มหาวิหารนอเทรอ-ดามอัน สัญลักษณ์ ปารีส ฝรั่งเศสเปิดประตูต้อนรับอย่างเป็นทางการวันที่ 7 ธ.ค.ที่ผ่านมา นับตั้งแต่เกิดเพลิงไหม้ครั้งใหญ่ในปี 2562 ใช้เวลาบูรณะครั้งใหญ่ให้สำเร็จในเวลา 5 ปี พร้อมกันกันกับเวลาแห่งชัยชนะของประธานาธิบดีฝรั่งเศส เอ็มมานูเอล มาครง มีผู้นำทั่วโลกเดินทางมาร่วมงาน
ภายหลังจากมหาวิหารนอเทรอ-ดาม หรือ ที่รู้จักในชื่อ “พระแม่มารีแห่งปารีส” (Notre Dame de Paris) อันเป็นสัญลักษณ์ของฝรั่งเศสเปิดประตูต้อนรับอย่างเป็นทางการเป็นครั้งแรกเมื่อวันเสาร์ที่ 7 ธันวาคมที่ผ่านมา นับตั้งแต่เกิดเพลิงไหม้ครั้งใหญ่ซึ่งเกือบจะทำลายสถานที่สำคัญที่มีอายุ 861 ปีแห่งนี้ไปเมื่อปี 2562 สร้างความเสียหายทางสถาปัตยกรรมและคุณค่าจิตวิญญาณ
การบูรณะครั้งนี้ถือเป็นความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่ภายในเวลา 5 ปีสำหรับโครงสร้างที่ใช้เวลาก่อสร้างเกือบ 2 ศตวรรษ ถือเป็นช่วงเวลาแห่งชัยชนะของประธานาธิบดีฝรั่งเศส เอ็มมานูเอล มาครง ผู้ผลักดันกรอบเวลาอันทะเยอทะยานนี้ และเป็นช่วงเวลาพักผ่อนอันน่ายินดีจากปัญหาทางการเมืองในประเทศของเขา
ภายใต้กระจกสีอันสว่างไสว ผู้นำระดับโลก ผู้มีเกียรติ และผู้มาสักการะจำนวนมากจะมารวมตัวกันในตอนเย็นเพื่อร่วมเฉลิมฉลอง ในโอกาสนี้อันเป็นช่วงเวลาแห่งความสามัคคีที่หายากท่ามกลางฉากหลังของความแตกแยกและความขัดแย้งทั่วโลก
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ สุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งของสหรัฐฯ จิล ไบเดน เจ้าชายวิลเลียมแห่งอังกฤษ อีลอน มัสกฺ์ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่รัฐ รัฐบาล และบุคคลสำคัญอื่น ๆ อีกนับสิบคน รวมเป็นแขกทั้งหมด 1,500 คน เข้าร่วมพิธีเปิดมหาวิหารใหม่ภายใต้ซุ้มโค้งแบบโกธิกอันสูงตระหง่านของมหาวิหาร ซึ่งนำโดยอาร์ชบิชอปโลรองต์ อุลริช
สภาพอากาศไม่เป็นใจ
ปรับแผนกระทันหัน
ในงานดังกล่าวจะมีแขก 1,500 คน รวมถึงผู้นำโลกประมาณ 50 คน และเนื่องจากมีการคาดการณ์ว่าจะมีลมแรงในเย็นวันเสาร์ที่กรุงปารีส ทำเนียบประธานาธิบดีฝรั่งเศสและสังฆมณฑลปารีสจึงได้ตัดสินใจให้พิธีเปิดทั้งหมดจะจัดขึ้นภายในมหาวิหารนอเทรอ-ดาม และออกแถลงการณ์ของพระราชวังเอลิเซระบุว่า สภาพอากาศที่ไม่เอื้ออำนวยอย่างยิ่งในวันเสาร์ในเขตปารีส จำเป็นต้องมีการจัดการใหม่สำหรับการจัดเตรียมที่วางแผนไว้สำหรับพิธีเปิดใหม่อีกครั้ง
“ตามความตกลงร่วมกันระหว่างสังฆมณฑลปารีสและประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐ พิธีทั้งหมดจะจัดขึ้นภายในมหาวิหารนอเทรอ-ดามในปารีส”
บาทหลวงโอลิวิเย รีบาโด ดูมาส์ อธิการบดีของมหาวิหารนอเทรอ-ดาม กล่าวว่ามหาวิหารแห่งนี้ เป็นมากกว่าอนุสรณ์สถานของฝรั่งเศส และเป็นสมบัติล้ำค่าของมรดกทางวัฒนธรรมของโลก
“มหาวิหารแห่งนี้เป็นสัญลักษณ์อันงดงามของความสามัคคี เป็นสัญลักษณ์แห่งความหวัง เพราะสิ่งที่ดูเหมือนเป็นไปไม่ได้ก็กลายเป็นไปได้”
บรรยากาศการเปิดวิหารเต็มไปด้วยความศักดิ์สิทธิ และสมานฉันท์
งานในวันเสาร์จะผสมผสานประเพณีทางศาสนาอันเคร่งขรึมเข้ากับความยิ่งใหญ่ทางวัฒนธรรม โดยเริ่มจากอุลริชเปิดประตูไม้ขนาดใหญ่ของนอเทรอ-ดามอีกครั้งอันเป็นสัญลักษณ์ของการฟื้นคืนมาใหม่อีกครั้ง
เขาจะเคาะประตูสามครั้งด้วยไม้เท้าที่ทำจากไม้ไหม้เกรียมซึ่งเก็บมาจากหลังคาของอาสนวิหารที่ถูกไฟไหม้ เพื่อประกาศให้อาสนวิหารเปิดทำการอีกครั้ง
บทสดุดี คำอธิษฐาน และเพลงสรรเสริญจะเติมเต็มพื้นที่ขนาดใหญ่ในขณะที่ออร์แกนอันดังกึกก้องของอาสนวิหารซึ่งเงียบลงตั้งแต่เกิดไฟไหม้ได้รับการปลุกให้ตื่นขึ้นอีกครั้ง เครื่องดนตรี 8,000 ชิ้น ได้รับการบูรณะและทำความสะอาดฝุ่นตะกั่วที่เป็นพิษอย่างพิถีพิถัน ซึ่งจะตอบสนองต่อคำอธิษฐานของอาร์ชบิชอป โดยนักเล่นออร์แกน 4 คนจะเล่นท่วงทำนองที่ด้นสด
ในช่วงค่ำ จะมีการแสดงคอนเสิร์ตสุดอลังการที่ศูนย์กลางของอาสนวิหารและแสดงความเคารพต่อการฟื้นคืนชีพของอาสนวิหารและผู้ที่ทุ่มเทอย่างหนักเพื่อบูรณะอาสนวิหาร โดยนำเสนอข้อความสากลแห่งความกลมกลืน นักเปียโน หลาง หลาง นักเล่นเชลโล่ โย-โย มา และโซปราโน พริตตี้ เยนเดเป็นหนึ่งในศิลปินที่มีชื่อเสียงระดับโลกที่เตรียมขึ้นแสดง
บาทหลวงกว่า 170 รูป ร่วมพิธีมิสซาในวันอาทิตย์
ในวันอาทิตย์ อุลริชจะเป็นผู้นำพิธีมิสซาเปิดงานและทำพิธีถวายแท่นบูชาใหม่ของอาสนวิหาร ซึ่งออกแบบโดยกีโยม บาร์เดต์ ศิลปินร่วมสมัย เพื่อทดแทนแท่นบูชาที่ถูกทับด้วยยอดแหลมที่ลุกเป็นไฟ
บาทหลวงเกือบ 170 รูปจากฝรั่งเศสและต่างประเทศจะเข้าร่วมพิธี พร้อมด้วยบาทหลวงจากทั้ง 113 ตำบลของสังฆมณฑลปารีส
พิธีเปิดอาสนวิหารนอเทรอ-ดามอีกครั้งเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ทั่วโลกกำลังเกิดความไม่สงบอย่างรุนแรง โดยมีสงครามปะทุขึ้นในยูเครนและตะวันออกกลาง
สำหรับชาวคาธอลิก อธิการโบสถ์นอเทรอ-ดามกล่าวว่าอาสนวิหารนอเทรอ-ดาม มีพระแม่มารีประทับอยู่เต็มเปี่ยม พระองค์เป็นมารดาและโอบอุ้มเรา
“เป็นสัญลักษณ์อันงดงามของความสามัคคี สัญลักษณ์แห่งความหวัง”
ผู้นำทั่วโลกมาร่วมชุมนุม
ผู้นำทั่วโลกร่วมชุมนุม เพื่อยืนยันถึงมหาวิหารอันเป็นมรดกแห่งสันติภาพ
บรรดาบุคคลสำคัญที่เดินทางมาปารีสจากแอฟริกา ตะวันออกกลาง และสหรัฐอเมริกา เน้นย้ำถึงความสำคัญของมหาวิหารในฐานะสัญลักษณ์ของมรดกและสันติภาพร่วมกัน
การเฉลิมฉลองนี้คาดว่าจะช่วยกระตุ้นความสนใจของมาครง ซึ่งนายกรัฐมนตรีของเขาได้ลาออกในสัปดาห์นี้ ทำให้สถานการณ์ทางการเมืองของประเทศเกิดความวุ่นวายมากขึ้น
ประธานาธิบดีฝรั่งเศส ซึ่งกล่าวว่าการเปิดมหาวิหารนอเทรอ-ดามอีกครั้งเป็น “ความหวัง” จะมากล่าวปราศรัยต่อผู้เข้าร่วมงาน เขาหวังว่าโอกาสนี้จะทำให้บรรดาผู้วิพากษ์วิจารณ์เขาเงียบลงชั่วครู่ และแสดงให้เห็นถึงความสามัคคีและความอดทนของฝรั่งเศสภายใต้การนำของเขา
กำหนดการบูรณะที่ทะเยอทะยานเป็นเวลา 5 ปี ซึ่งประกาศเพียงวันเดียวหลังเหตุเพลิงไหม้ในปี 2019 ดูเหมือนเป็นไปไม่ได้สำหรับหลายๆ คน
การเฉลิมฉลองอันยิ่งใหญ่ของมหาวิหาร
ท่ามกลางวิกฤตสำหรับเอ็มมานูเอล มาครง
ตำแหน่งประธานาธิบดีของมาครงเผชิญกับวิกฤตที่ร้ายแรงที่สุดหลังจากการล่มสลายของรัฐบาลในสัปดาห์นี้ ในการลงมติไม่ไว้วางใจครั้งประวัติศาสตร์ ซึ่งทำให้มิเชล บาร์นิเยร์ นายกรัฐมนตรีต้องพ่ายแพ้
การลงมติดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากที่เกิดความขัดแย้งทางการเมืองหลายเดือนหลังจากการเลือกตั้งกะทันหัน ขณะนี้มีเสียงเรียกร้องดังขึ้นจากฝ่ายค้านให้มาครงลาออก แต่ในวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา เขาให้คำมั่นว่าจะดำรงตำแหน่งต่อไปจนถึงสิ้นวาระในปี 2027 และจะแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีคนใหม่ภายในไม่กี่วัน
ในขณะที่ฝรั่งเศสกำลังดิ้นรนกับปัญหาเศรษฐกิจและความไม่สงบทางสังคมที่เพิ่มมากขึ้น การเฉลิมฉลองการฟื้นคืนชีพของนอเทรอ-ดามก็เป็นสิ่งที่แตกต่างอย่างสิ้นเชิงจากวิกฤตการณ์ครั้งนี้
มีระบบการรักษาความปลอดภัย เข้มงวดสูงสุด
การรักษาความปลอดภัยจะเข้มงวดตลอดทั้งสุดสัปดาห์นี้ ซึ่งสอดคล้องกับมาตรการที่ดำเนินการระหว่างการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกที่ปารีสเมื่อต้นปีนี้
เกาะเล็ก ๆ ในแม่น้ำแซนซึ่งเป็นที่ตั้งของนอเทรอ-ดาม จะปิดไม่ให้นักท่องเที่ยวและผู้ที่ไม่ได้อาศัยอยู่ที่นั่นเข้าเยี่ยมชม โดยจำกัดเฉพาะผู้ที่ได้รับเชิญและผู้ที่อาศัยอยู่บนเกาะเท่านั้น
พื้นที่ชมสาธารณะริมฝั่งทางใต้ของแม่น้ำแซนจะรองรับผู้ชมได้ 40,000 คน ซึ่งสามารถติดตามการเฉลิมฉลองผ่านจอภาพขนาดใหญ่ได้
พิธีเปิดประตูอาสนวิหารอีกครั้งของอาร์ชบิชอปจะตามมาด้วยพิธีทางศาสนาและการปลุกออร์แกนอันใหญ่โตให้ตื่นขึ้นอีกครั้ง ก่อนจะปิดท้ายด้วยคอนเสิร์ตเฉลิมฉลองเพื่อเป็นเกียรติแก่ความสำคัญทางวัฒนธรรมและจิตวิญญาณของนอเทรอ-ดาม
อาสนวิหาร นอเทรอ-ดาม จิตวิญญาณแห่งมวลมนุษยชาติ
สำหรับหลายๆ คน การฟื้นคืนชีพของนอเทรอ-ดามไม่ใช่เพียงความสำเร็จของฝรั่งเศสเท่านั้น แต่ยังเป็นความสำเร็จระดับโลกอีกด้วย หลังจากเปิดประตูอาสนวิหารอีกครั้ง อาสนวิหารแห่งนี้คาดว่าจะมีผู้เข้าชม 15 ล้านคนต่อปี เพิ่มขึ้นจาก 12 ล้านคนก่อนเกิดเพลิงไหม้
หลังจากเกิดเพลิงไหม้ในปี 2019 มีผู้บริจาคเงินเกือบ 1 พันล้านดอลลาร์ (34,500 ล้านบาท) จากทั่วโลก ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสำคัญ ศักดิ์สิทธิ์ และความดึงดูดใจของนอเทรอ-ดาม
ที่มา: https://go.newsfusion.com//world-news/item/18184480
https://www.express.co.uk/news/world/1985655/notre-dame-reopening-live-princess