เอ็กโก กรุ๊ป รุกพลังงานสะอาด ส่ง EGCO Compass ดักโอกาสธุรกิจการผลิตไฟฟ้าทางเลือก ซื้อหุ้นโรงไฟฟ้า 3 แห่ง รองรับการเติบโตเปลี่ยนผ่านพลังงานสะอาดใน 3 เมืองใหญ่ คือ ฟิลาเดลเฟีย บอสตัน และพรอวิเดนซ์
ภายหลัง โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐ ได้ประกาศนโยบายสนับสนุนการใช้พลังงานสะอาด ได้ผ่านการโหวตร่างกฎหมายจากทั้ง 2 สภาของสหรัฐ ที่เรียกว่า กฎหมายการลดอัตราเงินเฟ้อ หรือ ‘The Inflation Reduction Act’ เพื่อต้องการขับเคลื่อนการลงทุนและการขยายธุรกิจพลังงานหมุนเวียน หรือ พลังงานสะอาด (Renewable Energy & Clean Energy) แม้ฟังดูชื่อจะไม่เกี่ยวกันนัก แต่ในความเป็นจริง คือเป้าหมายการลดปัญหาอัตราเงินเฟ้อ ต้นเหตุหลักมาจากราคาพลังงานที่สูง
ดังนั้น หลังจากการผ่านร่างกฎหมายในช่วงปลายปี 2565 ที่่ผ่านมา จึงส่งผลทำให้มีการขยายการลงทุนพลังงานสะอาดและเกิดความต้อการใช้พลังงานสะอาดในสหรัฐในภาคครัวเรือนมากขึ้น โดยเฉพาะการใช้รถยนต์ไฟฟ้า และการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ เพราะจะได้รับสิทธิประโยชน์คืนเครดิตในภาคครัวเรือน ส่วนภาคอุตสาหกรรมก็จะได้รับการลดหย่อนภาษีหากเปลี่ยนมาใช้พลังงานสะอาด
โอกาสเปิดประตูให้กับ บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) หรือ เอ็กโก กรุ๊ป (EGCO Group) ที่เข้าซื้อกิจการ EGCO Compass II, LLC เพื่อรุกธุรกิจการผลิตไฟฟ้า รองรับโอกาสการเติบโตดังกล่าว จึงเกิดการขยายกิจการผ่านการลงทุนซื้อหุ้นในโรงงานไฟฟ้าพลังงานสะอาด โดยการเข้าไปซื้อหุ้นสัดส่วน 50%
นายเทพรัตน์ เทพพิทักษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) หรือ EGCO Group เปิดเผยว่า EGCO Compass II, LLC ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่เอ็กโกถือหุ้นทั้งหมด ซึ่งเป็นบริษัทจดทะเบียนในสหรัฐอเมริกา ได้เข้าไปลงทุนใน“กลุ่มโรงไฟฟ้า Compass” ตั้งแต่วันที่ 9 มกราคม 2567 ส่งผลให้ EGCO Group มีเพิ่มกำลังการผลิต 652 เมกะวัตต์ และสามารถรับรู้รายได้ตามสัดส่วนการถือหุ้นทันที ภายหลังจากวันปิดดีล
ถือเป็นจิ๊กซอว์ ยุทธศาสตร์ในการเปิดตลาดโรงไฟฟ้าในสหรัฐ ซึ่งกำลังอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่านสู่่พลังงานสะอาด ตามนโยบายของรัฐบาลกลาง และรัฐบาลท้องถิ่น ที่กำลังส่งเสริมการลงทุนด้านพลังงานสะอาดให้เพิ่มขึ้น
3 เมืองยุทธศาสตร์ใช้ไฟฟ้าสูง
ดักโอกาสลงทุนกิจการพลังงานสะอาด
“กลุ่มโรงไฟฟ้า Compass” มีการผลิตโรงงานไฟฟ้า 3 แห่งประกอบด้วย โรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วม 3 แห่ง ได้แก่ Marcus Hook Energy, L.P. (Marcus Hook) กำลังผลิต 912 เมกะวัตต์ ตั้งอยู่ในรัฐเพนซิลเวเนีย Milford Power, LLC (Milford) กำลังผลิต 205 เมกะวัตต์ และ Dighton Power, LLC (Dighton) กำลังผลิต 187 เมกะวัตต์ ซึ่งทั้งสองแห่งนี้ตั้งอยู่ในรัฐแมสซาชูเซตส์
โรงไฟฟ้าทั้ง 3 แห่ง ถือเป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์ เปิดประตูไปสู่ ศูนย์กลางของเมืองใหญ่ที่มีความต้องการใช้ไฟฟ้าสูงมาก ได้แก่ ฟิลาเดลเฟีย บอสตัน และพรอวิเดนซ์ แต่พื้นที่เหล่านี้มีข้อจำกัดไม่สามารถก่อสร้างโรงไฟฟ้าแห่งใหม่ อีกทั้งยังมีนโยบายมุ่งสู่การเปลี่ยนผ่านไปสู่การใช้พลังงานสะอาด ในการเพิ่มกำลังผลิตไฟฟ้าเข้ามาเสริมความมั่นคงทางพลังงานในระบบ ”
ดังนั้น การเข้าซื้อ โรงไฟฟ้า Compass ได้รับประโยชน์จากการเป็นเจ้าของโรงไฟฟ้า Marcus Hook ซึ่งได้รับสัมปทานสัญญาระยะยาวในการขายกำลังผลิตส่วนใหญ่ให้แก่ The Long Island Power Authority (LIPA) และขายกำลังผลิตส่วนที่เหลือในตลาดกลางซื้อขายไฟฟ้า PJM ในขณะเดียวกัน ยังมีโรงไฟฟ้า Milford และโรงไฟฟ้า Dighton ทำหน้าที่ผลิตไฟฟ้าเพื่อป้อนให้แก่ตลาดกลางซื้อขายไฟฟ้านิวอิงแลนด์ (ISO-NE)
นอกจากนี้ โรงไฟฟ้าทั้ง 3 แห่ง ขายไฟฟ้าและให้บริการเสริมความมั่นคงในระบบไฟฟ้าให้แก่ตลาดกลางซื้อขายไฟฟ้าในพื้นที่ที่แต่ละโรงไฟฟ้าตั้งอยู่ด้วย
ก้าวย่างปูพรมพลังงานสะอาดในสหรัฐ
นายเทพรัตน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า การลงทุนในกลุ่มโรงไฟฟ้า Compass สอดคล้องกับกลยุทธ์ของบริษัทในการลงทุนและเดินหน้าขับเคลื่อน ขยายโรงไฟฟ้าที่ใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิงที่มีคุณภาพสูง เพื่อขับเคลื่อนสู่เป้าหมายการเปลี่ยนผ่านจากพลังงานฟอสซิล ไปสู่การใช้พลังงานสะอาด ถือเป็นการปักธงครั้งสำคัญในการขยายฐานการผลิตไฟฟ้าไปนอกประเทศ สร้างฐานการเติบโตให้กับ EGCO Group ในตลาดพลังงานของสหรัฐอเมริกา ถือเป็นตลาดสำคัญ ซึ่งนำไปสู่การเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน โดยมี EGCO Group เข้าไปขยายการลงทุนรองรับการเติบโตของพลังงานสะอาดในอนาคต”
ภายหลังการเข้าถือหุ้น เสริมภาพรวมกำลังผลิตของ “กลุ่มโรงไฟฟ้า Compass” ในกลุ้ม EGCO Group มีกำลังผลิตตามสัดส่วนการถือหุ้นรวมทั้งสิ้น 7,084 เมกะวัตต์ (รวมโรงไฟฟ้าที่เดินเครื่องเชิงพาณิชย์แล้วและโครงการที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง) โดยมี กำลังผลิตจากพลังงานหมุนเวียนรวม 1,435 เมกะวัตต์ (คิดเป็นสัดส่วน 20% ของกำลังผลิตทั้งหมด) ทั้งจากชีวมวล พลังน้ำ พลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานลมทั้งบนบกและในทะเล เซลล์เชื้อเพลิง และระบบกักเก็บพลังงานด้วยแบตเตอรี่
ทั้งนี้ โรงไฟฟ้าและโครงการต่างๆ ตั้งอยู่ใน 8 ประเทศ ได้แก่ ไทย สปป.ลาว ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย ออสเตรเลีย เกาหลีใต้ ไต้หวัน และสหรัฐอเมริกา นอกจากนี้ ยังมีธุรกิจพลังงานที่เกี่ยวเนื่อง ได้แก่ โครงการขยายระบบขนส่งน้ำมันทางท่อไปยังภาคตะวันออกเฉียงเหนือ “ทีพีเอ็น” โครงการพัฒนานิคมอุตสาหกรรม “เอ็กโกระยอง” บริษัทเทคโนโลยีด้านการเงิน “เพียร์ พาวเวอร์” บริษัทด้านการวิจัยเพื่อพัฒนานวัตกรรม “อินโนพาวเวอร์” EGCO Group ได้รับการจัดอันดับอยู่ใน Dow Jones Sustainability Index (DJSI) มา 4 ปีต่อเนื่อง และตั้งเป้าหมายบรรลุ Net Zero ภายในปี 2050 ซึ่งเป็นการตอบรับกับนโยบาย ESG ในส่วนของ E คือ Envoloment