“อ๊อกซ์แฟม”ชี้ ปี 61 คนร่ำรวยสุดของโลก 26 คน ครองสินทรัพย์เท่ากับคนยากจนสุดครึ่งหนึ่งของโลก โดยมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นถึงวันละ 2.5 พันล.ดอลลาร์ ตอกย้ำช่องว่างคนรวยคนจนถ่างเพิ่มขึ้นทั่วโลก เรียกร้องรัฐบาลขึ้นภาษีคนมั่งคั่งแก้ปัญหาความไม่เท่าเทียมกัน
รายงานล่าสุดของ องค์กรการกุศลนานาชาติ “อ็อกซ์แฟม” เผยแพร่ก่อนการประชุมเวิลด์อีโคโนมิกฟอรัม ที่เมืองดาวอส สวิตเซอร์แลนด์ วันที่ 22 ม.ค. พบว่า ใน ปี 2561 มหาเศรษฐีทั่วโลกมีสินทรัพย์รวมกันเพิ่มขึ้นวันละ 2.5 พันล้านดอลลาร์
โดย นายเจฟฟ์ เบซอส ซีอีโออเมซอน ชายผู้มั่งคั่งที่สุดในโลก มีสินทรัพย์เพิ่มขึ้น 1.12 แสนล้านดอลลาร์ โดยทรัพย์สินของเขาแค่ 1% มีมูลค่าเท่ากับงบประมาณสาธารณสุขของเอธิโอเปียทั้งประเทศ ที่มีประชากรถึง 105 ล้านคน
อ็อกซ์แฟม ยังชี้ด้วยว่า ประชากร 3.8 พันล้านคนที่ยากจนที่สุดมีสินทรัพย์ลดลงถึง 11% เป็นการตอกย้ำว่า ช่องว่างระหว่างคนจนกับคนรวยเพิ่มขึ้นทุกขณะ บั่นทอนความพยายามต่อสู้ความยากจน ทั้งยังสร้างความเสียหายให้กับเศรษฐกิจ และเติมเชื้อความไม่พอใจของผู้คน
นางสาววินนี บียานนิยมา ผู้อำนวยการบริหารอ๊อกซ์แฟมเตือนว่า ประชาชนทั่วโลกรู้สึกโกรธขึ้งคับแค้น กับสถานการณ์ดังกล่าว
รายงานยังชี้ถึงความแตกต่างสุดขั้ว โดยระหว่างปี 2523-2559 รายได้ที่เติบโตขึ้นทั่วโลกในแต่ละดอลลาร์ ตกอยู่ในมือคนยากจนสุดครึ่งหนึ่งของประชากรโลกเพียง 12 เซ็นต์ แต่ไปอยู่ในมือคนร่ำรวยสุด 1% ของประชากรโลกถึง 27 เซ็นต์
อ๊อกซ์แฟมเตือนว่ารัฐบาล ทั้งหลายมีส่วนทำให้ความเหลื่อมล้ำแย่ลง ด้วยการให้งบประมาณบริการสาธารณะ เช่น สาธารณสุขและการศึกษาน้อยลงทุกที ขณะเดียวกันกลับเก็บภาษีคนมีเงินต่ำกว่าที่ควรจะเป็น จึงขอให้รัฐบาลเก็บภาษีคนมีเงินเพิ่มอีกหลายเท่า
