ลุ้น ครม. เคาะเกณฑ์ Thai ESG มาตรการใหม่ เปิดทางให้ผู้ถือหน่วยลงทุน LTF ที่ครบกำหนดไถ่ถอน สามารถโอนไปยังกองทุน “Thai ESG 2” พร้อมรับสิทธิ์ลดหย่อนภาษีสูงสุด 500,000 บาท หวังกระตุ้นการลงทุนระยะยาว รมว.คลัง ย้ำตลาดหุ้นไทยยังมีเสถียรภาพ แม้ดัชนี SET หลุด 1,200 จุด แต่สามารถฟื้นตัวได้เร็ว พร้อมเดินหน้าแผน ดึงดูดการลงทุนในนวัตกรรม เศรษฐกิจดิจิทัล และพลังงานสะอาด
รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า กระทรวงการคลัง พร้อมเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณามาตรการสนับสนุนตลาดทุนไทย โดยให้ผู้ที่ถือหน่วยลงทุนในกองทุนรวมหุ้นระยะยาว หรือ LTF ที่ครบกำหนดการไถ่ถอน หากยังไม่ขายหน่วยลงทุนให้สามารถโอนหน่วยลงทุนไปยังกองทุนใหม่ ในกองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืน หรือที่เรียกว่า Thai ESG 2
กองทุน Thai ESG คืออะไร?
สำหรับ Thai ESG หรือ Thailand ESG Fund คือ กองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืน ซึ่งจะลงทุนในหุ้นและตราสารหนี้ของบริษัทในไทยที่ดำเนินธุรกิจตามหลัก ESG และกองทุนดังกล่าวยังถือเป็นกองทุนลดหย่อนภาษีใหม่ โดยการจัดตั้งกองทุนนั้นส่วนหนึ่งต้องการส่งเสริมการลงทุนระยะยาวใน ตลาดหุ้นไทย และสนับสนุนให้บริษัทจดทะเบียนทำธุรกิจโดยปรับเปลี่ยนตัวเองเป็นบริษัท ESG มากขึ้น ซึ่งมีสิทธิพิเศษให้ผู้ลงทุนสามารถนำจำนวนเงินลงทุนมาหักลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ซึ่งเหมือนกับการลงทุนใน RMF, SSF, SSFX หรือ LTF ที่ออกมาก่อนหน้านี้
ทั้งนี้ สิทธิประโยชน์ในกองทุนใหม่ ไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม คือ การมีเพดานยกเว้นภาษีสูงสุด 500,000 บาท โดยได้สิทธิ์ในปีแรกสูงสุด 300,000 บาท และปีต่อ ๆ ไปสามารถทยอยขอลดหย่อนภาษีจนครบสิทธิ์ 500,000 บาท
รองนายกฯและรมว.คลัง ระบุว่า การที่ดัชนี SET หลุดระดับ 1,200 จุด เป็นผลจากปัจจัยความไม่แน่นอนที่เกิดขึ้นจากนโยบายต่าง ๆ ซึ่งเกิดขึ้นทั่วโลก แต่อย่างไรก็ตาม ตลาดสามารถฟื้นตัวกลับมาได้ภายในวันเดียว ซึ่งสะท้อนถึงระดับความเชื่อมั่นของนักลงทุนยังมีอยู่ในระดับค่อนข้างสูง
สำหรับ แผนการฟื้นตลาดทุนไทย รัฐบาลให้ความสำคัญกับการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างเศรษฐกิจไทยอย่างค่อยเป็นค่อยไป โดยเน้นดึงดูดการลงทุนในอุตสาหกรรมที่มีศักยภาพ เช่น นวัตกรรม เศรษฐกิจดิจิทัล (Digital Economy) และพลังงานสะอาด
ขณะที่ ศูนย์วิจัยกสิกรไทย (KResearch) ได้วิเคราะห์ถึงผลกระทบจากการโยกเงินลงทุนจากกองทุน LTF สู่กองทุน Thai ESG ซึ่งมีประเด็นสำคัญดังนี้
การเปลี่ยนแปลงหลักๆ
- นักลงทุนสามารถแปลงหน่วยลงทุนเดิมไปยังกองทุนใหม่ได้โดยอัตโนมัติ
- เพิ่มทางเลือกในการลงทุนนอกเหนือจาก RMF และ SSF ซึ่งเป็นทางเลือกหลักในการลดภาษี
- กองทุน RMF มีมูลค่า 93 ล้านล้านบาท และ SSF มีมูลค่า 1.39 ล้านล้านบาท
ความแตกต่างของกองทุน
- กองทุน LTF เน้นลงทุนในตลาดหุ้นโดยไม่คำนึงถึงหลัก ESG
- กองทุน Thai ESG จะลงทุนเฉพาะในบริษัทที่ปฏิบัติตามหลัก ESG เท่านั้น
โดย ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินว่า
- หุ้นและตราสารหนี้ของบริษัทที่ไม่ผ่านมาตรฐาน ESG โดยเฉพาะบริษัทขนาดเล็ก (Small Cap) อาจถูกเทขายและพลาดโอกาสรับเงินลงทุนเพิ่ม
- ในปี 2567 มีบริษัทไม่ผ่านมาตรฐาน ESG ถึง 695 บริษัท (75% ของบริษัทในตลาดหลักทรัพย์)
- แต่มีมูลค่าหลักทรัพย์เพียง 18% ของมูลค่าตลาดทั้งหมด
- เงินลงทุนจะกระจุกตัวในบริษัทขนาดใหญ่ (Large Cap) ที่ผ่านมาตรฐาน ESG
- มีเพียง 288 บริษัท (25% ของบริษัทในตลาดหลักทรัพย์)
- แต่มีมูลค่าหลักทรัพย์รวมถึง 82% ของมูลค่าตลาดทั้งหมด (87 ล้านล้านบาท)
ดังนั้น ธุรกิจ SME จำเป็นต้องปรับตัวให้สอดคล้องกับมาตรฐาน ESG เพื่อความอยู่รอดและโอกาสในการระดมทุนที่ยั่งยืนในอนาคต โดยการเปลี่ยนแปลงนี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อภาพรวมของตลาดเงินมากนัก เนื่องจากมูลค่าของบริษัทที่ไม่ผ่านมาตรฐาน ESG มีสัดส่วนที่ค่อนข้างน้อย
อ้างอิง
https://moneyandbanking.co.th/2025/158666/
https://www.kaohoon.com/news/737606