จากการเสียชีวิตอย่างกะทันหันของ “มงคล อุทก” หรือ “หว่อง คาราวาน ในวัย 67 ปี สมาชิกวงคาราวาน และนักดนตรีเพื่อชีวิตและจิตรกรชาวไทยนั้น อ่านข่าว www.thaiquote.org/content/45573
หงา คาราวาน หรือสุรชัย จันธิมาธร เมื่อทราบข่าว ได้โพสต์แสดงความอาลัยผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ถึงการจากไปของเพื่อนรัก มีข้อความว่า
“ไปดีนะหว่อง มงคล อุทก ขุนพลพิณ พนมไพร เมื่อสักครู่ใหญ่นี้เอง ผมอยู่ชุมพร ได้รับข่าวสุดช็อกครับ เสียใจกับครอบครัวด้วยอย่างสุดซึ้ง สะเทือนใจ”
และ
“เสียใจสุดซึ้ง -ถึงเพื่อนลาจาก เพลงพิณวิบาก -เมืองพนมไพร คาราวานหว่องสิ้น -ราวแผ่นดินไหว -คารวาลัย -ไปดี ไปดี…”
นอกจากนี้ หงา คาราวาน ยังได้โพสต์บทกวีถึงเพื่อน โดยมีความว่า
ที่มา : FB สุรชัย จันธิมาธร
“มงคล อุทก” ตำนานเพลงพิณ
ด้านประวัติของมงคล อุทก หรือ หว่อง คาราวาน เกิดวันที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ.2494 อำเภอพนมไพร จังหวัดร้อยเอ็ด เรียนหนังสือที่เทคโนฯ โคราช จบการศึกษาด้านศิลปะ เล่นเครื่องดนตรีเช่นพิณ, กีตาร์ และเมาท์ออร์แกน
โดยเริ่มตั้งวงดนตรีชื่อ “บังคลาเทศแบนด์” ขณะที่เรียนหนังสือร่วมกับทองกราน ทานา (อืด) ก่อนจะร่วมกับวงดนตรีของสุรชัย จันทิมาธร ก่อตั้งเป็นวงคาราวาน เมื่อ พ.ศ. 2517 หลังออกจากป่าที่เข้าร่วมกับขบวนการสหาย ในการเรียกร้องประชาธิปไตยช่วง 14 ตุลา 2516 โดยเป็นหนึ่งในกลุ่มสมาชิกยุคแรกที่เริ่มก่อตั้งวง รับหน้าที่เป่าเมาท์ออร์แกน เล่นพิณ และร้องประสาน เขียนเพลง โดยมีผลงานแต่งเพลงให้กับคาราวาน เช่น ลุกขึ้นสู้ และกุหลาบแดง
ในฐานะศิลปินเดี่ยว “มงคล อุทก” มีผลงานเพลงอีกมากมายหลายอัลบั้ม ดังนี้
คนไร้ราก
โอ้ย..ชีวิต
สิงห์รายวัน
หว่อง ลอยนวล
เสี่ยหำน้อย
พูดไม่หวาน
อัศจรรย์
รำวงเพลงป่า กินตั๊บกินตั๊บ กินพุง กินตั๊บ
ซึ่งมีผลงานเพลงที่โดดเด่นมากมาย เช่น เพลงพิณ ทำบุญร่วมชาติ เหล้าจ๋า คืนสู่รัง สิงห์รายวัน เสือใบ แสงตะเกียง โอ้ยชีวิต สบเมย ลอยนวล หัวใจแก่ๆ คนไร้ราก น้องดาว หัวใจติดลบ กาเหว่า
นอกจากนี้ มงคล อุทก ยังมีผลงานเขียนหนังสือ ชื่อ “พิณรำพึง” และ “เพลงพิณพนมไพร” ที่บอกเล่าเรื่องราวประสบการณ์ในแวดวงการเพลงเพื่อชีวิต ตีพิมพ์ครั้งแรกเมื่อ พ.ศ.2544
นับเป็นกว่าเวลา 4 ทศวรรษที่ มงคล อุทก หรือหว่อง คาราวาน คือหนึ่งศิลปินเพลงเพื่อชีวิตที่รวมตัวกันในนามวงคาราวาน ซึ่งมีสมาชิกประกอบด้วย “สุรชัย จันทิมาธร” ,”ทองกราน ทานา”, “วีรศักดิ์ สุนทรศรี” สร้างผลงานร่วมกันในยุคประชาธิปไตยเบ่งบาน หลังเหตุการณ์ 14 ตุลาคม 2516 เพื่อทำงานศิลปะด้านบทเพลงสร้างสรรค์สะท้อนปัญหาของสังคม โดยเฉพาะกลุ่มคนผู้ยากไร้ระดับล่าง เป็นบทเพลงที่สะท้อนให้เห็นการต่อสู้เพื่อเสรีภาพ และความเป็นธรรมในสังคม
ทั้งในนามของวงคาราวาน และในนาม “มงคล อุทก” ในหลายบทเพลงได้แสดงให้เห็นถึงสัจธรรมของสังคม และเป็นสัญลักษณ์ของยุคสมัย หลายบทเพลงที่สะท้อนให้เห็นเรื่องราวการต่อสู้ระหว่างชนชั้นในสังคม
จวบช่วงชีวิตในบั้นปลายที่ร่างกายอ่อนล้าตามอายุขัย มีโรคร้ายเข้ารุมเร้า ทำให้ช่วงหลายปีหลังที่ผ่านมาต้องรักษาอาการป่วย และมีอยู่ช่วงเวลาหนึ่งที่ร่างกายไม่สามารถเล่นพิณที่ตนเองรักได้ แต่อุปสรรคทางร่างกายก็ไม่สามารถบั่นทอนจิตใจและจิตวิญญาณที่แข็งแกร่ง “มงคล อุทก” พยายามและกลับเล่นพิณและสร้างสรรค์ผลงานศิลปะที่ตัวเองรักได้อีกครั้ง
แม้ว่าวันนี้จะไม่มีนักดนตรีเจ้าของตำนาน “เพลงพิณพนมไพร” อีกต่อไปแล้ว แต่เชื่อแน่นอนว่า ผลงานที่มีคุณคุณค่าและอุดมการณ์ของ “มงคล อุทก” จะจารึกอยู่ในแผ่นดินตลอดไป