย 6 รายทำงานโดยไม่ได้จดทะเบียนอย่างถูกต้อง และอีก 5 รายเป็นผู้อพยพเข้าเมืองผิดกฎหมาย
เจ้าหน้าที่เผยว่าแรงงานเหล่านี้ต้องทำงานตลอดทั้งสัปดาห์ โดยไม่มีวันหยุด และมีชั่วโมงการทำงานสูงถึง 90 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ขณะที่ค่าจ้างที่ได้รับอยู่เพียง 4 ยูโรต่อชั่วโมง หรือประมาณ 4.50 ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งต่ำกว่าค่าจ้างขั้นต่ำตามกฎหมายแรงงานของอิตาลีอย่างมาก
นอกจากนี้ สภาพความเป็นอยู่ของแรงงานยังย่ำแย่ คนงานต้องอาศัยอยู่ภายในโรงงานซึ่งดัดแปลงห้องให้เป็นหอพักชั่วคราวโดยผิดกฎหมาย ไม่มีมาตรฐานด้านความปลอดภัย สุขอนามัย และสวัสดิการขั้นพื้นฐานตามที่กฎหมายกำหนด
จุดเริ่มต้นของการสืบสวน: อุบัติเหตุจากความประมาท
การสอบสวนเริ่มต้นขึ้นจากกรณีของแรงงานรายหนึ่งที่ได้รับบาดเจ็บถึงขั้นกระดูกมือหัก และต้องพักรักษาตัวนานกว่า 45 วัน หลังจากเรียกร้องค่าจ้างที่ค้างจ่ายจำนวน 10,000 ยูโร แล้วไม่ได้รับการตอบสนอง จึงตัดสินใจแจ้งความต่อนายจ้าง ส่งผลให้ตำรวจเริ่มสืบสวนและเปิดโปงเครือข่ายการแสวงหาผลประโยชน์ในโรงงานแห่งนี้
โรงงานดังกล่าวถูกปิดลงอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม ที่ผ่านมา โดยตั้งอยู่ในเขตตะวันตกเฉียงเหนือของเมืองมิลาน แม้ว่าจะยังไม่มีการเปิดเผยชื่อของแบรนด์แฟชั่นที่เกี่ยวข้อง แต่เจ้าหน้าที่ระบุว่ากำลังตรวจสอบผลิตภัณฑ์ที่พบในสถานที่เกิดเหตุ
อุตสาหกรรมแฟชั่นอิตาลี: เบื้องหลังความหรูหรา
เหตุการณ์ครั้งนี้เกิดขึ้นเพียงไม่กี่วันหลังจากแบรนด์หรู Valentino ถูกศาลอิตาลีสั่งดำเนินคดีในข้อหาละเมิดสิทธิแรงงานในห่วงโซ่อุปทาน ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงปัญหาเชิงโครงสร้างในอุตสาหกรรมแฟชั่นของอิตาลี ที่มีผู้ผลิตรายย่อยจำนวนมากและบางรายยังคงใช้แรงงานผิดกฎหมายหรือสภาพแวดล้อมการทำงานที่ไม่เหมาะสม
จากข้อมูลของบริษัทที่ปรึกษา Bain & Company อุตสาหกรรมการผลิตสินค้าฟุ่มเฟือยทั่วโลกกว่า 50-55% มีฐานการผลิตอยู่ในอิตาลี โดยเฉพาะในโรงงานขนาดเล็กที่กระจายตัวอยู่ทั่วประเทศ ซึ่งมักตกเป็นเป้าหมายของการตรวจสอบด้านสิทธิมนุษยชนและแรงงานในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
ข้อเสนอจากศาล: บริษัทต้องตรวจสอบซัพพลายเออร์เข้มงวดขึ้น
เพื่อรับมือกับปัญหาดังกล่าว ศาลเมืองมิลานได้เสนอแนวทางในเดือนมิถุนายน 2024 ว่าบริษัทแฟชั่นและสินค้าฟุ่มเฟือยควรเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบห่วงโซ่อุปทานของตน เพื่อให้แน่ใจว่าซัพพลายเออร์ทุกแห่งปฏิบัติตามกฎหมายแรงงาน และเคารพสิทธิมนุษยชนของแรงงานทุกคน
แม้จะยังไม่มีความชัดเจนว่าแบรนด์ใดเกี่ยวข้องกับโรงงานที่ถูกปิดในคดีล่าสุด แต่เหตุการณ์นี้ได้จุดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในสังคมอีกครั้งถึงบทบาทและความรับผิดชอบของแบรนด์แฟชั่นหรูในการตรวจสอบที่มาของสินค้าที่พวกเขาผลิตหรือจำหน่าย
