กองทุน Thai ESGX บูมวันแรก 19 บลจ. พร้อมใจเปิดเสนอขาย 37 กองทุนเพื่อความยั่งยืน
กองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืนแบบพิเศษ (Thai ESGX) เปิดให้ซื้อแล้วเมื่อวันที่ 2 พ.ค. 68 คาดดึงเม็ดเงินใหม่สู่ตลาดทุนกว่า 2 หมื่นล้านบาท ขณะที่หุ้นไทยบวกสดใสตลอดทั้งวัน

เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2568 เป็นวันแรกของการเปิดขายกองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืนแบบพิเศษ (Thai ESG Extra Fund หรือ Thai ESGX) ซึ่งเป็นกองทุนรวมที่ให้สิทธิประโยชน์ทางภาษี โดยเน้นลงทุนในทรัพย์สินที่ออกโดยผู้ออกหรือกิจการในประเทศที่มีคุณสมบัติด้านความยั่งยืนตามหลักเกณฑ์เดียวกับ Thai ESG โดยเฉลี่ยรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่า 80%
การเปิดขาย Thai ESGX ไม่เพียงมอบสิทธิประโยชน์ทางภาษีให้กับทั้งนักลงทุนใหม่และกลุ่มนักลงทุนเดิมในกองทุนรวมระยะยาว (LTF) แต่ยังช่วยเพิ่มเสถียรภาพให้กับตลาดทุนไทย สะท้อนได้จากดัชนีตลาดหุ้นไทยวันนี้ที่ปรับตัวบวกสดใสตลอดทั้งวัน
37 กองทุนเปิดขายพร้อมกัน จาก 19 บลจ.
สำหรับวันนี้มีกองทุน Thai ESGX รวม 37 กองทุน จากบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ทั้งหมด 19 แห่ง ที่เริ่มเปิดขายพร้อมกัน โดยสมาคมบริษัทจัดการลงทุน (AIMC) คาดการณ์ว่าจะมีเม็ดเงินใหม่จากนักลงทุนที่จะเข้ามาซื้อกองทุน Thai ESGX ในช่วง 2 เดือนนี้ประมาณ 1.5-2 หมื่นล้านบาท
นายธีรนาถ รุจิเมธาภาส กรรมการสมาคมบริษัทจัดการลงทุน (AIMC) เผยว่า การลงทุนของ บลจ. จะเป็นการทยอยลงทุนแบบ Selective แม้ว่าสถานการณ์ปัจจุบันจะไม่ปกติ แต่ผู้จัดการกองทุนรับรู้ถึงความเสี่ยงต่างๆ อยู่แล้ว ประกอบกับมองว่าดัชนีตลาดหุ้นไทยปัจจุบันอยู่ในระดับที่น่าสนใจ และสะท้อนปัจจัยเสี่ยงไปมากพอสมควรแล้ว
จากข้อมูลพบว่า ตั้งแต่กองทุน Thai ESG เริ่มจัดตั้งขึ้นในเดือนธันวาคม 2566 มีพัฒนาการที่ดียิ่ง ทั้งในมิติการมีส่วนร่วมลงทุนจากคนไทยกว่า 252,403 ราย (ณ สิ้นปี 2567) การเติบโตของขนาดกองทุน (33,066 ล้านบาท ณ 31 มีนาคม 2568) และการครอบคลุมบริษัทจดทะเบียนไทยกว่า 440 บริษัท เพิ่มขึ้นจาก 200 กว่าบริษัทในตอนเริ่มต้น

บลจ.ชั้นนำเปิดขาย Thai ESGX หลากหลายรูปแบบ
บลจ.อีสท์สปริง เน้นหุ้นปันผลดี
บลจ.อีสท์สปริง เปิดตัว 2 กองทุน Thai ESGX ได้แก่
- ES-DIV70THAIESGX กองทุนผสมที่เน้นลงทุนในหุ้นไทยปันผลดีและตราสารหนี้ ESG
- ES-DIVTHAIESGX กองทุนตราสารทุนที่เน้นลงทุนหุ้นไทยปันผลดี
ทั้ง 2 กองทุนมีมูลค่าโครงการกองทุนละ 5,000 ล้านบาท เปิด IPO ระหว่าง 2-8 พ.ค. 68 และภายหลัง IPO จะเปิดให้ลงทุนต่อตั้งแต่ 13 พ.ค.-30 มิ.ย. 68 ด้วยเงินลงทุนขั้นต่ำเพียง 1 บาท โดยต้องถือครองอย่างน้อย 5 ปีขึ้นไป

บลจ.กสิกรไทย เน้นปันผลสูง
บลจ.กสิกรไทย เปิด 2 กองทุน Thai ESGX ได้แก่
- K-HDThaiESGX: เน้นลงทุนในหุ้นยั่งยืนปันผลสูง 100%
- K-70ThaiESGX: ลงทุนผสมในหุ้นยั่งยืนปันผลสูง 70% และตราสารหนี้เพื่อความยั่งยืน 30%
ทั้ง 2 กองทุนมี 2 Share Class ทั้งสำหรับเงินลงทุนใหม่และสับเปลี่ยนจาก LTF เปิด IPO 2-8 พ.ค. 68 เฉพาะ Share Class สำหรับเงินลงทุนใหม่ และจะเปิดขายครบทั้ง 2 Share Class อีกครั้งในวันที่ 13 พ.ค.-30 มิ.ย. 68
บลจ.กรุงไทย กระจายความเสี่ยง
บลจ.กรุงไทย เปิด 3 กองทุน Thai ESGX แบ่งเป็น Class D สำหรับเงินลงทุนใหม่ และ Class L สำหรับสับเปลี่ยนจาก LTF ได้แก่
- KTEQ70PLUSX เน้นลงทุนในหุ้นไม่น้อยกว่า 70% และตราสารหนี้ ESG ไม่เกินกว่า 30%
- KTEQPLUSX เน้นลงทุนในหุ้นไม่น้อยกว่า 80%
- KTEQDIVX เน้นลงทุนในหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานดี มีประวัติการจ่ายเงินปันผลดี หรือมีศักยภาพในการจ่ายเงินปันผลในอนาคต
บลจ.ไทยพาณิชย์ ทางเลือกครบวงจร
บลจ.ไทยพาณิชย์ เสนอขาย 4 กองทุน Thai ESGX แบ่งเป็น 3 ประเภท คือ
- แบบผสม SCBT70X ลงทุนเชิงรุก บาลานซ์หุ้นไทยและตราสารหนี้ ESG (หุ้นไทยไม่เกิน 70%)
- แบบ Active
- SCBTAPX ลงทุนเชิงรุกกับหุ้นไทย ESG และกระจายความเสี่ยงด้วยหุ้นต่างประเทศตามเกณฑ์ ESG (ไม่เกิน 20%)
- SCBTAX ลงทุนเชิงรุกกับหุ้นไทยที่โดดเด่นด้าน ESG (ไม่น้อยกว่า 80%)
- แบบ Passive SCBTS100X ลงทุนตามดัชนี SET100 Free Float

บลจ.เอ็มเอฟซี ตอบโจทย์ทุกระดับความเสี่ยง
บลจ.เอ็มเอฟซี เปิดตัว 4 กองทุน Thai ESGX ได้แก่
- MEQUITY-Thai ESGX เน้นลงทุนในหุ้นกลุ่มความยั่งยืน
- HIDIV-Thai ESGX เน้นหุ้นปันผลสูง
- MIF-Thai ESGX กองทุนตามหลักชะรีอะฮ์
- MIX-Thai ESGX กองทุนผสม
บลจ.เกียรตินาคินภัทร เน้นความบาลานซ์
บลจ.เกียรตินาคินภัทร เปิด KKP BL THAI ESGX เป็นกองทุนรวมผสมที่เน้นลงทุนในทรัพย์สินกลุ่มความยั่งยืนไม่น้อยกว่า 80% ของ NAV และตราสารทุนในกลุ่มหุ้นยั่งยืนไม่น้อยกว่า 65% ของ NAV
บลจ.กรุงศรี ทางเลือกหลากหลาย
บลจ.กรุงศรี ออก 3 กองทุน Thai ESGX ได้แก่
- KF70-THAIESGX กองทุนผสม มี 2 ทางเลือก สำหรับวงเงินลงทุนใหม่และสับเปลี่ยนจาก LTF
- KFS50-THAIESGX ลงทุนตามดัชนี SET50
- KFAEQ-THAIESGX กองทุนเชิงรุก

สิทธิประโยชน์ทางภาษีที่น่าสนใจ
สำหรับการลงทุนใน Thai ESGX ผู้ลงทุนจะได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษี ดังนี้
- เงินลงทุนใหม่ ลดหย่อนภาษีปี 2568 ไม่เกิน 30% ของเงินได้พึงประเมิน สูงสุด 300,000 บาท
- เงินลงทุนจากการสับเปลี่ยน LTF ลดหย่อนภาษีได้ 500,000 บาท แบ่งเป็นปี 2568 จำนวน 300,000 บาท และปี 2569-2572 ปีละไม่เกิน 50,000 บาท
ทั้งนี้ การสับเปลี่ยนจาก LTF มายัง Thai ESGX จะเปิดให้บริการตั้งแต่วันที่ 13 พฤษภาคม – 30 มิถุนายน 2568 โดยต้องโอนมาทั้งหมดและต้องถือครองอย่างน้อย 5 ปีขึ้นไป
ปัจจุบันมูลค่าทรัพย์สินของกองทุน LTF ทั้งระบบยังคงค้าง 1.5 แสนล้านบาท มีผู้ถือหน่วยลงทุนรวมกว่า 4 แสนราย ซึ่งคาดว่าส่วนใหญ่จะสับเปลี่ยนหน่วยลงทุนเพื่อใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษี
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์มองว่าตลาดหุ้นไทยปัจจุบันอยู่ในระดับที่น่าสนใจ โดยเฉพาะในมุมมองของอัตราส่วนราคาหุ้นต่อกำไรสุทธิ (P/E) ที่ต่ำกว่าระดับ 2 SD ทำให้อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล (Dividend yield) เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 4.5% จากปกติที่อยู่ 3% นับเป็นโอกาสที่ดีของนักลงทุนที่สนใจลงทุนระยะยาวเพื่อความยั่งยืน
อ้างอิง
https://www.thansettakij.com/finance/stockmarket/626542#google_vignette
https://www.finnomena.com/finnomenafunds/thaiesgx-recommended-fund/
บทความอื่น ที่น่าสนใจ
ทำความรู้จัก “Thai ESG Extra” กองทุนเพื่อความยั่งยืนแบบพิเศษ มีอะไรน่าสนใจบ้าง?
