สถานการณ์ ‘คอร์รัปชันทั่วโลก’ กำลังเผชิญภาวะถดถอย สะท้อนจากผลการจัดอันดับ ‘ดัชนีภาพลักษณ์การคอร์รัปชัน (CPI) ประจำปี 2567’ ถึงแม้ประเทศไทยจะมีคะแนนลดลงเหลือ 34 คะแนน แต่กลับขยับอันดับดีขึ้น 1 อันดับมาอยู่ที่ 107 ของโลก สวนทางกับค่าเฉลี่ยทั่วโลกที่ดิ่งลง 2 คะแนน เหลือเพียง 43 คะแนน บ่งชี้ถึงสถานการณ์คอร์รัปชันทั่วโลกที่กำลังเลวร้ายลง ขณะที่ไทยยังคงอยู่ในจุดวิกฤตและต่ำกว่าค่าเฉลี่ยโลก
องค์กรเพื่อความโปร่งใสนานาชาติ (Transparency International หรือ TI) ได้เผยแพร่ผลการสำรวจดัชนีการรับรู้การทุจริต (Corruption Perceptions Index หรือ CPI) จากจำนวน 180 ประเทศและพื้นที่ทั่วโลกประจำปี 2567 เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2568 ที่ผ่านมา ระบุว่า ประเทศไทยอยู่ที่ระดับ 34/100 คะแนน ในอันดับที่ 107 ของโลก ทั้งนี้ ค่าเฉลี่ยทั่วโลกอยู่ที่ 43 คะแนน นั่นหมายความว่าเราอยู่ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยนั่นเอง
เมื่อเปรียบเทียบกับปี 2566 คะแนนดัชนีภาพลักษณ์การคอร์รัปชันของไทยลดลง 1 คะแนน แต่เมื่อเปรียบเทียบกับทั้งโลกอันดับเราดีขึ้น 1 อันดับ สะท้อนว่าสถานการณ์คอร์รัปชันทั่วโลกเลวร้ายลงกว่าเดิม เพราะค่าเฉลี่ยลดลงมา 2 คะแนน จากเดิม 45 คะแนน
สำหรับผลการสำรวจดัชนีการรับรู้การทุจริตจาก 180 ประเทศและพื้นที่ทั่วโลก ประจำปี 2567 พบว่า
อันดับ 1 ประเทศ เดนมาร์ก ได้คะแนนสูงที่สุด 90 คะแนน
อันดับ 2 ประเทศ ฟินแลนด์ ได้ 88 คะแนน
อันดับ 3 ประเทศ สิงคโปร์ ได้ 84 คะแนน
อันดับ 4 ประเทศ นิวซีแลนด์ ได้ 83 คะแนน
อันดับ 5 ประเทศ ลักเซมเบิร์ก, นอร์เวย์ และสวิตเซอร์แลนด์ ได้คะแนนเท่ากัน 81 คะแนน
ส่วน เกาหลีใต้ อยู่อันดับ 30 ได้ 64 คะแนน
และ จีนแผ่นดินใหญ่ อันดับ 76 ได้ 43 คะแนน
ขณะที่ ประเทศไทยถูกจัดอยู่ในอันดับที่ 107 ของโลกได้ 34 คะแนน
เจาะคะเเนนดัชนีองค์ประกอบ CPI
ทั้งนี้ เมื่อเจาะลึกไปที่ดัชนีองค์ประกอบที่ถูกนำมาใช้คำนวณ พบว่าคะแนนส่วนใหญ่ที่ลดลงอยู่ในกลุ่มดัชนีที่เกี่ยวข้องกับมุมมองของนักลงทุน และผู้ประกอบการในภาคเอกชน โดยเฉพาะในมิติของการแข่งขัน (IMD World Competitiveness Yearbook) ที่ลดลง 7 คะแนนจากปีก่อนหน้า ในขณะที่ผลการประเมินในมิติการเมืองและโครงสร้างทางกฎหมายของประเทศไทยมีแนวโน้มดีขึ้นในเกือบทุกมิติ
คะแนน CPI ไทย ในอาเซียน เป็นอย่างไร?
เมื่อเปรียบเทียบกับประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ประเทศไทยหล่นมาอยู่ในอันดับที่ 5 ของอาเซียน ด้วยคะแนน 34 คะแนน ตามหลังสิงคโปร์ (84 คะแนน) มาเลเซีย (50 คะแนน) เวียดนาม (40 คะแนน) และอินโดนีเซีย (37 คะแนน) สะท้อนให้เห็นถึงความท้าทายในการปรับปรุงภาพลักษณ์ด้านการทุจริตของประเทศไทย
TI แนะทิศทางการต่อต้านคอร์รัปชันในปี 2025
องค์กรเพื่อความโปร่งใสนานาชาติ (Transparency International: TI) ได้ให้ความสำคัญกับประเด็นความเชื่อมโยงระหว่างการคอร์รัปชันกับวิกฤตการณ์การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ซึ่งถือเป็นเทรนด์สำคัญที่ต้องจับตามองในปี 2025
ข้อเสนอแนะหลักมุ่งเน้นการแก้ไขปัญหาคอร์รัปชันในภาคสิ่งแวดล้อม ประกอบด้วย
- การสร้างความร่วมมือระหว่างภาครัฐ เอกชน และประชาสังคม
- การผลักดันการติดตามและลงโทษผู้กระทำผิด
- การมุ่งเน้นความโปร่งใสและการมีส่วนร่วมในการกำหนดนโยบายสิ่งแวดล้อม
- การส่งเสริมบทบาทของประชาชนในการตรวจสอบการทำงานด้านสิ่งแวดล้อม
ความท้าทายสำหรับประเทศไทย
แม้ว่าดัชนี CPI จะไม่ได้สะท้อนสถานการณ์การคอร์รัปชันที่แท้จริงทั้งหมดของประเทศ แต่คะแนนดังกล่าวชี้ให้เห็นว่าการทำงานด้านการต่อต้านคอร์รัปชันยังคงมีความจำเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะในประเด็นด้านสิ่งแวดล้อมและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ซึ่งประเทศไทยยังมีการศึกษาวิจัยค่อนข้างน้อย
ศูนย์ความรู้เพื่อความร่วมมือในการต่อต้านคอร์รัปชันและส่งเสริมธรรมาภิบาลในระดับภูมิภาคเล็งเห็นว่า จำเป็นต้องมีการสนับสนุนงานวิจัยและการดำเนินงานในประเด็นนี้ให้มากขึ้นในอนาคต
ทั้งนี้ ดัชนีการรับรู้การทุจริต (CPI) เป็นเครื่องมือสำคัญที่สะท้อนภาพลักษณ์การทุจริตของประเทศต่างๆ ทั่วโลก ซึ่งมีผลต่อการตัดสินใจของนักลงทุนและนักธุรกิจในการประเมินความเสี่ยงก่อนเข้าไปลงทุนในแต่ละประเทศ โดยจัดทำโดยองค์กรเพื่อความโปร่งใสนานาชาติ ซึ่งก่อตั้งขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1993 มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่กรุงเบอร์ลิน สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี เป็นองค์กรภาคประชาสังคมระหว่างประเทศที่มีวัตถุประสงค์ในการดำเนินงานด้านการต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชัน
อ้างอิง:
การทุจริตของ KRAC
https://kraccorp.com/corporal-perceptions-index-thailand-2024/
https://www.transparency.org/en/cpi/2024
เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ
