Amazon ลงทุนกว่า 500 ล้านดอลลาร์เพื่อพัฒนา SMR โมดูลาร์นิวเคลียร์ขนาดเล็ก รองรับการทำงาน AI DATA ตลอด 24 ชม.

Amazon ลงทุนกว่า 500 ล้านดอลลาร์เพื่อพัฒนา SMR โมดูลาร์นิวเคลียร์ขนาดเล็ก รองรับการทำงาน AI DATA ตลอด 24 ชม.

Amazon Web Services (AWS) ลงทุนมากกว่า 500 ล้านดอลลาร์ (1.15 ล้านบาท) ในพลังงานนิวเคลียร์ โดยประกาศโครงการ 3 โครงการตั้งแต่เวอร์จิเนียไปจนถึงรัฐวอชิงตัน ซึ่งนับเป็นการเปลี่ยนแปลงทิศทางเชิงกลยุทธ์ด้านพลังงานที่สำคัญยิ่ง เพื่อป้อนระบบการทำงานของ AI DATA ที่ต้องการพลังงานเป็นจำนวนมาก และต้องมีความต่อเนื่อง

 

ประเด็นสำคัญ

-AWS ประกาศว่าได้ลงนามข้อตกลงกับโดมิเนียน เอนเนอร์จี (Dominion Energy) ซึ่งเป็นบริษัทสาธารณูปโภคของรัฐเวอร์จิเนีย เพื่อสำรวจการพัฒนาเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์แบบแยกส่วนขนาดเล็ก ใกล้กับโรงไฟฟ้านิวเคลียร์นอร์ท แอนนา (North Anna) ที่มีอยู่เดิมของโดมิเนียน 

-AWS ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ Amazon ด้านการประมวลผลบนคลาวด์ (Cloud) มีความต้องการพลังงานสะอาดอย่างมหาศาลและเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากบริษัทได้ขยายบริการไปสู่ ​​AI เชิงสร้างสรรค์ ข้อตกลงนี้ยังเป็นส่วนหนึ่งของเส้นทางของ Amazon สู่การปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์อีกด้วย

-Amazon  เป็นบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่รายล่าสุดที่เข้าซื้อกิจการพลังงานนิวเคลียร์เพื่อสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นของศูนย์ข้อมูล เช่นเดียวกันกับ  Google และ Microsoft ได้ประกาศแผนการที่คล้ายกัน

 

บริษัทในเครือ Amazon ในระบบคลาวด์คอมพิวติ้งมีความต้องการพลังงานสะอาดเพิ่มขึ้นอย่างมาก เนื่องจากได้ขยายบริการไปสู่ ​​AI เชิงสร้างสรรค์ นอกจากนี้ ยังเป็นส่วนหนึ่งของเส้นทางของ Amazon สู่การปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์อีกด้วย

 

 

AWS ลงนาม โดมิเนียน เอนเนอร์จี

พัฒนาเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์แยกส่วนขนาดเล็ก

บริษัทสาธารณูปโภคของรัฐเวอร์จิเนีย กำลังศึกษาการพัฒนาเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์แบบแยกส่วนขนาดเล็ก หรือ SMR ใกล้กับโรงไฟฟ้านิวเคลียร์นอร์ท แอนนา ที่มีอยู่ของบริษัทโดมิเนียนเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ไม่ก่อให้เกิดการปล่อยคาร์บอน

SMR คือเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ชนิดขั้นสูงที่มีขนาดเล็กกว่า ทำให้สร้างได้ใกล้กับโครงข่ายไฟฟ้ามากขึ้น นอกจากนี้ เครื่องปฏิกรณ์ชนิดนี้ยังก่อสร้างได้เร็วกว่าเครื่องปฏิกรณ์แบบเดิม จึงสามารถเริ่มดำเนินการได้เร็วกว่า

Amazon เป็นบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่รายล่าสุดที่ซื้อกิจการพลังงานนิวเคลียร์เพื่อสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นของศูนย์ข้อมูลเมื่อต้นสัปดาห์นี้ Google

ประกาศว่าจะซื้อพลังงานจากไคโรส พาวเวอร์ (Kairos Power) ผู้พัฒนา SMR ส่วน คอนสติลเลชั่น เอเนอยี่ (Constellation Energy)  กำลังเริ่มใช้เกาะทรีไมล์ (Three Mile Island) อีกครั้ง  เพื่อจ่ายไฟให้กับ   ศูนย์ข้อมูลของ Microsoft

การลงทุนในครั้งนี้ถือได้ว่าเป็นการลงทุนเชิงกลยุทธ์ด้านพลังงาน เพราะพลังงานจำนวนมากที่ผลิตโดย SMR จะช่วยให้ Amazon สามารถบรรลุเป้าหมายการปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์อีกด้วย สิ่งสำคัญอีกประการหนึ่งคือ Amazon จำต้องลงทุนด้าน AI DATA ซึ่งต้องใช้พลังงานมาก เพื่อการประมวลผลอย่างต่อเนื่อง การตัดสินใจใช้  SMR  มั่นใจได้ว่าระบบปฏิบัติการทั่วโลกจะไม่ล่ม

แมทธิว การ์แมน ซีอีโอของ AWS กล่าวว่า เราเห็นถึงความต้องการพลังงานในระดับกิกะวัตต์ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า และจะไม่มีโครงการพลังงานลมและพลังงานแสงอาทิตย์เพียงพอที่จะตอบสนองความต้องการดังกล่าวได้ ดังนั้น พลังงานนิวเคลียร์จึงเป็นโอกาสที่ดี นอกจากนี้ เทคโนโลยียังก้าวหน้าอย่างมากจนถึงจุดที่ SMR จะกลายเป็นเทคโนโลยีใหม่ที่ปลอดภัยและผลิตได้ง่ายในรูปแบบที่เล็กลงมาก

 

 

‘รัฐเวอร์จิเนีย’ ศูนย์กลางการจัดเก็บ “ข้อมูล’ ในสหรัฐฯ

รัฐเวอร์จิเนียเป็นที่ตั้งของศูนย์ข้อมูลเกือบครึ่งหนึ่งของศูนย์ข้อมูลทั้งหมดในสหรัฐอเมริกา โดยมีพื้นที่แห่งหนึ่งทางตอนเหนือของเวอร์จิเนียที่เรียกว่า ‘ช่องทางศูนย์กลางจัดเก็บข้อมูล’ ( Data Center Alley) ซึ่งส่วนใหญ่ตั้งอยู่ในลูดอนเคาน์ตี้ (Loudon County) ประมาณกันว่า 70% ของปริมาณการรับส่งข้อมูลอินเทอร์เน็ตทั่วโลกเดินทางผ่าน’ซอยศูนย์ข้อมูล’ในทุกวัน

โดมิเนียน เอนเนอร์จี (Dominion) ถือเป็นผู้ให้บริการไฟฟ้าประมาณ 3,500 เมกะวัตต์จากศูนย์ข้อมูล 452 แห่งทั่วพื้นที่ให้บริการในเวอร์จิเนีย โดยประมาณ 70% อยู่ใน’ศูนย์ข้อมูล’  โดยทั่วไปแล้วศูนย์ข้อมูลแห่งเดียวต้องการไฟฟ้าประมาณ 30 เมกะวัตต์หรือมากกว่านั้น 

จากข้อมูลของ  โดมิเนียน เอนเนอร์จี  บ็อบ บลู (Dominion Energy Bob Blue) ประธานและซีอีโอของบริษัทกล่าวในการประชุมผลประกอบการไตรมาสล่าสุดว่าปัจจุบันบริษัทได้รับคำขอไฟฟ้ารายบุคคลสำหรับไฟฟ้ากำลังการผลิต 60 เมกะวัตต์ถึง 90 เมกะวัตต์หรือมากกว่านั้น จึงคาดการณ์ว่าความต้องการไฟฟ้าจะเพิ่มขึ้น 85% ในอีก 15 ปีข้างหน้า AWS คาดว่า SMR ใหม่จะนำไฟฟ้าอย่างน้อย 300 เมกะวัตต์มาสู่ภูมิภาคเวอร์จิเนีย

เกล็น ยังกิน (Glenn Youngkin) ผู้ว่าการรัฐเวอร์จิเนียกล่าวถึงเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์แบบแยกส่วนขนาดเล็กจะมีบทบาทสำคัญในการทำให้เวอร์จิเนียเป็นศูนย์กลางนวัตกรรมนิวเคลียร์ชั้นนำ ความมุ่งมั่นของ Amazon Web Services ที่มีต่อเทคโนโลยีนี้และความร่วมมือกับโดมิเนียน  ถือเป็นก้าวสำคัญในการตอบสนองความต้องการพลังงานในอนาคตของเวอร์จิเนียที่กำลังเติบโต

AWS วางแผนใช้งบประมาณในการลงทุน 35,000 ล้านดอลลาร์ (1.15  ล้านล้านบาท) ภายในปี 2040 (พ.ศ.2583) เพื่อจัดตั้งศูนย์ข้อมูลหลายแห่งทั่วเวอร์จิเนีย ตามประกาศของ ยังคินเมื่อปีที่แล้ว

“ SMR เหล่านี้จะจ่ายไฟให้กับระบบกริดโดยตรง จึงสามารถจ่ายไฟให้กับทุกสิ่งทุกอย่างได้ ซึ่งส่วนหนึ่งก็คือศูนย์ข้อมูล แต่ทุกสิ่งทุกอย่างที่เสียบเข้ากับระบบกริดก็จะได้รับประโยชน์” การ์มัน กล่าวเสริม

นอกจากนี้ Amazon ยังประกาศข้อตกลงใหม่กับ บริษัท เอ็นเนอร์ยี่ นอร์ทเวส์ท (Energy Northwest) ซึ่งเป็นบริษัทสาธารณูปโภค ซึ่งเป็นกลุ่มสาธารณูปโภคของรัฐ เพื่อจัดหาเงินทุนสำหรับการพัฒนา การออกใบอนุญาต และการก่อสร้าง SMR จำนวน 4 แห่งในรัฐวอชิงตัน โดยเครื่องปฏิกรณ์ดังกล่าวจะสร้างขึ้น เป็นเจ้าของ และดำเนินการโดย เอ็นเนอร์ยี่ นอร์ทเวส์ท แต่จะจ่ายพลังงานให้กับโครงข่ายไฟฟ้าโดยตรง ซึ่งจะช่วยขับเคลื่อนการดำเนินงานของ Amazon อีกด้วย

ภายใต้ข้อตกลงนี้ Amazon จะมีสิทธิ์ในการซื้อไฟฟ้าจากโมดูลทั้งสี่ตัวแรก เอ็นเนอร์ยี่ นอร์ทเวส์ท มีตัวเลือกในการสร้างโมดูลเพิ่มเติมได้ถึงแปดโมดูล พลังงานดังกล่าวจะพร้อมให้บริการแก่ Amazon และบริษัทสาธารณูปโภคในภาคตะวันตกเฉียงเหนือเพื่อจ่ายไฟให้กับบ้านเรือนและธุรกิจต่างๆ

 

 

SMR ถือเป็นการลงทุน 2 เท่าของพลังงานนิวเคลียร์

SMR จะได้รับการพัฒนาโดยใช้เทคโนโลยีจากบริษัทเอ็กซ์ เอ็นเนอร์ยี่ (X-energy) ในรัฐแมริแลนด์ ซึ่งเป็นผู้พัฒนา SMR และเชื้อเพลิง นอกเหนือจากการประกาศอื่น ๆ ของ Amazon แล้ว กองทุนปฏิญาณตนต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Pledge Fund) ของ Amazon ยังเปิดเผยว่า Amazon เป็นผู้นำในการระดมทุนมูลค่า 500 ล้านดอลลาร์ (18,000 ล้านบาท)

สำหรับ เอ็กซ์ เอ็นเนอร์ยี่ และกองทุนปฏิญาณตนต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ  เป็นกองทุนร่วมทุนขององค์กรที่ลงทุนในบริษัทที่เน้นการพัฒนาอย่างยั่งยืนในระยะเริ่มต้น นักลงทุนรายอื่น ๆ ได้แก่ เคน กริฟฟิน (Ken Griffin) ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของซิทาเดล (Citadel) บริษัทในเครือของบริษัท เอเรส เมเนจเมนท์ คอร์ป (Ares Management Corp., NGP) และมหาวิทยาลัยมิชิแกน

เจ.เคลย์เซลล์ (J. Clay Sell) ซีอีโอของเอ็กซ์ เอ็นเนอร์ยี่ กล่าวว่า Amazon และ เอ็กซ์ เอ็นเนอร์ยี่ พร้อมที่จะกำหนดอนาคตของพลังงานนิวเคลียร์ขั้นสูงในตลาดเชิงพาณิชย์ เพื่อใช้ประโยชน์จากโอกาสต่าง ๆ ที่มีผ่านปัญญาประดิษฐ์อย่างเต็มที่ 

“เราจะต้องนำอิเล็กตรอนที่สะอาด ปลอดภัย และเชื่อถือได้เข้าสู่โครงข่ายไฟฟ้าโดยใช้เทคโนโลยีที่ได้รับการพิสูจน์แล้ว ซึ่งสามารถปรับขนาดและเติบโตไปพร้อมกับความต้องการ”

รัฐบาลของไบเดนได้จัดสรรเงินหลายพันล้านดอลลาร์เพื่อการผลิตพลังงานสะอาด โดยในการประกาศ AWS ครั้งนี้ เจนนิเฟอร์ แกรนโฮล์ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานของสหรัฐฯ กล่าวว่าขณะนี้มีเงินทุนใหม่ 900 ล้านดอลลาร์ (32,400 ล้านบาท) สำหรับผู้ที่ต้องการใช้ SMR เพิ่มเติม

“เราต้องการให้สร้างศูนย์ข้อมูลเหล่านี้ในสหรัฐอเมริกาด้วยเหตุผลหลายประการ รวมถึงเหตุผลด้านความมั่นคงของชาติ เราต้องการพลังงานเพิ่มเติมเพื่อให้ทำเช่นนั้นได้ และเราต้องการให้พลังงานเหล่านี้เป็นพลังงานสะอาด” แกรนโฮล์ม กล่าว

เมื่อฤดูใบไม้ผลิที่ผ่านมา AWS ได้ลงทุนในโครงการพลังงานนิวเคลียร์กับทาเลน เอ็นเนอร์ยี่ (Talen Energy) โดยลงนามในข้อตกลงซื้อพลังงานนิวเคลียร์จากโรงไฟฟ้าพลังงานไอน้ำสถานีไฟฟ้าพลังไอน้ำซัสควีฮันนา( Susquehanna Steam Electric Station) ที่มีอยู่ของบริษัท ซึ่งเป็นโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ในเมืองเซเลม (Salem Township) รัฐเพนซิลเวเนีย 

นอกจากนี้ AWS ยังได้ซื้อศูนย์ข้อมูลพลังงานนิวเคลียร์ที่อยู่ติดกันจากทาเลน ในราคา 650 ล้านดอลลาร์

 

ที่มา: https://www.cnbc.com/2024/10/16/amazon-goes-nuclear-investing-more-than-500-million-to-develop-small-module-reactors.html