“แสนสิริ” ตั้งเป้าติดตั้ง EV Charging 1,500 เครื่องในโครงการคอนโด-บ้านเซ็กเมนต์บีขึ้นไป

“แสนสิริ” ตั้งเป้าติดตั้ง EV Charging 1,500 เครื่องในโครงการคอนโด-บ้านเซ็กเมนต์บีขึ้นไป


กระแสการใช้งาน “รถยนต์ไฟฟ้า” ในประเทศไทย กำลังกลายเป็นเทรนด์ยอดนิยมที่มาแรง ทำให้หลายองค์กรตื่นตัวและให้ความสำคัญ เพื่อช่วยให้เกิดการเปลี่ยนแปลงด้านสิ่งแวดล้อม นำไปสู่การมีคุณภาพชีวิตที่ดี และการใช้ชีวิตอย่างยั่งยืน

 

ล่าสุด บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) บริษัทด้านอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของไทย ได้ร่วมกับ ชาร์จ แมเนจเม้นท์ (SHARGE) ตั้งเป้าติดตั้งเครื่องชาร์จไฟฟ้าสำหรับยานยนต์ EV Charging รวม 1,500 เครื่อง ในระยะเวลา 3 ปี ครอบคลุมทุกโครงการคอนโดมิเนียม และบ้านเซ็กเมนต์บีขึ้นไป

 

ความร่วมมือกับ ชาร์จ แมเนจเม้นท์ ไม่ใช่เพิ่งเริ่มต้น แต่ในปี 62 แสนสิริ ได้นำร่อง การติดตั้ง EV Charging Station ในโครงการคอนโดฯจำนวน 95 หัวชาร์จ (50 เครื่อง) ใน 28 โครงการ ไปแล้ว ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแนวคิด “Sansiri Green Mission” สร้างการรับรู้ต่อผู้อยู่อาศัยถึงการสร้างระบบนิเวศที่เอื้อต่อการเปลี่ยนแปลงสิ่งแวดล้อมที่ดีขึ้น

 

“แสนสิริได้กำหนดเป้าหมายการทำธุรกิจเพื่อสร้างจุดเปลี่ยนด้านสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนด้วย ‘Sansiri Green Mission’ กับเป้าหมาย 3 ปี ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนมอนออกไซด์เฉลี่ย 2,120 ตัน หรือเทียบเท่า การปลูกป่าสีเขียวกว่า 1,700 ไร่ และสานต่อนโยบายนี้ควบคู่ไปกับการดำเนินธุรกิจเพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงภายใต้โปรเจ็กต์ Sansiri Sustainability Mission ภายใต้แก่น Better Care for Environment การสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีขึ้นให้กับลูกบ้านและสังคมโดยรวม” “อุทัย อุทัยแสงสุข” ประธานผู้บริหารสายงานปฏิบัติการ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) กล่าว

 

ในปีนี้ภารกิจดังกล่าวจึงถูกโฟกัสไปในเรื่อง Energy & Well-being ตั้งแต่การก่อสร้าง ส่งต่อถึงช่วงการอยู่อาศัย โดยเฉพาะการติดตั้งเครื่องชาร์จยานยนต์ไฟฟ้าให้กับบ้านในโครงการ เพื่อสร้างมาตรฐานการอยู่อาศัยเพื่อสิ่งแวดล้อมในสังคม ตอบรับเทรนด์ที่อยู่อาศัยรูปแบบใหม่ที่นำไปสู่การใช้ชีวิตอย่างยั่งยืน

 

กำหนดเป็นโรดแมป 3 ปี (65-67) ขยายการติดตั้ง EV Charging Station ให้ครอบคลุมโครงการคอนโดฯ ที่เปิดใหม่ และโครงการบ้านระดับเซ็กเมนต์ B ขึ้นไปทุกโครงการ ภายใต้งบลงทุน 65 ล้านบาท ตั้งเป้าติดตั้งเครื่องชาร์จ EV ราว 1,500 เครื่อง ภายใน 3 ปี ซึ่งโครงการบ้านเดี่ยวในเซ็กเมนต์ B ขึ้นไป จะได้รับ เครื่องชาร์จ ABB Terra AC Wallbox (Normal Charge) ที่สามารถชาร์จได้เร็วถึง 4-8 ชั่วโมง (ขึ้นอยู่กับขนาดรถ)

 

การดำเนินการนี้ เป็นผลจากการสำรวจพฤติกรรมของคนรุ่นใหม่และผู้อยู่อาศัยแสนสิริในเซกเมนต์ B ขึ้นไป ที่พบว่าเป็นคนรุ่นใหม่ที่ประสบความสำเร็จเร็ว (Young Success) และมีไลฟ์สไตล์การใช้ชีวีตแบบยั่งยืน คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม บางส่วนเป็นเจ้าของรถ EV หรือกำลังมองหารถ EV เพื่อใช้ในอนาคต

 

ทั้งนี้ผลการสำรวจดังกล่าวยังสอดคล้องกับข้อมูลจากศูนย์วิจัยความเป็นอยู่ ฮาคูโฮโด อาเซียน ระบุว่า คนรุ่นใหม่ในประเทศไทย อินโดนีเซีย มาเลเซีย เวียดนาม สิงคโปร์ ฟิลิปปินส์ และญี่ปุ่น พบว่า 86% ให้ความใส่ใจสังคม-สิ่งแวดล้อมมาเป็นส่วนหนึ่งในการดำเนินชีวิตประจำวันอย่างจริงจัง

 

ขณะที่อีก 80% ให้ความสำคัญกับแบรนด์ที่ใส่ใจสังคม-สิ่งแวดล้อม และ 81% ระบุว่า เต็มใจจ่ายแพงขึ้น เพื่อให้ได้สินค้าสำหรับวิถีชีวิตที่ใส่ใจสังคมและสิ่งแวดล้อม