“แมลง” อาหารภูมิปัญญาไทย เข้าชิง 1 ในเมนูอาหาร “นักบินอวกาศ” NASA

“แมลง” อาหารภูมิปัญญาไทย เข้าชิง 1 ในเมนูอาหาร “นักบินอวกาศ” NASA

ปลายเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ทีมวิศวกรรมอวกาศ KEETA ของไทย ผ่านเข้ารอบแรกของโครงการ ‘Deep Space Food Challenge’ ของ NASA ซึ่งเป็นการคัดเลือกเมนูอาหารต่างๆเพื่อผลิตเป็นอาหารให้นักบินอวกาศ ด้วยการนำเสนอแนวคิด “เมนูอาหารอวกาศ” จาก “แมลง” อาหารภูมิปัญญาไทย โดยไทยถือเป็น 1 ใน 10 ทีมนานาชาติที่ผ่านเข้ารอบนี้

 

สำหรับทีม KEETA เป็นการรวมตัวกันของบรรดานักคิด นักวิชาการรุ่นใหม่ ได้แก่

1. นภัสธนันท์ พรพิมลโชค นักศึกษาฝึกงาน บ. Space Zab นักศึกษาวิศวกรรมอากาศยาน จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

2. ประพันธ์พงศ์ ดำส่งแสง นักศึกษาปริญญาเอก KTH Royal Institute of Technology ประเทศสวีเดน

3. สิทธิพล คูเสริมมิตร นักศึกษาฝึกงาน บ. Space Zab นักศึกษาวิศวกรรมอากาศยาน จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

4. วัชรินทร์ อันเวช นักศึกษาปริญญาโทชีวเคมีการแพทย์และชีววิทยาโมเลกุล ม.มหิดล

5. ดร.วเรศ จันทร์เจริญ อาจารย์ประจำคณะแพทยศาสตร์และการสาธารณสุข วิทยาลัยแพทยศาสตร์ศรีสวางควัฒน ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์

 

การแข่งขันโครงการ ‘Deep Space Food Challenge’ จัดโดย องค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติ (National Aeronautics and Space Administration – NASA) และองค์การอวกาศแคนาดา (Canadian Space Agency – CSA) ซึ่งมีเป้าหมายสำคัญในการคัดเลือกผู้สร้างเทคโนโลยีและระบบผลิตอาหาร ที่เต็มไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการสำหรับนักบินอวกาศและผู้คนบนโลก โดยจะต้องตอบโจทย์ 5 ด้านได้แก่

1.ความต้องการอาหารในระยะยาว 3 ปี โดยไม่มีการส่งเสบียงเสริมจากโลก

2. เพียงพอต่อนักบินอวกาศ 4 คน

3. เพิ่มโอกาสในการเข้าถึงอาหารบนโลก โดยเฉพาะการผลิตอาหารในพื้นที่ใจกลางเมืองและพื้นที่ห่างไกล

4. ผลิตอาหารได้ในปริมาณมากที่สุด โดยใช้ปัจจัยการผลิตน้อยที่สุด และผลิตของเสียน้อยที่สุด

5. สร้างสรรค์อาหารที่อร่อย มีคุณค่าทางโภชนาการ ปลอดภัย และมีกระบวนการเตรียมอาหารที่ใช้เวลาน้อยที่สุดสำหรับนักบินอวกาศ

 

ทั้งนี้ KEETA ได้เสนอแนวคิดด้วยไอเดีย ‘Bio Culture Foods’ ซึ่งเป็นการผสมผสานเทคโนโลยีเครื่องพิมพ์ 3 มิติที่อยู่ภายใต้การพัฒนาของบริษัท ‘SPACE ZAB Company’ เข้ากับภูมิปัญญาของคนไทยในการกินสิ่งมีชีวิตจากระบบนิเวศขนาดเล็กอย่าง ‘แมลง’ ซึ่งเป็นแหล่งโปรตีนคุณภาพดี และมีรสชาติหลากหลาย และเก็บไว้ได้นาน

 

เหตุผลดังกล่าว อาจทำให้คณะกรรมการฯ พิจารณาเลือกให้ KEETA ผ่านเข้ารอบ เนื่องจาก นักบินจะต้องคุมอาหารให้ได้พลังงานเฉลี่ย 3,000 กิโลแคลอรี่/วัน อาหารอวกาศ จึงต้องให้พลังงานสูง เนื่องจากในสภาวะไร้น้ำหนัก จะต้องใช้พลังงานมากกว่าปกติ และแร่ธาตุเสริมต่างๆ ที่จำเป็นต่อร่างกาย

 

ทำให้ทีม KEETA ผ่านเข้าร่วมการแข่งขันรอบที่ 2 ไปพร้อมกับทีมจากโคลอมเบีย เยอรมนี ออสเตรเลีย อิตาลี บราซิล ฟินแลนด์ อินเดีย และซาอุดีอาระเบีย ในประเภททีมนานาชาติ ขณะที่มีอีก 2 ประเภทได้แก่ทีมในพื้นที่สหรัฐอเมริกา และทีมในพื้นที่แคนาดา

 

นอกจาก การนำเสนอแนวคิดของอาหารอวกาศแล้ว โครงการ Deep Space Food Challenge ยังมีเป้าหมายเพื่อเปิดโอกาสการเข้าถึงอาหารของมนุษย์ในพื้นที่ห่างไกล และขาดแคลนทรัพยากรในมุมต่างๆของโลกอีกด้วย

 

โดยเฉพาะอย่างยิ่งพื้นที่ที่ถูกภัยพิบัติทำลายโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อให้มนุษย์ทุกคนทั้งบนโลกและนอกโลกเข้าถึงอาหารที่ปลอดภัยและมีคุณค่าทางโภชนาการสูงที่สุด