หมอพรทิพย์กระตุ้นรัฐแยก “นิติวิทยาศาสตร์” เป็นอิสระ ยกเคสโจรปล้นทองลพบุรี เป็นผลสำเร็จของการตรวจหาหลักฐานดีเอ็นเอ
วันที่ 24 มกราคม 2563 – พญ.คุณหญิง พรทิพย์ โรจนสุนันท์ สมาชิกวุฒิสภา และในฐานะอดีตผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม เขียนข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว “Porntip Rojanasunan” ระบุถึงประเด็นการสืบสวนคดีคนร้ายปล้นทองและฆ่า 3 ศพในพื้นที่จ.ลพบุรี ก่อนที่ตำรวจจะจับกุมตัวผู้ต้องหาได้ในที่สุด โดยเน้นย้ำว่าถึงเวลาที่รัฐบาลจะต้องแยกนิติวิทยาศาสตร์เป็นหน่วยงานอิสระ เพราะถือว่ามีความสำคัญอย่างมากต่อการคลี่คลายคดีสำคัญๆ ของประเทศ
“การจับกุมคนร้ายคดีปล้นทอง คือ ความชัดเจนว่านิติวิทยาศาสตร์คือเครื่องมือสำคัญในการพิสูจน์ความจริงที่ดีที่สุด มีทั้งเรื่องดีเอนเอจากเหงื่อ ลักษณะยี่ห้อของรองเท้า ท่าทางการเดินของคนร้าย ข้อมูลปืนและกระสุน รวมทั้งอุปกรณ์เก็บเสียง ข้อมูลการสื่อสารใน Application ต่างๆ ของโทรศัพท์ หลากหลายสาขางานนิติวิทยาศาสตร์
นึกย้อนไปถึงปี 2541 ที่ได้พูดเรื่องดีเอ็นเอบอกเอกลักษณ์บุคคล เรื่องความสำคัญของนิติวิทยาศาสตร์ ผลักดันเรื่องการทำฐานข้อมูลดีเอนเอ และฐานข้อมูลทางนิติวิทยาศาสตร์อื่นๆ มีคนเข้าใจ รับฟังน้อยมาก โดยเฉพาะผู้กำหนดนโยบาย
ปี 2547 ได้มาเริ่มตรวจและเก็บดีเอนเอจากหลักฐานในคดีความมั่นคงที่เกิดขึ้นในสามจังหวัดชายแดนใต้ จนสามารถพิสูจน์ทราบมือวางระเบิดจากเหงื่อของคนร้ายที่ตรงกับดีเอนเอในฐานข้อมูลในปี 2548 ซึ่งเป็นความสำเร็จที่เร็วและชัดเจน จำได้ว่ายังถูกกล่าวหาว่าเลอะเทอะ ไม่มีประเทศใดทำ เปลืองงบประมาณ
สำหรับคดีนี้ต้องชมคนที่มองเห็นหลักฐานชิ้นนี้ และเก็บไปตรวจดีเอนเอ ซึ่งไม่ทราบรายละเอียดว่าเป็นพนักงานสอบสวนหรือทีมตรวจสถานที่เกิดเหตุ ถ้ารัฐสนับสนุนให้มีการใช้นิติวิทยาศาสตร์เช่นนี้อย่างเต็มที่ในทุกคดีที่เกิดขึ้น ไม่ต้องรอให้ผู้บังคับบัญชาสั่งการ ไม่จำเป็นต้องเป็นคดีที่สังคมสนใจ เหยื่อทุกคนควรได้รับการดำเนินการอย่างสมบูรณ์เต็มที่ อาชญากรรมจะลดลงเพราะกระบวนการยุติธรรมมีประสิทธิภาพ
งานนิติวิทยาศาสตร์เป็นงานเชี่ยวชาญเฉพาะ ต้องรักษามาตรฐาน ต้องพัฒนาตลอดเวลา ต้องพร้อมบริการสนับสนุนเจ้าหน้าที่ตามกฎหมายทุกประเภท จึงควรเป็นหน่วยงานอิสระ ประกันคุณภาพด้วยระบบมาตรฐาน
รัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 259 หมวดกระบวนการยุติธรรม เขียนไว้ชัดเจนให้พนักงานสอบสวน อัยการ ต้องใช้นิติวิทยาศาสตร์ รัฐต้องสนับสนุนให้มีการบริการด้านนี้มากกว่าหนึ่งหน่วยงานที่มีอิสระจากกัน มีแผนปฏิรูปพร้อม รอสัญญาณชัดๆจากรัฐบาล ที่สำคัญต้องมอบหมายให้ตรงตามหลักการ ไม่ใช่ฉกฉวยโอกาส อย่าให้เป็นเพียงความชื่นชมเพียงผลงานในคดี แต่ควรขับเคลื่อนอย่างมีประสิทธิภาพ#ต้องตีเหล็กตอนร้อน”
ข่าวอื่นที่น่าสนใจ
