หมอตาแนะวิธีอยู่กับวิกฤตสังคมฝุ่นพิษ

หมอตาแนะวิธีอยู่กับวิกฤตสังคมฝุ่นพิษ

รศ.นพ.ศักดิ์ชัย วงศกิตติรักษ์ จักษุแพทย์หัวหน้าศูนย์ตาธรรมศาสตร์ และประธานวิชาการ ราชวิทยาลัยจักษุแพทย์แห่งประเทศไทย ได้แนะนำประชาชนอยู่อย่างไรให้ปลอดภัยในวิกฤตฝุ่นควันต้องผจญมาหลายวัน หลายคนเริ่มมีอาการผิดปกติในระบบร่างกายหลายระบบ รวมทั้งวิตกว่าจะเป็นอันตรายกับอวัยวะต่างๆ

ภาวะวิกฤตฝุ่นควัน PM2.5 เป็นภาวะที่มีฝุ่นขนาดเล็กในอากาศมากกว่าปกติ โดยทั่วไปฝุ่นขนาดเล็กอาจทำให้ดวงตาเกิดอาการระคายเคือง แต่อาการผิดปกติเหล่านี้มักเป็นเพียงระยะเวลาสั้นๆ ไม่ทำให้เกิดอันตรายร้ายแรงกับดวงตา ยกเว้นในผู้ที่มีความผิดปกติกับดวงตาอยู่แล้ว เช่น ต้อลม ต้อเนื้อ หรือภูมิแพ้ขึ้นตา อาจทำให้มีอาการเคืองตา ตาแดงมากกว่าปกติ

 

รศ.นพ.ศักดิ์ชัย กล่าวว่า หลังจากที่มีปัญหาฝุ่นละอองทำให้มีผู้ป่วยมาโรงพยาบาลแผนกตามากขึ้น ด้วยเรื่องของอาการแสบตา ตาแดง และเคืองตามากขึ้น เนื่องจากปัญหาตาแห้งหรือแสบตาเป็นปัญหาของคนยุคใหม่อยู่แล้ว ที่ต้องเผชิญกับมลภาวะต่าง ๆ รวมถึงการใช้สายตากับคอมพิวเตอร์เยอะ ๆ เมื่อมีวิกฤตของฝุ่นละออง และหมอกควันเยอะขึ้น ทำให้เกิดการละคายเคืองที่บริเวณดวงตามากขึ้น ทำให้ตาแห้งและทำให้ตาแดง บางคนรุนแรงถึงขั้นตาอักเสบได้

 

ส่วนปัญหาที่ดวงตาถูกฝุ่นควันมลพิษในขณะนี้อาจจะเกิดอาการเพียงแค่ชั่วคราว ไม่ได้ทำให้ตาบอดถาวรก็ตาม หากเป็นไปได้ ขอแนะนำการดูแลดวงตาในภาวะวิกฤติฝุ่นควันมีดังนี้

1.ควรหลีกเลี่ยงการอยู่ในบริเวณที่มีฝุ่นควันหนาแน่นเท่าที่สามารถทำได้

2.หากมีอาการระคายเคืองตาหรือแสบตา ควรหลีกเลี่ยงการขยี้ตา ให้ล้างตาด้วยน้ำสะอาดหรือใช้น้ำตาเทียมหยอดตา

3.ในคนที่มีปัญหาต้อลม ต้อเนื้อ หรือภูมิแพ้บริเวณดวงตาอยู่แล้ว เมื่อต้องเข้าไปในบริเวณที่มีฝุ่นควันมาก ๆ จะทำให้มีอาการมากขึ้น ควรหาแว่นตาชนิดมีขอบด้านบนและด้านข้างมาใส่ เพราะแว่นตาทั่วไปไม่สามารถป้องกันฝุ่นควันเข้าตาจากด้านข้างได้

4.คนที่ใส่คอนแทคเลนส์ หากต้องอยู่ในที่มีฝุ่นควันเยอะควรใช้แว่นตาแทนเพราะการใส่คอนแทคเลนส์อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการติดเชื้อที่ดวงตาได้

5.หากมีอาการผิดปกติทางตารุนแรง เช่น ตาแดงมาก มีขี้ตาสีเขียวหรือเหลืองแสดงว่าดวงตาติดเชื้อ หรือตามัวลงให้ไปพบจักษุแพทย์โดยเร็ว

สำหรับท่านที่ดวงตาถูกฝุ่นควันที่เป็นมลพิษแล้วมีอาการแสบตาเคืองตามาก แนะนำว่าให้ใช้น้ำสะอาดล้างดวงตา อาจเป็นน้ำต้มสุกที่เย็นแล้ว หรือน้ำเกลือ ถ้ามีน้ำตาเทียมสำหรับหยดตาอยู่แล้ว ก็สามารถใช้น้ำตาเทียมหยอดล้างบริเวณดวงตาได้ จะปลอดภัยกว่าการใช้น้ำยาล้างตาที่เป็นสารเคมี ข้อแนะนำเหล่านี้น่าจะช่วยทำให้ดวงตาของประชาชนทั่วไปที่อาศัยอยู่ในเมืองสามารถอยู่กับภาวะวิกฤตฝุ่นควันได้อย่างปลอดภัยเพราะเราอาจยังต้องเผชิญกับปัญหานี้ต่อไปอีกนานหากยังไม่สามารถแก้ปัญหานี้ได้