ปลุกไฟพลังผู้นำ จากศาสตร์โยคะ-การออกกำลังกายสลายความเครียด สู่สุขภาวะดี

ปลุกไฟพลังผู้นำ จากศาสตร์โยคะ-การออกกำลังกายสลายความเครียด สู่สุขภาวะดี

วิธีใช้ร่างกาย และจิตใจ ผสานลมหายใจ จากโยคะและออกกำลังกาย ผลลัพธ์ปลุกศักยภาพผู้นำในตัว ที่ฉลาดทั้งการควบคุมอารมณ์ ดูแลร่างกาย และมีแรงขับเคลื่อนการทำงานไปสู่เป้าหมายด้วยความสุข 

 

 

 

 

โดยอาจารย์กฤษณ์ รุยาพร Co-Founder IDGs Asia Pacific Innovation Center -Leadership Hub Thailand CEO University of Happiness ผู้แต่งหนังสือขายดี : ศาสตร์ผู้นำสู่ความยั่งยืน, เหนือกว่ากำไร, Well-Being Leader,DNA Of Leadership Happiness Mental Health & NCDs มีผลต่อ Outstanding Performance

 

 

‘ Mindfulness Leadership Well-Being in action with Yoga and Tension Release Exercise’

 

หลายคนวิ่งแสวงหาความสำเร็จ ทำทุกอย่างเพื่อให้ได้ในสิ่งที่ต้องการ สุดท้ายกลับได้แต่ความสำเร็จที่ไม่จีรังยั่งยืน พบกับความว่างเปล่าในการเดินทางไปหาความสำเร็จซ้ำร้ายกว่านั้นคือได้โรคประจำตำแหน่งที่มาพร้อมความเครียด เช่น Mental Health และโรค NCDs (Non-Communicable Diseases)ที่รุมเร้า เช่น โรคหัวใจหรือเบาหวาน การนอนไม่หลับการใช้ชีวิตในอนาคตในซึ่งมีผลหลายมิติกับสมรรถนะในด้านต่างๆของผู้นำโดยเฉพาะ

ประสิทธิภาพการทำงาน ผู้นำที่มีอาการซึมเศร้าหรือ burnout มักจะมีสมาธิลดลง ทำให้การตัดสินใจและการจัดการงานมีประสิทธิภาพน้อยลง

ความสัมพันธ์ในทีมอารมณ์ที่ไม่ดีอาจส่งผลให้ผู้นำสื่อสารไม่ดี ทำให้เกิดความเข้าใจผิดหรือความขัดแย้งภายในทีม

หลายคนใช้ร่างกายจนเกินขอบเขตทำให้อายุของร่างกาย Pace of Aging ของบางท่านอายุแก่มากกว่าอายุในบัตรประชาชนหลายสิบปี ส่งผลต่อความสามารถในการทำงานและส่งผลกระทบต่อสุขภาพโดยรวมของผู้นำ

จึงต้องเริ่มต้นจากการฝึกสร้างความแข็งแรง ให้เป็นคนที่มีความฉลาดของร่างกายและจิตใจ (Body & Emotional Intelligence)

 

 

วิธีการฝึกความฉลาดของร่างกายและจิตใจของผู้นำทั้งในด้านสร้างอัจฉริยภาพให้ร่างกาย ( Body Intelligence) และความฉลาดทางอารมณ์ (Emotional Intelligence) หัวใจสำคัญที่เป็นพื้นฐานอยู่ที่การมีสติ ตระหนักรู้ ( Mindfulness) มีความสามารถในการใช้ร่างกาย ให้มีความแข็งแกร่งทั้งกายใจ เมื่อเราควบคุมและเพิ่มทักษะควบคุมจิตใจไปสู่การควบคุมร่างกายได้ ก็จะก้าวสู่การเป็นผู้นำของการมีสุขภาวะดี (Leadership Well-Being)ในมิติต่างๆเพิ่มขึ้น อาทิ

 

 

การสร้างการตระหนักรู้ รับรู้และเข้าใจร่างกาย : การฝึกสร้างสมรรถนะให้กับร่างกาย (Body Intelligence) ช่วยให้ผู้นำเข้าใจความรู้สึกของร่างกาย เช่น เมื่อเกิดภาวะความเครียดและอาการปวด ทำให้สามารถจัดการกับปัญหาได้ทันท่วงที

ความสามารถในการปกป้องพิษที่เข้ามาโจมตี (Damage Toxic) ทั้งกายใจทำให้นอนหลับอย่างมีคุณภาพ ก่อให้เกิดการตระหนักรู้ ในการหาวิธีทำกิจกรรมช่วยเสริมสร้างร่างกายช่วยให้ผู้นำที่ปลุกพลังงานและมีสุขภาพดีขึ้น

การเข้าใจอารมณ์ของตนเอง: ช่วยให้ผู้นำเข้าใจความรู้สึกของตนเองและสามารถจัดการกับอารมณ์ได้ดีขึ้น

การสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้อื่น: ช่วยให้ผู้นำสามารถสร้างความสัมพันธ์ที่ดีในทีม ทำให้การสื่อสารและการทำงานร่วมกันมีประสิทธิภาพ

 

 

Yoga และ การออกกำลังกายเพื่อปล่อยภาวะความเครียด ( Tension Release Exercise : Mindfulness in action) เป็นกิจกรรมที่ช่วยพัฒนาทั้งความฉลาดทางร่างกาย และอารมณ์ (Body & Emotional Intelligence) 

โดยการใช้หลักการของโยคะ (Yoga) ช่วยสร้างการตระหนักรู้ ทำให้เรามีสติในการเคลื่อนไหวและการหายใจ ทำให้เราสามารถตระหนักรู้ถึงความรู้สึกและสัญญาณจากร่างกาย ช่วยลดความเครียดที่มีประสิทธิภาพ ดังนี้:

 

  1. การหายใจลึก

เทคนิคการหายใจในโยคะช่วยให้ร่างกายรับออกซิเจนมากขึ้น และช่วยลดความตึงเครียดในกล้ามเนื้อ การหายใจลึกทำให้ร่างกายรู้สึกสงบ

  1. การเคลื่อนไหวและยืดเหยียดให้สู่จุดสมดุล

ท่าโยคะที่ช่วยยืดเหยียดกล้ามเนื้อช่วยลดความตึงเครียดและอาการปวดเมื่อย จากการทำงานหรือความเครียดสะสมในชีวิตประจำวัน

  1. การมุ่งเน้นที่ปัจจุบัน (Mindfulness)

การทำโยคะช่วยฝึกให้เรามีสติอยู่กับปัจจุบัน ทำให้ลดความวิตกกังวลเกี่ยวกับอนาคตหรือความเครียดจากอดีต

  1. การผ่อนคลายจิตใจ

ท่าผ่อนคลาย เช่น ท่าตัวอ่อน (Child’s Pose) หรือท่าศพ (Corpse Pose) ช่วยให้จิตใจสงบและผ่อนคลาย

5. การเชื่อมโยงร่างกายและจิตใจ

โยคะช่วยให้เราเชื่อมโยงร่างกายและจิตใจ ทำให้เราเข้าใจสภาพอารมณ์ของตัวเองและสามารถจัดการกับความเครียดได้ดีขึ้น

  1. การปล่อยอารมณ์

การทำโยคะสามารถช่วยให้เราปลดปล่อยอารมณ์ที่สะสมอยู่ในร่างกาย เช่น ความโกรธ ความเศร้า ทำให้รู้สึกเบาสบายขึ้น

  1. สร้างความมั่นใจและความสุข

 

วิธีการช่วยเสริมสร้างความมั่นใจในตัวเอง และทำให้รู้สึกมีความสุขผ่านการทำกิจกรรมฝึกใช้ร่างกาย คู่กับสมองดังนี้ 

1.โยคะยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน: เมื่อพนักงานมีสุขภาพจิตที่ดี จะส่งผลให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น ลดการลาออกและความขัดแย้งในทีม 

โยคะ มีประโยชน์ทำให้เกิดการสร้างภาพลักษณ์ที่ดี: องค์กรที่ให้ความสำคัญกับสุขภาพสามารถสร้างภาพลักษณ์ที่ดีในตลาด ช่วยดึงดูดทั้งลูกค้าและพนักงาน

2.ออกกำลังกายลดความตึงเครียด (Tension Release Exercise -TRE)

การปล่อยความตึงเครียด: TRE ช่วยให้เกิดกลไกธรรมชาติในการปล่อยความตึงเครียด ทำให้เราสามารถเข้าใจสัญญาณจากร่างกายได้ดีขึ้นซึ่งเป็นกระบวนการที่มีประโยชน์หลายด้าน ประกอบด้วย 

-การปล่อยความตึงเครียด

การทำให้ร่างกายผ่อนคลาย: TRE ช่วยลดความตึงเครียดสะสมในกล้ามเนื้อ  ซึ่งช่วยปล่อยพลังงานและความตึงเครียด

-การปรับสมดุลระบบประสาท

ส่งเสริมการทำงานของระบบประสาทพาราซิมพาเธติก: การทำ TRE ช่วยกระตุ้นระบบนี้ ซึ่งส่งผลให้ร่างกายรู้สึกสงบและผ่อนคลาย ช่วยลดการกระตุ้นของระบบซิมพาเธติกที่อาจทำให้เกิดความวิตกกังวลและยากในการนอนหลับ

-การสร้างการรับรู้ในการไปต่อหรือพอแค่นี้

การตระหนักถึงร่างกาย: TRE ส่งเสริมให้เรารับรู้ถึงความเครียดและความตึงเครียดในร่างกาย ทำให้เราสามารถจัดการกับความรู้สึกเหล่านั้นได้ ไม่เร่งจนเกินไป และพักให้เป็น

 

 

-ลดอาการวิตกกังวล

การลดความวิตกกังวล: การทำ TRE ช่วยลดความวิตกกังวลที่อาจรบกวนการนอน โดยทำให้จิตใจสงบและพร้อมที่จะพักผ่อน

-การสร้างนิสัยในการผ่อนคลาย

การทำเป็นประจำ: หากทำ TRE เป็นประจำก่อนนอน จะช่วยให้ร่างกายและจิตใจมีการปรับตัวเข้าสู่ภาวะผ่อนคลาย ซึ่งสามารถช่วยให้นอนหลับได้ง่ายขึ้น

ช่วยให้ร่างกายปลดปล่อยความเครียดที่สะสมอยู่ในกล้ามเนื้อและระบบประสาท ทำให้รู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น

-จิตใจสงบ

การทำ TRE ช่วยลดความวิตกกังวลและสร้างความสงบในจิตใจ ทำให้สามารถคิดและตัดสินใจได้ดีขึ้น

-การนอนหลับที่ดีขึ้น

เมื่อร่างกายและจิตใจผ่อนคลายมากขึ้น จะช่วยให้การนอนหลับมีคุณภาพดีขึ้น ทำให้รู้สึกสดชื่นและมีพลังเมื่อ waking up

-ความยืดหยุ่น

การปลดปล่อยความตึงเครียดช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับกล้ามเนื้อ Fascia และข้อต่อ ทำให้เคลื่อนไหวได้ง่ายขึ้น

-การมองโลกในแง่ดี

เมื่อร่างกายมีความผ่อนคลายและมีสุขภาพดีขึ้น จิตใจก็จะเปิดกว้างและมองโลกในแง่ดีมากขึ้น ซึ่งส่งผลดีต่อชีวิตประจำวัน

ผลลัพธ์จากการฝึก Yoga ควบคู่กับ  TRE รวมกันเป็นการช่วยพัฒนาความฉลาดทางร่างกาย: การฝึกโยคะและ TRE ร่วมกันสามารถเสริมสร้าง Body Intelligence ให้กับเรา ช่วยให้เรามีความสามารถในการรับรู้ความรู้สึกทางร่างกาย และตอบสนองต่อความตึงเครียดหรืออารมณ์ได้ดียิ่งขึ้น 

ถือเป็นการฟื้นฟูสุขภาวะอย่างครบวงจร: การใช้โยคะและ TRE เป็นแนวทางในการดูแลสุขภาพจะช่วยให้เรามีสภาวะจิตใจที่สงบและมีความยืดหยุ่นสร้างภูมิต้านทาน (Resilience) ของผู้นำต่อการเปลี่ยนแปลงที่ซับซ้อนและรวดเร็ว

 

ที่มา 

Yoga for Stress: Breath, Poses, and Meditation to Calm Anxiety (healthline.com)