อังกฤษเดินหน้ากฎหมายใหม่ หวังยุติกิจการฟาร์มสุนัขและแมวที่พรากลูก พรากแม่ตั้งแต่อายุยังน้อยมาร้านขายสัตว์เลี้ยงโดยขาดสุขอนามัยที่เหมาะสม จนมีความเสี่ยงถึงชีวิต
เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา นายไมเคิล โกฟ รัฐมนตรีสิ่งแวดล้อมประเทศอังกฤษได้เสนอกฎหมายใหม่ที่ต้องการป้องกันสวัสดิการชีวิตของสุนัข- แมว ที่มีอยู่ในฟาร์มสุนัข-แมวให้ต่อสภาสามัญชน (House of Commons) เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
กฎหมายดังกล่าวเป็นที่รู้จักในนาม “กฎหมายลูซี” (Lucy’s Law) ซึ่งห้ามมิให้มีการค้าขายลูกสุนัขและลูกแมวในร้านขายสัตว์เลี้ยง หรือผ่านผู้ประกอบการอื่นๆ ที่ไม่ได้เป็นผู้ผสมพันธุ์และเลี้ยงสัตว์เหล่านั้นด้วยตนเอง
หากกฎหมายนี้ผ่านการอนุมัติ ผู้ที่ต้องการซื้อสุนัขและแมวที่อายุต่ำกว่า 6 เดือน จะต้องซื้อกับผู้ผสมพันธุ์สัตว์โดยตรง หรือรับเลี้ยงจากศูนย์หาบ้านให้สัตว์เลี้ยงเท่านั้น
กระทรวงสิ่งแวดล้อม อาหาร และกิจการชนบท (Department for Environment, Food and Rural Affairs – Defra) อธิบายถึงที่มาของกฎหมาย ลูซี ว่าตั้งชื่อตาม “ลูซี” สุนัขพันธุ์แควาเลียร์คิงชาลส์สแปเนียล (Cavalier King Charles Spaniel) ที่ตายไปในปี 2016 เพราะสภาพแวดล้อมฟาร์มลูกสุนัขที่ย่ำแย่ในเมืองเวลส์ โดยสุนัขอย่างเช่นลูซี มักถูกซื้อไปเลี้ยงรวมกันในฟาร์ม พรากพวกมันจากแม่ตั้งแต่อายุยังไม่ถึงเดือน เพื่อนำไปโฆษณาออนไลน์หรือจำหน่ายในร้านขายสัตว์เลี้ยง
การกระทำเช่นนี้ทำให้เกิดปัญหาการเข้าสังคมของลูกสุนัขและลูกแมว ทั้งยังทำให้เกิดโรคที่ไม่ควรเกิดตามมาอีกมากมาย ดังนั้น กฎหมาย ลูซี นี้จะปกป้องลูกสัตว์ให้ได้เกิดและเติบโตในสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัย อยู่กับแม่ของพวกมันจนกว่าจะถูกขาย และไม่ถูกนำไปเลี้ยงในฟาร์ม
นอกจากนี้ กฎหมายนี้ยังห้ามมิให้ลักลอบนำลูกสุนัขอายุต่ำกว่ากำหนดเข้ามาขายเพื่อหาผลกำไรในประเทศอังกฤษอีกด้วย
นาย โกฟ ชี้แจงว่ากฎหมายฉบับนี้กำหนดขึ้นเพื่อป้องกันไม่ให้มีสัตว์เลี้ยงต้องเผชิญชะตากรรมเช่นเดียวกับลูซีอีก ซึ่งจะช่วยหยุดการพรากลูกสัตว์มาจากแม่ของมัน และไม่ให้พวกมันต้องเจอกับสภาพแวดล้อมที่ย่ำแย่ในการเจริญเติบโต
ข่าวอื่นที่น่าสนใจ
“ลูกเสือดาว” ถูกชาวต่างชาติฉีดยาสลบส่งขายต่างปท. แข็งแรงแล้ว
