การขับเคลื่อน Soft Power เรียนรู้ศาสตร์แห่งลิซ่าและ Rockstar Energy ในยุคใหม่ เคาท์ดาวน์กลางกรุงเทพฯปีนี้ผ่านไม่ได้ เคาะแล้วลิซ่ามาแน่? Soft Power ของลิซ่ายังคงทำโลกสะเทือน ทั้งวงการแฟชั่น สิ่งแวดล้อม ดนตรี อาหาร ตั้งแถวจับตามองจากการเคลื่อนไหวอะไรเป็นต้องติดกระแส และแทรกความคิดถึงบ้านเกิดเมืองไทย ตัวตนที่เด็กรุ่นใหม่ยกให้เป็นไอดอล และดึงใจคนทั้งชาติ ปีใหม่นี้ไทย ดึงตัว ‘ลิซ่า’ ร่วมเคาท์ดาวน์ เริ่มต้นปี 2568 ด้วย Rockstar Energy?
ลลิษา มโนบาล หรือที่รู้จักกันดีในชื่อ “ลิซ่า” (LISA) กลายเป็นสัญลักษณ์ของศิลปินระดับโลกผ่านการทำงานในวงการเพลงอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2016 (พ.ศ. 2559) จนถึงปัจจุบัน
ลิซ่าเกิดที่จังหวัดบุรีรัมย์ ประเทศไทย และเริ่มมีความสนใจในศิลปะการเต้นตั้งแต่อายุยังน้อย เธอเข้าร่วมการออดิชั่นที่ประเทศไทยในปี 2010 (พ.ศ.2553) โดย YG Entertainment และเป็นผู้เข้าร่วมเพียงคนเดียวที่ได้รับเลือก และหลังจากเข้าฝึกที่เกาหลีใต้ ลิซ่าก็ได้เดบิวต์กับวง BLACKPINK ในปี 2016 (พ.ศ.2559)
นับตั้งแต่การเปิดตัว ลิซ่าได้กลายเป็นศิลปินระดับโลกด้วยเพลงฮิตจาก BLACKPINK เช่น “DDU-DU DDU-DU” และ “Kill This Love” รวมถึงผลงานเดี่ยว “LALISA” ที่ทำลายสถิติโลกในปี 2021 (พ.ศ.2564) ด้วยยอดวิว 73.6 ล้านในวันแรก และในปี 2023-2024 (พ.ศ.2566-2567) ลิซ่ายังคงมีบทบาทสำคัญในวงการเพลงและบันเทิง ไม่ว่าจะเป็นการออกทัวร์คอนเสิร์ตระดับโลกกับ BLACKPINK หรือโปรเจกเดี่ยวที่มีการร่วมมือกับศิลปินต่างชาติ
พื้นที่โซเชียลส่วนตัว ของลิซ่า Instagram ที่มียอดคนติดตาม ในปัจจุบัน อยู่ที่ 104 ล้านคน เป็นพื้นที่สำหรับแชร์เนื้อหาส่วนตัวของเธอ ลิซ่ายังไม่รอช้าที่จะใช้พื้นที่ส่วนตัวนี้บอกเล่าความเป็นตัวตน ชาติกำเนิดที่สะท้อนวัฒนธรรมไทย
ทั้งอาหารที่เธอนึกถึง สถานที่ที่เธอไป หรือแม้แต่ผ้าไทยและชุดไทยที่เธอสวมใส่และนำไปปรากฎสู่สายตาสากล ผ่านเสน่ห์ส่วนตัวและเอกลักษณ์การเป็นตัวแทนของคนรุ่นใหม่
สิ่งที่ทำให้ลิซ่าเป็น Soft Power จึงนำไปสู่การสร้างอานิสงส์เชื่อมโยงไปสู่วัฒนธรรมไทยเข้ากับแฟชั่นและดนตรี
ความดังและเป็นที่ยอมรับในทุกวงการทำให้ “ลิซ่า” ไม่เพียงเป็นศิลปิน แต่ยังเป็นแรงบันดาลใจให้กับเยาวชนทั่วโลก จากการเป็นการแสดงออกบนเวทีด้วยความมั่นใจ ฉบับ Rockstar กล้าแสดงออก และความเป็นนักสู้ ไม่ย่อท้อต่ออุปสรรค ยังแฝงไว้ด้วยมารยาทอันงดงามอย่างไทยเมื่อต้องปรากฎตัวในแวดวงทางสังคม
ลิซ่า BLACKPINK กับพลังงาน Rockstar ที่สะกดโลก
“ลิซ่า”ไม่เพียงแต่เป็นศิลปินที่ประสบความสำเร็จในระดับโลก แต่ยังได้รับการยอมรับในฐานะผู้ที่มี “พลังงานแบบ Rockstar” มักถูกใช้ในเชิงสัญลักษณ์เพื่ออธิบายถึงคนที่มี พลังงานแรงกล้า (Rockstar Energy) ที่ชัดเจนและไม่เหมือนใคร พลังเหล่านี้ไม่ได้เกิดจากการร้องเพลงหรือการเต้นเพียงอย่างเดียว แต่รวมถึงบุคลิกและทัศนคติที่แฝงด้วยความมั่นใจ กล้าแสดงออก และมีคาริสม่าเต็มเปี่ยม
- ความมั่นใจและเสน่ห์ที่ตราตรึงใจ
ทุกครั้งที่ลิซ่าขึ้นแสดงบนเวที เธอสามารถดึงดูดความสนใจของผู้ชมได้ทันที ความมั่นใจและคาริสม่าในการเคลื่อนไหว บวกกับทักษะการเต้นที่แม่นยำ ทำให้การเคลื่อนไหวและท่าทางของเธอเต็มไปด้วยพลังและมีเสน่ห์ที่ทำให้ผู้ชมรู้สึกตื่นเต้น สร้างความประทับใจให้ผู้ชมรู้สึกเหมือนได้รับพลังงานที่เต็มเปี่ยม ไม่ต่างจากการดูศิลปินร็อกสตาร์ที่ปล่อยพลังและความรู้สึกที่หนักแน่นออกมา
- สไตล์แฟชั่นที่โดดเด่นและการแสดงที่ดุดัน
นอกจากความสามารถทางการแสดงแล้ว ลิซ่ายังมีภาพลักษณ์ที่กล้าแตกต่าง สไตล์การแต่งตัวของเธอที่ผสมผสานความเป็นสตรีทแฟชั่นและขบถแบบร็อก ทำให้เธอโดดเด่นในทุกการปรากฏตัว ไม่ว่าจะเป็นบนเวทีหรือนอกเวที โดยลิซ่าจับชุดไทยประยุกต์สีทอง ทอด้วยผ้าทอยกดอกลำพูน สวมชฎา ออกแบบโดยนักออกแบบชาวไทย และ นุ่งผ้าถุงมัดหมี่ย้อมครามหมักโคลน ลายขอนาค จังหวัดอุดรธานี รวมทั้งหยิบ แบรนด์แฟชั่นสัญชาติไทย PIPATCHARA ที่ทำจากขยะพลาสติกรีไซเคิลมาสวมใส่ ทำให้เห็นว่านอกจากการเป็นตัวแม่แฟชั่น ลิซ่ายังตระหนักถึงการดูแลสิ่งแวดล้อมอีกด้วย
- ทัศนคติที่ไม่ยอมแพ้และเป็นแรงบันดาลใจ
ลิซ่ายังแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นและความพยายามที่ไม่ย่อท้อ กว่าที่เธอจะประสบความสำเร็จในระดับนี้ได้ เธอได้ผ่านการฝึกฝนและก้าวข้ามอุปสรรคต่างๆ มากมาย ซึ่งนี่คือสิ่งที่ทำให้เธอเหมือนกับศิลปินร็อกที่ไม่ยอมแพ้ต่อความลำบาก กลายแรงบันดาลใจให้คนรุ่นใหม่ โดยเฉพาะคนไทย ส่งผลให้คนรุ่นใหม่รู้สึกถึงคุณค่าและความงดงามของวัฒนธรรมตนเอง และเกิดความมุ่งมั่นในการอนุรักษ์และสืบสานความเป็นไทย รวมทั้งมีเป้าหมายที่พยายามทำในสิ่งที่ตนรักให้ดีจนเกิดความสำเร็จ เหมือนกับ พี่ลิซ่า
คอนเซปต์ของ Rockstar Energy ในการแสดงของลิซ่า ทั้งหมดนี้ทำให้ลิซ่ามีพลังงานแบบ “Rockstar” ที่สามารถทำให้เธอโดดเด่นและเป็นแรงบันดาลใจให้กับแฟนๆ ทั่วโลก คือการแสดงพลังงานและคาแรกเตอร์ที่ทรงพลังของเธอที่ดึงดูดผู้ชม ลิซ่าแสดงออกถึงความมั่นใจและความสามารถทางศิลปะที่โดดเด่น โดยไม่จำกัดเฉพาะด้านดนตรีและการเต้นเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการแสดงออกทางท่าทางและอารมณ์ ทำให้ผู้ชมรู้สึกถึงพลังของเธอในทุกการเคลื่อนไหว เธอมีเสน่ห์ที่สามารถดึงดูดและสื่อสารกับผู้คนได้โดยตรง ไม่เพียงแค่ผ่านเสียงเพลงแต่ยังผ่านภาพลักษณ์และการสื่อสารด้วยอารมณ์ ทำให้การแสดงของเธอมีความเข้มข้นและเต็มไปด้วยพลัง
ทำไมลิซ่าถึงเป็นสัญลักษณ์ของ Soft Power?
จากแนวคิด Soft Power ที่มาจากโจเซฟ ไน (Joseph Nye) คือการใช้ “อำนาจอ่อน” เพื่อมีอิทธิพลต่อคนอื่นโดยไม่ใช้กำลังหรือการบังคับ โดยการดึงดูดและสร้างแรงบันดาลใจผ่านวัฒนธรรมและค่านิยมต่างๆ ซึ่งแตกต่างจากการใช้ “อำนาจแข็ง” (Hard Power) ที่เน้นไปทางการใช้กำลังทางทหารหรือเศรษฐกิจในการกดดัน
ลิซ่าเป็นตัวอย่างที่เด่นชัดของการใช้ Soft Power ในการส่งเสริมวัฒนธรรมไทย
“การบอกคิดถึง ลูกชิ้นยืนกิน ลูกชิ้นสูตรเด็ดน้ำพริกเผาที่เมืองไทยทำให้บรรดาแฟนคลับเดินทางไปตามรอย ส่งผลให้พ่อค้าแม่ค้าที่ขายลูกชิ้นยืนกินมีรายได้เพิ่มขึ้น การลงภาพสวมผ้าซิ่นเที่ยวโบราณสถาน ไหว้พระที่พระนครศรีอยุธยา ในสื่อโซเชียล ทำให้ผ้าขาดตลาดยอดขายพุ่ง เกิดรายได้แก่ชุมชน นอกจากนี้ยังมีการลงภาพอาหารและขนมไทย มีผู้ชมหลักล้านทำให้เป็นที่รู้จัก หาซื้อตาม ไม่ว่าจะเป็น โรตีสายไหม หมูกระทะ ตำมะม่วง และ นมหนองโพ เป็นต้น” เสริมศักดิ์ พงษ์พานิช อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เคยกล่าวไว้
สิ่งเหล่านี้ช่วยเพิ่มชื่อเสียงและความสนใจในวัฒนธรรมไทยทั่วโลก ทำให้แฟนคลับทั้งในและต่างประเทศตื่นเต้นและยกย่องการรักษารากเหง้าวัฒนธรรมผ่านศิลปินรุ่นใหม่ ส่งผลให้เกิดการยอมรับและเคารพต่อประเทศไทยในวงกว้าง กระทรวงวัฒนธรรมไทยจึงได้มอบรางวัลกิตติมศักดิ์ “ผู้นำพลังศรัทธาเสริมคุณค่าวัฒนธรรมไทย” ให้กับลิซ่าในโอกาสวันสถาปนากระทรวงวัฒนธรรม วันที่ 3 ตุลาคม 2566 ณ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย ซึ่งยกย่องบทบาทของเธอในการส่งเสริมวัฒนธรรมไทยในระดับสากล
ลิซ่าร่วมเคาท์ดาวน์ที่ไทย ปี 2568
น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงข่าวเกี่ยวกับการเชิญลิซ่า มาร่วมกิจกรรมเคาท์ดาวน์ปีใหม่ที่ไอคอนสยาม ในกิจกรรม AmazingThailandCountdown 2025 โดยยืนยันว่าเป็นการดำเนินการของภาคเอกชน 100% รัฐบาลไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในการจัดงาน แม้ว่าจะมีการพูดคุยเกี่ยวกับการเชิญลิซ่าเข้ามาแสดง แต่ยังไม่มีการยืนยันรายละเอียดของกิจกรรมที่แน่ชัด โดยคาดว่าเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นมากสำหรับนักท่องเที่ยวและแฟนคลับ
เพราะหาก ลิซ่า (Lisa) มาร่วมงานเคาท์ดาวน์ที่ประเทศไทย คาดว่าจะสร้างผลกระทบเชิงบวกอย่างมากต่อเศรษฐกิจและวัฒนธรรมของประเทศ ดึงดูดแฟนคลับจากทั่วโลก ซึ่งจะช่วยกระตุ้นธุรกิจในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว เช่น โรงแรมและร้านค้า นอกจากนี้ การปรากฏตัวของลิซ่ายังเป็นการยกระดับภาพลักษณ์ของวัฒนธรรมไทยให้เป็นที่รู้จักในระดับนานาชาติ ทั้งยังสร้างความตื่นเต้นและความสุขให้กับแฟนคลับในช่วงเทศกาลปีใหม่
การเคาท์ดาวน์ที่มีลิซ่ามาร่วม อาจจะเป็นโอกาสในการส่งเสริมประเทศไทยในระดับสากล พร้อมทั้งสนับสนุนแบรนด์ท้องถิ่นต่างๆ อย่างมากมาย ซึ่งอาจทำให้เกิดการตลาดที่ดีขึ้นสำหรับผลิตภัณฑ์ไทย
