3 ผู้นำหญิง ชู ซอฟท์พาวเวอร์ เพิ่มความสามารถแข่งขันไทยในเวทีโลก

3 ผู้นำหญิง ชู ซอฟท์พาวเวอร์ เพิ่มความสามารถแข่งขันไทยในเวทีโลก

การพัฒนาทุนมนุษย์ ให้แข็งแกร่ง โดยเฉพาะการเข้าถึง เทคโนโลยี การศึกษา และสภาพแวดล้อมที่ดี ล้วนเป็น ซอฟท์พาวเวอร์ หรืออำนาจละมุนสำคัญ ที่นอกจากจะลดความเหลื่อมล้ำในสังคมได้แล้ว ที่สำคัญยังเป็นการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันไม่ว่าจะเป็นระดับองค์กร หรือประเทศ

 

 

‘ความเหลื่อมล้ำ’ นับเป็นปัญหาของสังคมไทย รวมถึงอีกหลากหลายประเทศทั่วโลก โดยเฉพาะประเทศที่กำลังพัฒนา นอกจากจะหมายถึงความเหลื่อมล้ำด้านรายได้ ซึ่งแตกต่างกันระหว่างคนจน กับ คนรวย แล้ว ลึกลงไปรายได้ที่แตกต่างกันยังนำไปสู่การสร้างความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึง ‘เทคโนโลยี – การศึกษา- สภาพแวดล้อมที่ดี’ ซึ่งล้วนเป็น พลังละมุน หรือซอฟท์พาวเวอร์ ในการพัฒนาทุนมนุษย์ ให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี เป็นพลังของชาติในการขับเคลื่อนขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับประเทศในเวทีโลก ที่ภาคส่วนที่เกี่ยวข้องต้องช่วยกันแก้   

ล่าสุด ในงานสัมมนาของ สมาคมการจัดการธุรกิจแห่งประเทศไทย (Thailand Management Association : TMA) ในโอกาสครบรอบ 60 ปี  ในหัวข้อ “Soft Power”  3 ผู้นำองค์กร ฐาปณี เตชะเจริญวิกุล กลุ่มบีเจซีบิ๊กซี  ศุภจี สุธรรมพันธุ์  ดุสิตธานี และอรนุช เลิศสุวรรณกิจ แห่งเทคซอส ให้มุมมองต่อพลังซอฟท์พาวเวอร์ ในการขับเคลื่อนองค์กรและสังคมไทย ได้อย่างน่าสนใจ   

 

 

สร้างสิ่งแวดล้อมที่เต็มไปด้วยโอกาส

ให้ทุกคนมีส่วนร่วมอย่างเท่าเทียม

ฐาปณี เตชะเจริญวิกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจและสังคมทั่วโลก ซอฟท์พาวเวอร์ คือคำตอบสำคัญในเวทีการแข่งขันระดับประเทศ โดยมุมมองของบีเจซีบิ๊กซีกรุ๊ป มุ่งเน้น 2 เสาหลักคือ People (คน) กับ Value (คุณค่า)  ภายใต้แนวคิด DEI (Diversity, Equity, Inclusion)  ที่ส่งเสริมความหลากหลาย ความเสมอภาค และการมีส่วนร่วมของคนในองค์กร รวมถึงกลุ่ม LGBTQ  ให้เป็นพื้นที่น่าอยู่และเปิดกว้างให้กับทุกโอกาส และการสร้างสภาพแวดล้อมในที่ทำงานที่เอื้อต่อการพัฒนาทั้งตัวบุคคลและองค์กร

“การสร้างสภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยโอกาส และให้ทุกคนได้มีส่วนร่วมอย่างเท่าเทียม ภายใต้ DEI มีการปรับสวัสดิการสำหรับพนักงานทุกกลุ่ม การใช้เทคโนโลยีและ AI เพื่อพัฒนาความเท่าเทียม ที่ไม่ใช่เพียงแค่สัญลักษณ์ แต่เป็นการดำเนินการจริงในทุกมิติ ซึ่งแนวคิดนี้ส่งผลต่อการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานในองค์กรอย่างชัดเจน โดยหัวใจสำคัญคือการสร้าง Knowledge Sharing (แบ่งปันความรู้)  และเป็นซอฟท์พาวเวอร์ที่แท้จริง เช่น การพัฒนาโครงการด้านการศึกษากับยูนิเซฟและโครงการพัฒนาครูไทยทั่วประเทศ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงการลงทุนในทุนมนุษย์อย่างต่อเนื่อง” 

 

 

 

‘การศึกษา’ กุญแจสำคัญเข้าถึง

ความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจ พัฒนาทุนมนุษย์

 

ศุภจี สุธรรมพันธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท ดุสิตธานี จํากัด (มหาชน) เน้นย้ำถึงบทบาทสำคัญของการศึกษาในการเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขันของประเทศไทย โดยระบุว่า ซอฟท์พาวเวอร์ คือการมีอิทธิพลโดยไม่ต้องใช้กำลังให้คนรักและยอมรับ และให้ความเห็นว่าเสาหลักสำคัญของซอฟท์พาวเวอร์ที่จะเชื่อมโยงทั้งเศรษฐกิจ วัฒนธรรม และความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ คือ ‘การศึกษา’

 

คนไทย การศึกษาสูง ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยทั่วโลก 

โดยสถิติแสดงให้เห็นว่าประชากรไทยที่ได้รับการศึกษาในระดับสูงมีเพียง 16% ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของโลกที่ 28% ขณะที่ประเทศเกาหลีใต้ที่มีซอฟท์พาวเวอร์ที่เข้มแข็ง เกิดจากระบบการศึกษาที่มีคุณภาพ ดังนั้น การเข้าถึงการศึกษาในประเทศไทยยังคงเป็นความท้าทายที่ต้องแก้ไข เพื่อนำไปสู่ความเข้มแข็งของระบบเศรษฐกิจและการพัฒนาทุนมนุษย์ 

 

 

 

‘เทคโนโลยี’ S-Curve ใหม่แก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำทางสังคม

 

ด้าน อรนุช เลิศสุวรรณกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท เทคซอส มีเดีย มองว่า จุดแข็งสำคัญของประเทศไทยในอนาคตคือการใช้เทคโนโลยีดิจิทัล  โดยซอฟท์พาวเวอร์ต้องเน้นที่การสร้างผู้สร้างเทคโนโลยี ไม่ใช่แค่ผู้ใช้เทคโนโลยี และเชื่อว่าเทคโนโลยีจะเป็น S-Curve ใหม่ที่สามารถแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำทางสังคมและการเข้าถึงการศึกษาและสุขภาพได้ด้วย

“จากประสบการณ์กว่า 20 ปีในวงการเทคโนโลยี ทำให้เห็นการดิสรัปหลายครั้ง ซึ่งมองว่าประเทศไทยมีจุดแข็งในด้านอาหาร เกษตรกรรม และสุขภาพ ซึ่งสามารถนำเทคโนโลยีเข้ามาเพิ่มมูลค่าและสร้างความแตกต่างให้กับประเทศในตลาดโลก” อรนุช กล่าว 

ทั้งนี้สิ่งที่ 3 ผู้นำหญิง ให้ทัศนะ คือ การพัฒนาสิ่งแวดล้อมที่ดี การศึกษาที่ดี และเทคโนโลยี ที่ดี จะเป็นกุญแจสำคัญในการผลักดันซอฟท์พาวเวอร์ ผ่านการพัฒนาความแข็งแกร่งของทุนมนุษย์ นำไปสู่การเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันทางธุรกิจ หรือในระดับประเทศ