ทรู คอร์ปอเรชั่น ผนึกกำลังศูนย์โรคหลอดเลือดสมองศิริราช พัฒนารถรักษาอัมพาตเคลื่อนที่ ใช้ 5G ยกระดับ ลดความเหลื่อมล้ำการรักษาโรคหลอดเลือดสมองเฉียบพลันในพื้นที่ห่างไกลทั่วประเทศ
จากรายงานสถิติสาธารณสุขปี 2566 โดยกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข พบว่า โรคหลอดเลือดสมองเป็นปัญหาสำคัญในประเทศไทย โดยมีผู้ป่วยมากถึง 349,126 ราย และมีอัตราเสียชีวิตร้อยละ 10 ขณะที่ร้อยละ 60 กลายเป็นผู้ทุพพลภาพ นอกจากนี้ ผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่ยังมีอายุต่ำกว่า 70 ปี ทำให้โรคนี้กลายเป็นสาเหตุการตายอันดับ 2 ของคนไทย รองจากโรคมะเร็ง
ทรู คอร์ปอเรชั่น จึงต่อยอดความสำเร็จจากความร่วมมือกับศูนย์โรคหลอดเลือดสมองศิริราชและคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ในการพัฒนารถหน่วยรักษาอัมพาตเคลื่อนที่ (Mobile Stroke Unit) ตั้งแต่ปี 2561 สะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการนำเทคโนโลยี 5G และนวัตกรรมล้ำสมัยมายกระดับสาธารณสุขไทย
โดยนำรถจำนวน 21 คันกระจายสู่โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชทั่วประเทศ ครอบคลุมพื้นที่ภาคเหนือ 6 แห่ง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 9 แห่ง ภาคใต้ 4 แห่ง และภาคกลาง 2 แห่ง เริ่มให้บริการแห่งแรกที่โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชปัว จังหวัดน่าน ช่วยเพิ่มโอกาสเข้าถึงการรักษาและลดอัตราการเสียชีวิตจากโรคหลอดเลือดสมองในพื้นที่ห่างไกลอย่างทันท่วงที
-สัญญาณโรคหลอดเหลือดสมอง
ทั้งนี้ องค์การโรคหลอดเลือดสมองโลก (World Stroke Organization: WSO) เผยว่าประชากรทั่วโลก 1 ใน 4 คนเคยประสบกับโรคหลอดเลือดสมอง ดังนั้นการดูแลสุขภาพและการป้องกันตั้งแต่เนิ่นๆ จึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยลดความเสี่ยงจากโรคร้ายนี้ ทั้งนี้ ประชาชนสามารถสังเกตอาการ โรคหลอดเลือดสมองด้วยตนเอง ตามหลัก B.E.F.A.S.T. เบื้องต้น ได้แก่
- Balance: เดินเซ เวียนศีรษะ บ้านหมุนฉับพลัน
- Eye: ตามัว มองเห็นภาพซ้อนฉับพลัน
- Face: ปากเบี้ยว หน้าเบี้ยวเฉียบพลัน
- Arm: แขนขาอ่อนแรงหรือชาครึ่งซีก
- Speech: พูดไม่ชัด เสียงเปลี่ยน ลิ้นแข็ง พูดไม่รู้เรื่อง
- Time: ต้องรีบนำส่งโรงพยาบาลโดยเร็วที่สุด
เนื่องจากทุก ๆ นาทีที่สมองขาดเลือด เซลล์สมองจะตายถึง 1.9 ล้านตัว หากรักษาช้าอาจถึงแก่ชีวิต หรือกลายเป็นอัมพฤกษ์อัมพาตถาวร หากพบอาการดังกล่าว ให้รีบโทร 1669 เพื่อขอความช่วยเหลือ โดยทีมปฏิบัติการ Mobile Stroke Unit จะให้การรักษาได้ทันทีในรถพยาบาลเคลื่อนที่ พร้อมฉีดยาสลายลิ่มเลือดภายใน 4 ชั่วโมง 30 นาที ช่วยลดความรุนแรงของโรคและเพิ่มโอกาสรอดชีวิต รวมถึงลดความเสี่ยงในการเป็นผู้ป่วยติดเตียงหรือทุพพลภาพถาวร
-ความสำคัญของ 5G สู่ Mobile Stroke Unit
- การสื่อสารดิจิทัลคุณภาพสูง: อินเทอร์เน็ตความเร็วสูงช่วยให้การสื่อสารระหว่างแพทย์และผู้ป่วยผ่านวิดีโอคอลมีความคมชัด ไม่สะดุด ส่งผลให้การวินิจฉัยและให้คำปรึกษาแม่นยำ โดยเฉพาะในสถานการณ์ที่ทุกวินาทีมีความหมายต่อชีวิต
- การรับ-ส่งข้อมูลทางการแพทย์: ความเร็วในการเชื่อมต่อช่วยให้การส่งข้อมูลสำคัญ เช่น ภาพถ่าย เอกซเรย์ หรือผลตรวจต่าง ๆ ถูกส่งอย่างรวดเร็วและปลอดภัย
- การขยายบริการสาธารณสุขอัจฉริยะ: อินเทอร์เน็ตความเร็วสูงช่วยให้การให้บริการทางการแพทย์เข้าถึงพื้นที่ห่างไกล ลดความเหลื่อมล้ำในการรักษา
-หลักการทำงานของรถ Mobile Stroke Unit
- รถพยาบาลเฉพาะทางสำหรับโรคหลอดเลือดสมอง ทำหน้าที่เหมือนโรงพยาบาลเคลื่อนที่ ช่วยลดเวลาในการรักษาและลดความเสี่ยงต่อการเสียชีวิต
- ติดตั้งเครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์สมอง (CT Scanner) ให้ภาพสแกนสมองได้ในไม่กี่วินาที เพื่อช่วยแพทย์วินิจฉัยและรักษาได้ทันที
- มีอุปกรณ์ทันสมัย เช่น เครื่องฉีดสารทึบรังสี เครื่องตรวจเลือด พร้อมระบบ Teleconsultation และสามารถให้ยาสลายลิ่มเลือดได้บนรถ
- มีระบบกล้องบันทึกภาพและสื่อสารกับผู้ป่วยระหว่างเดินทาง ช่วยให้แพทย์วางแผนการรักษาได้ก่อนถึงโรงพยาบาล
-ต้องช่วยผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองทันเวลา
ทรู คอร์ปอเรชั่น ผู้นำด้านเทคโนโลยีและโทรคมนาคมของไทย นำศักยภาพเครือข่าย 5G ยกระดับวงการสาธารณสุขผ่านโครงการรถรักษาอัมพาตเคลื่อนที่ (Mobile Stroke Unit) เพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองเฉียบพลันในพื้นที่ห่างไกล ลดความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงการรักษาพยาบาล โดยร่วมมือกับโครงการเฉลิมพระเกียรติในโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช 21 แห่งทั่วประเทศ
ประเทศ ตันกุรานันท์ หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านเทคโนโลยีของทรู เปิดเผย เครือข่าย 5G ของทรูที่มีความเร็วสูง ความหน่วงต่ำ และความเสถียร ช่วยให้สามารถส่งข้อมูลทางการแพทย์ เช่น ภาพสแกนสมองและสัญญาณชีพของผู้ป่วยไปยังแพทย์ผู้เชี่ยวชาญได้แบบเรียลไทม์ แม้อยู่ห่างไกลหลายร้อยกิโลเมตร
ด้วยเทคโนโลยีนี้ ทีมแพทย์สามารถวางแผนการรักษาได้อย่างแม่นยำทันทีตั้งแต่รถเคลื่อนที่ออกจากจุดเกิดเหตุ เพิ่มโอกาสในการรอดชีวิตและลดการทุพพลภาพในผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองได้อย่างมีประสิทธิภาพ
“โครงการนี้เป็นก้าวสำคัญในการใช้ 5G เชื่อมต่อโลกการแพทย์ ช่วยให้ผู้ป่วยในพื้นที่ห่างไกลเข้าถึงการรักษาขั้นสูงเสมือนอยู่โรงพยาบาลชั้นนำ ลดช่องว่างด้านสุขภาพและสร้างอนาคตใหม่ของสาธารณสุขอัจฉริยะในประเทศไทย”
พร้อมย้ำว่าทรูมุ่งสร้างความเท่าเทียมในการเข้าถึงบริการทางการแพทย์ขั้นสูงทั่วประเทศ เพื่อช่วยลดความเหลื่อมล้ำและเพิ่มโอกาสในการรักษาชีวิตประชาชนได้อย่างรวดเร็ว