Oho! เป็นอีกหนึ่งสตาร์ทอัพไทยในสาย sustainability ที่น่าสนใจ เขาได้สร้างแพลตฟอร์ม Sustainable Food outlet ขึ้นมาเพื่อแก้ปัญหา Food Surplus และ Food Waste ช่วยกำจัดอาหารเหลือทิ้ง โดยไม่เหลือเป็นขยะ
Oho! เป็นอีกหนึ่งสตาร์ทอัพไทยในสาย sustainability ที่น่าสนใจ เขาได้สร้างแพลตฟอร์ม Sustainable Food outlet ขึ้นมาเพื่อแก้ปัญหา Food Surplus และ Food Waste ในการช่วยให้ร้านค้าต่าง ๆ สามารถกำจัดอาหารเหลือทิ้งได้ โดยที่ไม่เหลือเป็นขยะ แต่ยังสามารถนำไปส่งต่ออาหารที่มีคุณภาพให้กับผู้บริโภคได้อีกด้วย
Oho! เป็นแอปพลิเคชั่น Food Delivery ที่ก่อตั้งขึ้นมาเพื่อที่จะเป็น Tech Solution ในการแก้ปัญหา Food Surplus และ Food Waste เน้นพัฒนาแพลตฟอร์มที่ส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
แนวคิดของแพลตฟอร์มนี้คือ ผู้บริโภค ได้อาหารดี ราคาประหยัด และ ผู้ค้า ไม่มีสินค้าเหลือทิ้ง ลดต้นทุน ทั้งสองฝ่ายยังได้ช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมโลกไปพร้อม ๆ กัน
Oho! เริ่มจากการสร้างแพลตฟอร์ม Food Outlet เพื่อเชื่อมต่อร้านอาหารเข้ากับผู้ใช้ให้มีประสิทธิภาพ และมีค่า Commission ที่ค่อนข้างต่ำ เพื่อเป็นการเพิ่มรายได้และลดต้นทุนให้แก่ร้านค้า นอกจากนั้นยังให้ผู้บริโภคสามารถที่จะลดค่าใช้จ่ายเรื่องอาหารด้วยการเข้าถึงอาหารคุณภาพที่ลดราคาในแอปพลิเคชันถึง 25-70%
รวมถึงมีส่วนร่วมในการลดโลกร้อนและขับเคลื่อนโลกที่สะอาดขึ้น ผ่านการทานอาหารของพาร์ทเนอร์ที่ร่วมกับ Oho! ได้ทั้งแบบรับประทานที่ร้าน Take Home หรือแบบเดลิเวอรี่ด้วยบรรจุภัณฑ์รักษ์โลก และปราศจากพลาสติกทุกชนิด ซึ่งทุกออเดอร์ของ Oho! จะช่วยลด Co2 หรือคาร์บอนไดออกไซด์ได้ถึงออเดอร์ละประมาณ 1.25 กิโลกรัม
สำหรับการแก้ปัญหาอาหารเหลือครบวงจรของ Oho! แบ่งเป็นออกเป็น 2 ส่วนคือ ปัญหาต้นน้ำ และปลายน้ำ โดยในส่วน Oho! application เป็นทางออกปลายน้ำโดยจะเป็นแพลตฟอร์มที่จะช่วยให้ร้านอาหารในการทำโปรโมชั่น, Trial Menu เพื่อเพิ่มยอดขายและยังสามารถลดต้นทุนจากการลดปริมาณวัตถุดิบที่มีมากเกินความจำเป็นได้อย่างมีประสิทธิภาพ
พร้อมกันนี้ Oho! ยังมีโครงการ Partner ที่จะรวบรวมวัตถุดิบที่มีปริมาณมากเกิน จากโรงงานและฟาร์มมาปรุงอาหารที่ Cloud Kitchen เพื่อแจกจ่ายและจำหน่ายให้กับชุมชนในราคา 7-15 บาทเพื่อที่จะแก้ปัญหา Food Surplus และลดภาระค่าใช้จ่ายให้กับสังคมโดยรวมอีกด้วย
Oho! Thailand จะประกอบด้วยแอปพลิเคชัน 3 ตัวที่พัฒนามาเพื่อรองรับกับการใช้งานของทุกภาคส่วนในธุรกิจอาหาร ได้แก่ Oho! ซึ่งเป็นแอปฯสำหรับผู้ใช้ , Oho! Merchant ที่ใช้สำหรับร้านค้าพาร์ทเนอร์ และ Oho! Rider สำหรับคนขับในส่วนของบริการเดลิเวอรี่
ปัจจุบัน Oho! ได้เปิดในบริการใช้แล้ว โดยมีร้านอาหารที่เข้าร่วมในโครงการกว่า 600 สาขา เช่น Flash Coffee, บุญตงกี่ รวมถึงห้างสรรพสินค้าชั้นนำอย่าง Gourmet Market และร้านอาหารจากโรงแรมในเครือ Centara และ Marriott
โดยในอนาคต Oho! จะมีการเพิ่มร้านค้าต่าง ๆ เข้ามาอย่างต่อเนื่องเพื่อร่วมกันแก้ไขปัญหา Food Waste และ Food Surplus รวมถึงปัญหาขยะพลาสติกที่เกิดขึ้นในประเทศไทยต่อไป.