สช. มีมติ เพิ่มค่ารักษาพยาบาลให้ครูเอกชนเป็น 150,000 บาทต่อปี เริ่ม 1 ม.ค. 63 พร้อมเป็นช่องให้ครูที่ลาออกจากกองทุนฯขอกลับเข้ากองทุนฯได้ เตรียมนำเงินสนับสนุนจากรัฐบาล 1.6 พันล้านบาทบริหารหาผลกำไรเองเพื่อนำมาเป็นสวัสดิการเพิ่มเติม
นางกนกวรรณ วิลาวัลย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ(รมช.ศธ.) เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการกองทุนสงเคราะห์ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน(สช.)เมื่อวานนี้ (2ก.ย.62) ว่า ที่ประชุมได้หารือกรณีค่ารักษาพยาบาลครูเอกชน หลังจากได้รับการร้องเรียนขอร้องให้ปรับเพิ่ม ค่ารักษารักษาพยาบาล ระหว่างที่ลงพื้นที่ เป็นเรื่องที่ได้รับการร้องเรียนเป็นอันดับแรก
ทั้งนี้ ทาง สช.เห็นถึงปัญหาและให้ความสำคัญเรื่องค่ารักษาพยาบาลของครูเอกชน เพราะครูเอกชนส่วนหนึ่งได้รับความเดือดร้อน ต้องใช้จ่ายค่ารักษาพยาบาลเกินกว่าเพดานที่กำหนด อาทิ กรณีเป็นโรคเรื้อรัง ร้ายแรง โรคไต โรคหัวใจ เป็นต้น ทำให้มีครูเอกชนหลายรายลาออกไปใช้สิทธิประกันสุขภาพถ้วนหน้า หรือบัตรทองของสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ(สปสช.) กระทบต่อขวัญกำลังใจของครู
ดังนั้นที่ประชุมจึงมีมติปรับเพิ่มเพดานค่ารักษารักษาพยาบาลครูเอกชนจากเดิมปีละ 100,000 บาท เป็น 150,000 บาทต่อปี มีผลบังคับใช้ ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2563 สำหรับครูที่ลาออกไปใช้สิทธิสวัสดิการบัตรทอง สามารถขอกลับเข้ามาใช้สิทธิของกองทุนฯได้เช่นกัน
นายประสงค์ ชาญวิทย์การ ผู้อำนวยการกองทุนฯ เปิดเผยว่า เดิมกองทุนฯมีฐานะขาดทุนสะสม และในเดือนกันยายน 2562 คาดว่าจะขาดทุน 25 ล้านบาท แต่ สช.ยังมีเงินที่รัฐบาลได้รับสนับสนุนปีละ 1,400-1,600 ล้านบาท และจากเดิมกองทุนฯ จะขอเบิกจ่ายจาก สช.เป็นรายเดือน หลังจากนี้ จะขอให้ สช.โอนเงินดังกล่าวมาให้กองทุนฯบริหารจัดการเอง โดยกองทุนฯ มีแผนจะนำไปลงทุนเพิ่มเติม คาดว่าจะได้ผลกำไรประมาณ 3% หรือปีละ 25 ล้านบาท เพื่อนำมาจ่ายเป็นสวัสดิการในส่วนนี้เพิ่มเติม
ทั้งนี้ ที่ผ่านมากองทุนฯ มีการลงทุนในกองทุนที่มีความเสี่ยงต่ำอยู่แล้ว ประมาณ 16,000 ล้านบาท หาก สช.โอนเงินในส่วนนี้เข้ามาก็จะนำไปลงทุนเพิ่มเติมในกองทุนที่มีความเสี่ยงสูงขึ้น ซึ่งได้ผลตอบแทนที่สูงขึ้น เพื่อนำดอกผลที่ได้มาพัฒนาสวัสดิการครูเอกชน
ข่าวอื่นที่น่าสนใจ
ไทยเจ้าภาพ AMEM ครั้งที่ 37 ดันไทยสู่ “ศูนย์เชื่อมโยงไฟฟ้าอาเซียน”
