แม่หญิงลาวแห่งลุ่มน้ำโขง ทายาทธุรกิจ “ดาวเรือง” หรือ “ดาวคอฟฟี่” บุญเฮือง ลิตดัง เจ้าของแบรนด์ที่คุ้นหูคนไทยมานาน ผู้ที่ขึ้น-ล่องลำน้ำโขงประกอบธุรกิจที่ยิ่งใหญ่แห่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว
บุญเฮือง จบการศึกษาจากเอแบค ประเทศไทย ในระดับปริญญาตรีก่อนไปต่อปริญญาโท MBA ที่ประเทศสิงคโปร์ เข้ามาสานต่อธุรกิจครอบครัวตั้งแต่ปี 2006 (พ.ศ. 2549) ดำรงตำแหน่งรองประธานกรรมการ กลุ่มบริษัทดาวเฮือง ผู้ดำเนินธุรกิจร้านสินค้าปลอดภาษี (ดิวตี้ฟรี) ตามแนวชายแดนที่มีทั้งหมด 7 สาขากับธุรกิจกาแฟดาวคอฟฟี่ รวมถึงธุรกิจโรงแรมในประเทศสปป.ลาว ประเทศเล็ก ๆที่ยังคงวัฒนธรรมดั้งเดิมไว้ได้อย่างยาวนาน และไม่ว่าเธอจะปรากฏตัวในเวทีไหนในประเทศหรือนอกประเทศก็ตาม การแต่งตัวที่มีอัตลักษณ์ของเธอทำให้สะดุดตาและเป็นจุดสนใจแทบทุกเวที บุญเฮือง ลิตดัง เล่าว่าปัจจุบันมีการขยายพื้นที่ในการปลูกกาแฟเป็น 1,500 ไร่ และทำ “เกษตรพันธสัญญา” (Contract Farming) ประมาณ 2,000 ครอบครัว (ครอบครัวละ 2-3 เฮกตาร์-1 เฮกตาร์เท่ากับ 6 ไร่ ) ผลผลิตรวมเมล็ดกาแฟ 40,000 ตันต่อปี หนึ่งในนั้นดึง 8,000 ตันไปสกัดเป็นกาแฟสำเร็จรูป (Instant) ได้ผลผลิต 3,000 ตัน จุดเปลี่ยนที่ทำให้ธุรกิจครอบครัวเธอขยายอาณาจักร คือการได้รู้จักกับ “มารูบินิ” เทรดเดอร์รายใหญ่ของญี่ปุ่น คู่ค้าคนสำคัญที่เข้ามาใส่องค์ความรู้ (Know how) การปลูกกาแฟคุณภาพเกรดพรีเมี่ยมในพื้นที่ โดยปลูกบนอดีตภูเขาไฟที่มีแร่ธาตุสูงทำให้กาแฟพันธุ์อาราบิก้า มีกลิ่นหอม เมล็ดโตได้สัดส่วน มีเรื่องราวและแข่งขันจนข้ามไปสู่ตลาดส่งออกกาแฟทั่วโลก มีรายได้หลักถึง 80 % ต่อตลาดในประเทศลาว แบรนด์ของดาวคอฟฟี่จึงถือกำเนิดขึ้น !! แบรนด์กาแฟถูกสื่อสารผ่านหนังโฆษณาชุดแรก “เอิ้นดาว” ที่เปิดตัวสู่สายตาคนไทยเมื่อปี 2551 ก่อนนำความสำเร็จในประเทศไทยไปต่อยอดสู่อาเซียนทั้ง 10 ประเทศ ผ่านไปกว่า 10 ปีธุรกิจกาแฟนับได้ว่าทรงอิทธิพลที่สุดแห่งหนึ่งของลาว ทำรายได้รวมกว่า 160 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ต่อปี (กว่า 5,000 ล้านบาท) ยังไม่รวมกลุ่มธุรกิจ ดิวตี้ ฟรี และอสังหาริมทรัพย์ อีก 20% ของรายได้รวม ดาวคอฟฟี่บุกตลาดไทยมากว่า 9 ปี ทำรายได้ไปแล้วกว่า 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (300 ล้านบาท) ปีนี้จะเป็นปีแรกของการตอกย้ำแบรนด์นี้ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ หวังแค่เติบโตไปพร้อมตลาด 2 – 3 % หลังจากนำสินค้าเข้าสู่โมเดิร์นเทรดส่งออกกาแฟสำเร็จรูป ชิงส่วนแบ่งทางการตลาดของไทยที่มีมูลค่ากว่า 16,000 ล้านบาท และการเข้ามาดำเนินธุรกิจในไทยนั้นจะมุ่งเน้นการสร้างแบรนด์ด้วย โดยเริ่มจากทำสัญญาข้อตกลงกับเกษตรกรภาคในเหนือของประเทศไทยบนพื้นที่ 500 ไร่ขึ้นไป ด้วยความร่วมมือกันในการพัฒนา การปลูกกาแฟ ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนการนำเข้ามาสปป.ลาว รวมถึงการพัฒนาพืชผักต่าง ๆ และผลไม้อบแห้งด้วย ซึ่งในประเทศไทยเริ่มจำหน่ายมาแล้ว 2 ปี นักธุรกิจหญิงลาวยังคงพัฒนาธุรกิจ ภายใต้ชื่อ บริษัท ซำ บาย ดี จำกัด เป็นผู้ทำการตลาด และสร้างแบรนด์ “ดาว คอฟฟี่” และยังมี บริษัท ดาวเรือง อิมพอร์ต เอ็กซ์พอร์ต (ไทยแลนด์) จำกัด เป็นบริษัทลูกทำหน้าที่จัดจำหน่ายเมล็ดกาแฟ ป้อนทั้งลูกค้าอุตสาหกรรม ที่มีกว่า 100 ราย และลูกค้าทั่วไป จนปัจจุบัน “ดาวคอฟฟี่” เปิดในไทยแล้ว 2 แห่ง คือ ธัญญาพาร์ค ศรีนครินทร์ กับ สยามสแควร์วัน ขายกาแฟ และผลิตภัณฑ์จากธุรกิจดาวเรือง ที่มีตั้งแต่กาแฟ ผลไม้อบแห้ง และชาพร้อมดื่ม กับชาชง (ผลิตภัณฑ์ตัวใหม่) ขอบคุณ : หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ,กรุงเทพธุรกิจ