สสส. จับมือ บ.กล่องดินสอ แนะแนวการศึกษา “เด็กพิการเรียนไหนดี”

สสส. จับมือ บ.กล่องดินสอ แนะแนวการศึกษา “เด็กพิการเรียนไหนดี”


สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ ร่วมกับ บริษัท กล่องดินสอ จัดงาน “เด็กพิการเรียนไหนดี’ 64 ตอน ปั้นฝันเป็นตัว” แนะแนวการศึกษาต่อระดับชั้นอุดมศึกษาและอาชีวศึกษาสำหรับนักเรียนพิการ

วันที่ 21 ต.ค.63 สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับ บริษัท กล่องดินสอ จำกัด จัดงาน “เด็กพิการเรียนไหนดี’ 64 ตอน ปั้นฝันเป็นตัว” ณ ทรู ไอคอน ฮอลล์ ชั้น 7 ศูนย์การค้าไอคอนสยาม

ภายในงานมีกิจกรรมให้นักเรียนคนพิการได้เรียนรู้ระบบการสอบเข้าเพื่อศึกษาต่อ การให้ความรู้เรื่องสิทธิทางการเรียนของคนพิการ การรับเข้าและดูแลนักศึกษาพิการจากศูนย์บริการนักศึกษาพิการของมหาวิทยาลัยและอาชีวศึกษากว่า 18 สถาบัน อีกทั้งมีกิจกรรมเวิร์คชอปปั้นฝันเป็นตัว การทำแฟ้มสะสมผลงาน และเทคนิคการสอบสัมภาษณ์ รวมถึงเพิ่มพลังใจจากการรับฟังรุ่นพี่นักศึกษาคนพิการ ที่มาบอกเล่าประสบการณ์การเข้าสู่รั้วมหาวิทยาลัยเพื่อให้นักเรียนคนพิการได้รับข้อมูลด้านการศึกษาที่รอบด้าน เป็นแนวทางในการตัดสินใจวางแผนการศึกษาต่อที่ชัดเจนมากขึ้น

ผศ.ดร.ดวงฤทธิ์ เบ็ญจาธิกุล ชัยรุ่งเรือง เลขานุการรัฐมนตรีว่าการ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ประธานในพิธี กล่าวว่า งานเด็กพิการเรียนไหนดีนับเป็นนวัตกรรมทางการศึกษา เพราะเป็นงานแรก ๆ ของประเทศไทยที่เปิดกว้างและเห็นความสำคัญของการสร้างสังคมที่ไม่ว่าใครก็สามารถเข้าถึงโอกาสทางการศึกษาได้อย่างเท่าเทียม

“กระทรวงการอุดมศึกษาฯ มีทุนการศึกษาสนับสนุนคนพิการในการศึกษาต่อระดับชั้นปริญญาตรี และพยายามขับเคลื่อนให้สิทธิ์เข้าถึงการเรียนฟรีของคนพิการให้เพิ่มมากขึ้น ปรับสภาพแวดล้อมให้นักศึกษาพิการเข้าเรียนได้ และจะขยายความร่วมมือทำข้อตกลงให้มีมหาวิทยาลัยภาคเอกชนได้รับทุนสนับสนุนเพื่อช่วยเหลือนักศึกษาพิการได้มากขึ้น” ผศ.ดร.ดวงฤทธิ์ กล่าว

ด้าน นางภรณี ภู่ประเสริฐ ผู้อำนวยการ สำนักสนับสนุนสุขภาวะประชากรกลุ่มเฉพาะ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวว่า การจัดงานเด็กพิการเรียนไหนดีจะเป็นอีกแรงขับเคลื่อนการสร้างสังคมที่เท่าเทียมให้กับเด็กทุกคน โดยเฉพาะด้านการศึกษาที่เป็นพื้นฐานของการพัฒนาไปสู่อาชีพต่าง ๆ ในอนาคต “หวังว่างานในครั้งนี้ จะทำให้น้องๆ รู้ความฝันของตัวเองและนำความฝันนั้นมาปูเส้นทางการศึกษาในแบบที่เราต้องการ ทุกคนมีสิทธิ์ที่จะฝันและทำความฝันให้เป็นจริงได้”

“น้องเมธี” นายเมธี ธิติปฏิพัทธ์ พิการทางการเห็น (สายตาเลือนราง) นิสิตชั้นปีที่ 1 มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง คณะศิลปศาสตร์ สาขาวิชาภาษาจีนธุรกิจ ซึ่งมาร่วมงานเด็กพิการเรียนไหนดีเมื่อปีที่แล้ว เล่าว่า เมื่อครั้งเรียนชั้น ม.6 โรงเรียนโพธิสัมพันธ์พิทยาคาร จ.ชลบุรี กำลังหาข้อมูลที่จะศึกษาต่อด้านภาษาจีน เพราะด้วยตนอยู่เมืองพัทยาได้พบกับชาวจีนค่อนข้างมาก

จึงมีความคิดว่าหากสื่อสารภาษาจีนได้จะเป็นสิ่งดี เมื่อได้พบกับบูธแนะแนวการศึกษาของมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวงที่มีหลักสูตรรองรับและสนับสนุนสื่อการเรียนการสอนสำหรับคนพิการทางการเห็น จึงได้สอบเข้าเรียนในที่สุดและได้รับความช่วยเหลือจากมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวงเป็นอย่างดี

“น้องแอล” นางสาวธนัญชกร สันติพรธดา พิการทางการเห็น (ตาบอดสนิท) นักศึกษาชั้นปีที่ 4 มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ คณะศึกษาศาสตร์ สาขาสังคมศึกษา โดยใช้ความสามารถสอบคัดเลือกเข้าศึกษาในระบบกลาง (Admission) ซึ่งเป็นการสอบแข่งขันกับเด็กไม่พิการด้วย และในงานเด็กพิการเรียนไหนดีครั้งนี้ น้องแอลได้เป็นหนึ่งในรุ่นพี่ที่เข้ามาขับเคลื่อนงานผ่านกิจกรรมต่างๆ เพราะมุ่งหวังอยากให้รุ่นน้องคนพิการได้รับความรู้เรื่องการสอบเข้าและการเรียนต่อในระดับชั้นอุดมศึกษา เพื่อเกิดประโยชน์สูงสุดกับคนพิการ

“แอลรู้สึกดีใจที่มีงานนี้เกิดขึ้นให้กับรุ่นน้องคนพิการ เพราะมองว่างานที่ส่งเสริมด้านการศึกษาแก่คนพิการจริง ๆ นั้นมีน้อยมาก และจะทำให้น้อง ๆ คนพิการได้รับความรู้จากงานนี้ไปเพิ่มมากขึ้นจริง ๆ” น.ส.ธนัญชกร กล่าว

ทั้งนี้ จากสถิติ รายงานข้อมูลสถานการณ์ด้านคนพิการในประเทศไทย ประจำปี 2562 ของกรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ พบว่า ผู้พิการมีจำนวนประมาณ 2 ล้านคน คิดเป็นร้อยละ 3.01 ของคนไทยทั้งประเทศ

โดยที่คนพิการได้รับการศึกษาสูงสุดระดับประถมศึกษา ร้อยละ 62.13 ระดับมัธยมศึกษา ร้อยละ 7.98 ส่วนระดับปริญญาตรีมีเพียงร้อยละ 0.20 จากสถิติดังกล่าวชี้ว่าคนพิการส่วนใหญ่ไม่สามารถเข้าถึงการศึกษา ซึ่งทำให้เกิดความเสียเปรียบในการประกอบอาชีพ

ดังนั้น ในการจัดงาน “เด็กพิการเรียนไหนดี” โดยสำนักสนับสนุนสุขภาวะประชากรกลุ่มเฉพาะ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และ บริษัท กล่องดินสอ จำกัด จึงเพื่อให้คนพิการได้รับการสนับสนุนด้านการศึกษาอย่างเหมาะสม สามารถพัฒนาความรู้ทักษะทางวิชาการและทักษะอาชีพ เพื่อพัฒนาตนเอง สังคม และประเทศได้ต่อไป

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

“กัลฟ์” เปิดโครงการ “หนึ่งทุน หนึ่งฝัน ปั้นอนาคต” ยกระดับคุณภาพชีวิตเด็ก