อคส.ปิดฉากคดี “รอง ผอ.” พัวพันทุจริตข้าวถุงช่วยเหลือประชาชนสมัยรัฐบาล “ยิ่งลักษณ์” หลังตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงมาตั้งแต่ปี 56 เผยล่าสุดบอร์ด อคส. ลงมติให้ไล่ออก หลังพบทุจริตจริง ระบุยังได้ให้ออกและลงโทษทางวินัย พนักงานที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการทุจริตอีกหลายราย
นางอินทิรา โภคปุณยารักษ์ ผู้อำนวยการองค์การคลังสินค้า (อคส.) เปิดเผยว่า ได้เร่งรัดส่งการตรวจสอบคดีค้างเก่าของพนักงาน อคส. จนเกือบจะเสร็จสิ้นหมดแล้ว หลังจากก่อนหน้า มีการฟ้องร้องว่าพนักงาน อคส. หลายรายมีส่วนเกี่ยวข้องหรืออาจเข้าข่ายมีส่วนเกี่ยวข้องกับการทุจริตในโครงการรับจำนำสินค้าเกษตรของรัฐบาล และกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งเป็นหน่วยงานต้นสังกัดของ อคส. รวมถึง อคส. ได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนเพื่อตรวจสอบหาข้อเท็จจริงมาอย่างต่อเนื่อง และล่าสุดได้มีการเสนอให้คณะกรรมการ (บอร์ด) อคส. พิจารณาลงโทษทางวินัยแล้ว เช่น กรณีรองผู้อำนวยการ อคส. รายหนึ่ง ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการทุจริตในการนำข้าวสารในสต๊อกรัฐบาลมาจัดทำข้าวถุงเพื่อช่วยประชาชน และได้ถูกสั่งพักงานมาตั้งแต่ปี 2557 ในระหว่างที่มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องดังกล่าว โดยบอร์ด อคส. ได้พิจารณาตามที่คณะกรรมการชุดล่าสุดได้ตรวจสอบแล้วสรุปว่า รองผอ.อคส. รายนั้นมีความผิดจริง และเสนอให้บอร์ดลงโทษทางวินัยสูงสุดให้ไล่ออกแล้ว
“หลังจากตั้งคณะกรรมการขึ้นมาหลายชุด เพื่อตรวจสอบเรื่องนี้ แต่ก็ยังสะสางเรื่องนี้ไม่เสร็จ จนคณะกรรมการชุดล่าสุดได้ตรวจสอบแล้วเสร็จ และสรุปว่า รองผอ.อคส. รายนั้นมีความผิดจริง และเสนอให้บอร์ดลงโทษทางวินัยสูงสุดให้ไล่ออกแล้ว”
นางอินทิรา กล่าว
ทั้งนี้ ยังมีอีกหลายกรณีที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตในโครงการรับจำนำสินค้าเกษตรของรัฐบาลที่ผ่านมา ที่ได้ตรวจสอบเสร็จแล้ว โดยผลสรุปมีทั้งพนักงาน อคส. มีความผิด และไม่มีความผิด ตามที่ถูกร้องเรียนหรือถูกกล่าวหา ซึ่งในรายที่พบมีความผิดจริง ได้เสนอให้บอร์ดพิจารณาลงโทษทางวินัยแล้ว มีโทษตั้งแต่หนักไปหาเบา ทั้งให้ออก ภาคทัณฑ์ เป็นต้น ส่วนรายที่ไม่มีความผิด ก็พ้นจากการถูกกล่าวหา และกรณีที่ยังตรวจสอบไม่เสร็จ ได้สั่งการให้เร่งรัดให้ตรวจสอบให้แล้วเสร็จโดยเร็ว
“ขณะนี้ ได้เร่งสะสางงานค้างเก่าของ อคส. เกือบหมดแล้ว โดยเฉพาะการปิดบัญชีโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี และนาปรัง รวม 6 โครงการ ตั้งแต่ปี 2555/56 เป็นต้นมา โดยได้ปิดบัญชีแล้วเสร็จภายในสิ้นเดือนมี.ค.2562 ตามที่คณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.) กำหนด ซึ่งในส่วนของ อคส. ไม่ได้เป็นผู้จัดทำบัญชีเพื่อดูว่าแต่ละโครงการขาดทุนหรือไม่ อย่างไร เพียงแค่จัดทำงบการเงิน และตรวจสอบว่าเงินที่ใช้ในแต่ละโครงการตรงกับสินค้าที่มีในสต๊อกหรือไม่ มีสต๊อกคงเหลือเท่าไร แล้วรายงานให้ นบข. รับทราบ” นางอินทิรา กล่าวเพิ่มเติม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีรองผู้อำนวยการ อคส. เกิดขึ้นมาตั้งแต่ปลายปี 2556 โดยได้มีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าวถึง 3 ชุด ได้แก่ คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีการจัดทำข้าวสารบรรจุถุงของ อคส. ที่แต่งตั้งโดยกระทรวงพาณิชย์ เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง ตามที่มีการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล เมื่อวันที่ 27-28 พ.ย.2556 ที่ระบุว่า รัฐบาลสมัยนั้น (น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี) ได้อนุมัติให้ อคส. นำข้าวสารในสต๊อกรัฐบาลมาจัดทำข้าวสารบรรจุถุงขายราคาถูกให้กับประชาชน อาจมีการทุจริตเกิดขึ้น และมีการล็อกสเปกให้เอกชนรายใดรายหนึ่ง ขณะเดียวกัน บอร์ดอคส. ยังได้สั่งแต่งตั้งอีก 1 ชุด และผู้อำนวยการ อคส. ได้สั่งแต่งตั้งอีก 1 ชุด
อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการทั้ง 3 ชุดสรุปผลการตรวจสอบที่ต่างกัน โดยชุดที่แต่งตั้งโดยกระทรวงพาณิชย์ สรุปว่ารองผู้อำนวยการ อคส. มีความผิดจริง แต่ชุดของ อคส. สรุปว่าไม่ผิด เมื่อเปลี่ยนผู้บริหาร อคส. จึงได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบซ้ำอีก จนเพิ่งจะตรวจสอบเสร็จเมื่อปี 2562 และสรุปว่ามีความผิดจริง และบอร์ด อคส. ได้สั่งลงโทษทางวินัยให้ไล่ออกแล้ว
ข่าวอื่นที่น่าสนใจ
นิด้าโพลล์สะท้อนคนกรุงโอด ค่ารถเมล์ขึ้นทำค่าใช้จ่ายแต่ละวันขึ้นตาม
