“ลมลิกอร์” โรงไฟฟ้าพลังงานลม พร้อมระบบกักเก็บพลังงาน ลดคาร์บอนฯ 7,000 ตันต่อปี

“ลมลิกอร์” โรงไฟฟ้าพลังงานลม พร้อมระบบกักเก็บพลังงาน ลดคาร์บอนฯ 7,000 ตันต่อปี


โรงไฟฟ้าพลังงานลม เป็น 1 ในโรงไฟฟ้าพลังงานทางเลือก ในวันที่ประเทศไทย เริ่มหันมาเอาจริงเอาจังกับการใช้พลังงานทดแทน เข้ามาแทนที่ของพลังงานจากฟอสซิล ซึ่งช่วยลดโลกร้อน ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก

 

โครงการโรงงานไฟฟ้าลมลิกอร์ ของ บมจ.บีซีพีจี (BCPG) ถือเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของโรงไฟฟ้าพลังงานลม โครงการนี้ตั้งอยู่ที่ อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นโครงการนำร่องภาคเอกชนรายแรกในประเทศไทยที่นำระบบกักเก็บพลังงาน (Energy Storage System) ขนาด 1.88 เมกะวัตต์ชั่วโมง มาใช้เพื่อทำให้ระบบโครงข่ายไฟฟ้ามีเสถียรภาพมากขึ้น

 

 

โดยระบบนี้จะทำหน้าที่กักเก็บพลังงานไฟฟ้าที่ผลิตได้เกินความต้องการ และนำมาใช้เมื่อมีความจำเป็นในเวลาที่เหมาะสม ส่งผลให้ชุมชนมีไฟฟ้าที่เพียงพอต่อความต้องการ ส่งเสริมการเติบโตของเศรษฐกิจภายในประเทศ

 

 

โครงการนี้เป็น 1 ใน 4 โครงการของบีซีพีจี ที่ได้รับคัดเลือกจากสำนักงานกำกับดูแลกิจการพลังงาน (กกพ.) ให้เข้าร่วมโครงการทดสอบนวัตกรรมที่นำเทคโนโลยีสนับสนุนให้บริการด้านพลังงาน (ERC sandbox) เพื่อเป็นต้นแบบสำหรับการนำระบบบริหารจัดการพลังงาน (Energy Management System) มาใช้กับพลังงานไฟฟ้าที่ผลิตจากพลังงานลมต่อไป

 

สำหรับโครงการลมลิกอร์จะมีส่วนช่วยเพิ่มกำลังการผลิตไฟฟ้าที่มาจากพลังงานหมุนเวียนให้แก่ระบบไฟฟ้าภายในประเทศอย่างน้อย 14,870 เมกะวัตต์ ต่อปี เทียบเท่ากับลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกประมาณ 7,000 ตันคาร์บอนไดออกไซด์ ตลอดทั้งปี 2563

 

 

ปัจจุบันโครงการได้ผลิตไฟได้เฉลี่ยวันละประมาณ 5.1 ชั่วโมง จากกังหันลมจำนวน 4 ต้น และเริ่มขายไฟฟ้า (COD) ให้กับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ได้เฉลี่ยหน่วยละประมาณ 6.60 บาท จากการได้รับส่วนเพิ่มราคารับซื้อไฟฟ้า (adder) ในอัตรา 3.50 บาทต่อหน่วย จากราคาค่าไฟฐานเป็นระยะเวลา 10 ปี

ในอนาคตโครงการลิกอร์จะตอบสนองต่อความต้องการใช้พลังงานไฟฟ้าในพื้นที่ภาคใต้ที่เพิ่มขึ้น และลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกประมาณ 9,300 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าในปีต่อ ๆ ไปที่มีการผลิตไฟฟ้าเต็มปี