ผบ.ทบ. เดือด เตือนม็อบอย่าพยายามสร้างความรุนแรง ชี้ปาประทัด หากเข้าไปวัดพระแก้วใครจะรับผิดชอบ ส่วนประเด็นล้มกระดานการเมือง บอกเป็นนัย “รัฐประหารติดลบ”
วันที่ 9 พฤศจิกายน 2563 – พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) เปิดเผยถึงประเด็นการชุมนุมทางการเมืองครั้งล่าสุดของกลุ่มราษฎร โดยระบุว่า ทหารไม่ได้เข้าไปในลักษณะควบคุมฝูงชน แต่จะมีทหารนอกเครื่องแบบที่เป็นเจ้าหน้าที่ไปอยู่หลังแนวตำรวจ เพราะหากมีมวลชนหลุดแนวกั้นของตำรวจออกมา ก็เป็นหน้าที่ของทหารที่ต้องป้องกันเอาไว้ ซึ่งตนตอบในฐานะผู้ที่ดูแลงานด้านความมั่นคง เนื่องจากกลุ่มผู้ชุมนุมเคลื่อนขบวนมุ่งหน้าสู่พระบรมมหาราชวัง ศาลหลักเมือง วัดพระแก้ว ทุกสถานที่เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ดังนั้น มีใครจะรับประกันอะไรได้หากว่าเกิดความเสียหายขึ้นมา
นอกจากนี้ การ์ดของผู้ชุมนุมก็มีการคุยกันแล้วว่าจะชุมนุมอย่างสันติ และสงบสุข ซึ่งการ์ดเองก็พยายามเจรจากับตำรวจในสิ่งที่เขาอยากทำ ทหารพยายามไม่ให้เกิดความรุนแรงใดๆ ต่อกลุ่มผู้ชุมนุม แม้ว่าการชุมนุมที่เกิดขึ้นจะผิดกฎหมายตามพ.ร.บ.การรชุมนุมก็ตาม หากใครทำผิดก็ดำเนินการเป็นรายบุคคล เจ้าหน้าที่มีแต่ประนีประนอม
“ผมย้ำเอาไว้เสมอว่าต้องคุมให้ได้ เพราะเกิดเหตุรุนแรงประเทศก็ถอยหลังไปอีก การส่งทหารอกไปคือไปช่วยเจ้าหน้าที่ด้านหลัง เพราะหากเกิดอะไรขึ้นมาทหารจะได้ช่วยได้ทั้งสองฝ่าย ทั้งตำรวจและประชาชนที่บาดเจ็บ แต่กลายเป็นว่าทหารต้องมาเจ็บตัวเสียเอง ซึ่งก็เพราะจากกลุ่มที่ต้องการสร้างความรุนแรงขึ้นมา” ผบ.ทบ. กล่าว
พล.อ.ณรงค์พันธ์ กล่าวอีกว่า หากเจ้าหน้าที่ปล่อยไป พวกที่ต้องการสร้างความรุนแรงก็เข้าไปได้เพราะไม่มีการสกรีนคนเลย เพราะเราเห็นในคลิปว่ามีการเตรียมสิ่งของที่คล้ายประทัด และมีการจุดพร้อมกับขว้างข้ามรถบัสมา ถามว่าแบบนี้หากปล่อยไป จะเจตนาหรือไม่เจตนาก็ตาม หากเข้าไปยังพระบรมมหาราชวัง ศาลหลักเมือง วัดพระแก้ว แล้วมีความเสียหายตามมา ใครจะรับผิดชอบ และความรู้สึกของคนไทยจะเป็นอย่างไร
“เราต้องช่วยกัน เจ้าหน้าที่เขาพร้อมอยู่แล้ว และยอมรับทุกอย่างอยู่แล้ว แต่อย่าเอาประเด็นนี้ไปเป็นความขัดแย้ง ต้องมองความเสียหายในภาพรวม หากตำรวจไม่หยุดม็อบจะเกิดอะไรขึ้น ทางออกที่ดีที่สุดคือต้องสามารถมาเจรจากันได้ ว่าสิ่งใดทำได้แค่ไหน” พล.อ.ณรงค์พันธ์ กล่าว
ตอนท้าย พล.อ.ณรงค์พันธ์ให้โอกาสผู้สื่อข่าวได้ซักถาม ในประเด็นที่ว่า หากเกิดการชุมนุมครั้งต่อไปและเข้าใกล้ หรือบุกเข้าไปในเขตพระราชฐาน ผบ.ทบ.กล่าวตอบว่า เขตพระราชฐาน มีลักษณะคล้ายกับบ้าน เราก็ไม่ต้องการให้ใครมาบุกรุก ทุกคนก็รักบ้านตัวเองและครอบครัวตัวเอง สิ่งที่ตนพยายามก็คืออย่าให้เกิดความรุนแรงเพราะสถานการณ์ตอนนี้เรากำลังดีขึ้น จากมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา 2019 ที่ประเทศไทยทำได้ดี และที่ตนได้ลงพื้นที่ไปตรวจเยี่ยมกองกำลังชายแดนก็คือไปเน้นย้ำเรื่องนี้ไม่ให้การ์ดตก
ผู้สื่อข่าวยังถามถึงประเด็นที่เกิดการเรียกร้องให้ทำรัฐประหาร พล.อ.ณรงค์พันธ์ กล่าวว่า “รัฐประหารติดลบ”
ข่าวที่น่าสนใจ
