เดินหน้าสร้างอนาคตสีเขียว ปลูกป่า สร้างฝาย ฟื้นฟูสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน

เดินหน้าสร้างอนาคตสีเขียว ปลูกป่า สร้างฝาย ฟื้นฟูสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน

SMS Corporation เดินหน้าสร้างอนาคตสีเขียว จัดกิจกรรม “Cultivating a Green Future for Sustainable Growth” มุ่งเสริมสร้างความยั่งยืนแก่ชุมชนและสิ่งแวดล้อม

 

บริษัท เอสเอ็มเอส คอร์ปอเรชั่น จำกัด (SMS Corporation Company Limited) ผู้นำด้านการผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์แป้งมันสำปะหลังดัดแปร ในเครือกลุ่มพูลผลที่ดำเนินธุรกิจด้านการเกษตรมานานกว่า 80 ปี ได้จัดกิจกรรม “Cultivating a Green Future for Sustainable Growth with SMS Group 2025” ณ ศูนย์พัฒนาและฝึกอบรมวิมานดิน มหาวิทยาลัยมหิดล วิทยาเขตกาญจนบุรี เพื่อส่งเสริมเครือข่ายสีเขียวและพัฒนาสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน 

 

 

ปลูกไผ่ 100 ต้น สร้างระบบนิเวศที่สมดุล

ต้นไผ่ถือเป็นพืชที่มีบทบาทสำคัญในการฟื้นฟูระบบนิเวศ เนื่องจากสามารถดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ในปริมาณสูง ป้องกันการพังทลายของดิน และช่วยลดการกัดเซาะบริเวณตลิ่ง SMS Corporation ตระหนักถึงความสำคัญของต้นไผ่ในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม จึงจัดกิจกรรมปลูกต้นไผ่จำนวน 100 ต้น ครอบคลุมพื้นที่กว่า 4 ไร่ โดยเลือกใช้สายพันธุ์ที่เหมาะสมกับภูมิประเทศและสภาพแวดล้อม ได้แก่ ไผ่เก้าดาว, ซางม่น, กิมซุง, ตงหวาน และบนป่า ซึ่งจะช่วยเพิ่มพื้นที่สีเขียว และฟื้นฟูความอุดมสมบูรณ์ให้กับระบบนิเวศโดยรอบ

ไผ่ไม่เพียงแต่ช่วยดูดซับคาร์บอน แต่ยังสามารถใช้เป็นวัตถุดิบทางอุตสาหกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นในอุตสาหกรรมอาหาร วัสดุก่อสร้าง หรือผลิตภัณฑ์ชีวภาพ การปลูกไผ่จึงเป็นหนึ่งในแนวทางที่ช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และส่งเสริมการใช้ทรัพยากรอย่างยั่งยืน

สร้างฝายชะลอน้ำ ฟื้นฟูแหล่งน้ำและระบบนิเวศ

นอกจากการปลูกป่าแล้ว SMS Corporation ยังดำเนินโครงการสร้างฝายชะลอน้ำแบบผสมผสานจำนวน 15 ฝาย เพื่อลดการพังทลายของดิน ชะลอการไหลของน้ำ และเพิ่มระยะเวลาการกักเก็บน้ำ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการรักษาความสมดุลของระบบนิเวศ การสร้างฝายดังกล่าวไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับดิน แต่ยังช่วยส่งเสริมความหลากหลายทางชีวภาพ โดยการเพิ่มถิ่นที่อยู่อาศัยให้กับสัตว์น้ำ และเป็นแหล่งน้ำสำคัญของชุมชน

ฝายชะลอน้ำยังมีบทบาทสำคัญในการฟื้นฟูป่าไม้ เนื่องจากช่วยกระจายความชื้นไปยังพื้นที่โดยรอบ ส่งผลให้พืชพรรณเจริญเติบโตได้ดีขึ้น และลดปัญหาภัยแล้ง นอกจากนี้ ยังช่วยลดปัญหาน้ำหลากและน้ำท่วมฉับพลันที่เกิดขึ้นในหลายพื้นที่ ด้วยเหตุนี้ SMS Corporation จึงเล็งเห็นถึงความสำคัญของการสร้างฝาย และนำแนวทางนี้มาใช้เป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาอย่างยั่งยืน

 

 

มุ่งมั่นสู่อนาคตที่ยั่งยืน ด้วยแนวทาง ESG

SMS Corporation ยังคงมุ่งมั่นดำเนินธุรกิจบนพื้นฐานของหลัก ESG (Environmental, Social, and Governance) โดยให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม (Environmental) สังคม (Social) และการกำกับดูแลกิจการที่ดี (Governance) เพื่อสร้างความเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน

บริษัทฯ ได้ดำเนินโครงการด้านสิ่งแวดล้อมหลากหลายโครงการ อาทิ การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก การจัดการของเสียอย่างมีประสิทธิภาพ และการใช้พลังงานสะอาดในกระบวนการผลิต ทั้งนี้ เพื่อให้มั่นใจว่าการดำเนินธุรกิจจะไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในระยะยาว นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมุ่งเน้นการพัฒนาชุมชนโดยรอบ เพื่อสร้างความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นให้กับทุกภาคส่วน

 

ดร.วีรวัฒน์ เลิศวนวัฒนา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าวว่า “ความยั่งยืนไม่ใช่เพียงเป้าหมาย แต่เป็นหัวใจสำคัญของการดำเนินธุรกิจของเรา เราเชื่อว่าการสร้างสมดุลระหว่างการเติบโตทางเศรษฐกิจกับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมเป็นสิ่งที่สามารถทำได้จริง และเราจะเดินหน้าพัฒนาธุรกิจให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่อง”