Google เปิดตัวเครื่องมือวัดคาร์บอนฟุตพริ้นท์ แคมเปญโฆษณาดิจิทัล

Google เปิดตัวเครื่องมือวัดคาร์บอนฟุตพริ้นท์ แคมเปญโฆษณาดิจิทัล

 

Google เปิดตัวรายงาน “Carbon Footprint” ใหม่สำหรับโฆษณา ช่วยนักการตลาดวัดการปล่อยคาร์บอนจากกิจกรรมโฆษณา

 

ในยุคที่ความยั่งยืนกลายเป็นเรื่องสำคัญทั้งในสายตาของผู้บริโภคและข้อกำหนดจากภาครัฐ Google ได้ก้าวอีกขั้นด้วยการเปิดตัว รายงาน “Carbon Footprint” ฉบับใหม่ สำหรับกิจกรรมโฆษณา ช่วยให้นักการตลาดสามารถ วัด จัดการ และวางกลยุทธ์การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

 

— ตอบโจทย์ข้อกำหนดด้านความยั่งยืน 

รายงานใหม่นี้ถือเป็นการตอบสนองต่อข้อกำหนดด้านความยั่งยืนที่เข้มข้นขึ้น โดยเฉพาะคำสั่ง Corporate Sustainability Reporting Directive (CSRD) ของสหภาพยุโรป ซึ่งบังคับให้บริษัทต้องเปิดเผยข้อมูลการปล่อยมลพิษในทุกขั้นตอนของห่วงโซ่อุปทาน รวมถึงกิจกรรมการตลาด

นอกจากข้อกำหนดด้านกฎหมายแล้ว ปัจจัยสำคัญอีกประการหนึ่งก็คือ ผู้บริโภคยุคใหม่ที่ให้ความสำคัญกับความยั่งยืนและภาวะโลกร้อนในการตัดสินใจซื้อสินค้า ส่งผลให้แบรนด์ต่างๆ ต้องแสดงความโปร่งใสในการดำเนินงานของตนมากขึ้น

 

 

— ข้อมูลแยกตามขอบเขตการปล่อยมลพิษ

รายงาน Carbon Footprint ของ Google ได้รับการออกแบบให้สอดคล้องกับมาตรฐานสากลอย่าง Greenhouse Gas Protocol และ Ad Net Zero Global Media Sustainability Framework โดยจะแยกข้อมูลการปล่อยคาร์บอนตามกรอบ “ขอบเขต” ที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในอุตสาหกรรม ดังนี้:

  • ขอบเขตที่ 1 (Scope 1): การปล่อยโดยตรงจากกิจกรรมของบริษัท เช่น เชื้อเพลิงที่ใช้ในยานพาหนะ 
  • ขอบเขตที่ 2 (Scope 2): การปล่อยทางอ้อมจากการใช้พลังงาน เช่น ไฟฟ้า 
  • ขอบเขตที่ 3 (Scope 3): การปล่อยทางอ้อมจากห่วงโซ่อุปทานทั้งหมด เช่น จากกิจกรรมการตลาดและการโฆษณา 

 
 

— ข้อมูลใหม่ช่วยประเมินคาร์บอนได้แม่นยำยิ่งขึ้น

หนึ่งในผู้ใช้รายแรกของรายงานใหม่นี้คือ Carwow ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มเปรียบเทียบรถยนต์ชื่อดังของอังกฤษ โดย เบน คาร์เตอร์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายลูกค้าและการตลาด กล่าวว่า

“เราพบว่าการวัดรอยเท้าคาร์บอนในอดีตที่อิงจากยอดใช้จ่ายในการโฆษณานั้นทำให้ประมาณการการปล่อยคาร์บอนสูงเกินจริง… ตอนนี้เมื่อใช้ข้อมูลจากกิจกรรมจริงของผู้ใช้โดยตรง เราจึงประเมินได้แม่นยำขึ้นมาก และพบว่าการปล่อยจริงนั้นต่ำกว่าที่เราคิดไว้มาก”

 

ข้อมูลที่แม่นยำขึ้นนี้ช่วยให้บริษัทสามารถปรับลำดับความสำคัญในแผนลดคาร์บอนของตนใหม่ได้ และโฟกัสไปยังจุดที่มีผลกระทบจริงมากที่สุด

 

 

— ความยั่งยืนคือกลยุทธ์ทางธุรกิจ

Adam Elman ผู้อำนวยการด้านความยั่งยืนของ Google กล่าวในแถลงการณ์ว่า:

“การวัดผลคือจุดเริ่มต้นของการลงมือทำอย่างแท้จริง โดยเฉพาะกับนักการตลาดที่ให้ความสำคัญกับความยั่งยืน รายงานนี้จะช่วยให้แบรนด์สามารถกำหนดเป้าหมายสุทธิเป็นศูนย์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมกับขับเคลื่อนคุณค่าทางธุรกิจไปพร้อมกัน”

Google ระบุว่ารายงานนี้ได้เปิดให้ ผู้โฆษณารายใหญ่บางราย เช่น L’Oréal, giffgaff, LVMH และ Carwow ได้เริ่มใช้งานแล้วในระยะนำร่อง และคาดว่าจะขยายให้บริการไปยังนักโฆษณากลุ่มอื่นในวงกว้างมากขึ้นในอนาคต

 
 

— ก้าวใหม่ของการตลาดสีเขียว

การเปิดตัวรายงาน Carbon Footprint สำหรับโฆษณานับเป็นอีกก้าวสำคัญของ Google ในการส่งเสริมการตลาดอย่างยั่งยืน ทั้งช่วยให้แบรนด์วัดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมได้แม่นยำยิ่งขึ้น และยังสนับสนุนให้องค์กรต่างๆ บรรลุเป้าหมาย “Net Zero” อย่างเป็นรูปธรรม

ในขณะที่โลกกำลังเผชิญวิกฤตสภาพภูมิอากาศที่ทวีความรุนแรง การมีเครื่องมือที่ช่วยให้ธุรกิจรับผิดชอบต่อผลกระทบของตนได้ย่อมเป็นสิ่งจำเป็น และ Google ก็ได้แสดงให้เห็นแล้วว่าความยั่งยืนไม่ใช่แค่ทางเลือก แต่คือ “กลยุทธ์ที่สร้างคุณค่าระยะยาว” อย่างแท้จริง

 

อ้างอิง