พาณิชย์ออกมาตรการ “อนุญาตให้นำเข้า” ก่อน “ห้ามนำเข้า” เศษพลาสติก ตั้งแต่ปีหน้าเป็นต้นไป

พาณิชย์ออกมาตรการ “อนุญาตให้นำเข้า” ก่อน “ห้ามนำเข้า” เศษพลาสติก ตั้งแต่ปีหน้าเป็นต้นไป

กระทรวงพาณิชย์ประกาศมาตรการควบคุมการนำเข้าเศษพลาสติก 2 ฉบับ เพื่อลดปัญหาขยะอิเล็กทรอนิกส์ที่ปะปนมากับพลาสติก ซึ่งเป็นภัยต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพประชาชน ตั้งแต่เดือนธันวาคม 2567 นี้ มุ่งส่งเสริมการรีไซเคิลและการใช้ทรัพยากรอย่างยั่งยืน

 

 

ปัญหาการลักลอบนำเข้าขยะอิเล็กทรอนิกส์ที่ปะปนมากับขยะพลาสติกในประเทศไทยเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งและเป็นที่กังวล เนื่องจากขยะอิเล็กทรอนิกส์ (หรือที่เรียกว่า “e-waste”) ซึ่งมักมีสารพิษและโลหะหนัก เช่น ตะกั่ว ปรอท และแคดเมียม รวมถึงสารเคมีที่เป็นอันตรายอื่นๆ ถูกรวมกับขยะพลาสติก เมื่อขยะเหล่านี้ถูกนำเข้ามาในประเทศโดยไม่ได้รับการควบคุมหรือกำกับดูแลอย่างถูกต้อง สามารถสร้างผลกระทบทั้งทางสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของประชาชนได้

ตามข้อมูลจากกรมการค้าต่างประเทศในปี 2566 ไทยนำเข้าขยะพลาสติกประมาณ 300,000 ตัน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเศษพลาสติกที่นำมาใช้ในกระบวนการผลิตต่างๆ

 

 

กระทรวงพาณิชย์ออกมาตรการห้ามนำเข้า

กระทรวงพาณิชย์โดยกรมการค้าต่างประเทศจึงได้ออกกฎกำหนดมาตรการนำเข้าเศษพลาสติก 2 ฉบับ เพื่อดูแลสภาวะแวดล้อมและป้องกันผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน โดยการดำเนินการครั้งนี้สอดคล้องกับนโยบายกำกับการนำเข้าเศษพลาสติกที่คณะรัฐมนตรีอนุมัติเมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2566

 

 

 

 

นางอารดา เฟื่องทอง อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศกล่าวว่า กระทรวงพาณิชย์ได้ออกกฎดังกล่าวเมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2567 ซึ่งได้รับการอนุมัติจากคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2567 โดยมีกำหนดการดังนี้:

  1. ประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่อง กำหนดให้เศษพลาสติกเป็นสินค้าที่ต้องขออนุญาตนำเข้า: เศษพลาสติกตามพิกัดศุลกากร 39.15 จะได้รับอนุญาตให้นำเข้าเฉพาะในกรณีที่ไม่มีเศษพลาสติกในประเทศหรือมีไม่เพียงพอ โดยต้องสอดคล้องกับกำลังการผลิตจริง และต้องได้รับใบอนุญาตจากกรมโรงงานอุตสาหกรรมตามระเบียบที่กำหนด ตั้งแต่วันที่ 17 ธันวาคม 2567 ถึง 31 ธันวาคม 2567

 

  1. ประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่อง กำหนดให้เศษพลาสติกเป็นสินค้าที่ต้องห้ามนำเข้า: การห้ามนำเข้าเศษพลาสติกตามพิกัด 39.15 ในทุกพื้นที่จะมีผลตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2568 เป็นต้นไป

 

อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศกล่าวเสริมว่า ประเทศไทยเคยประสบปัญหาการลักลอบนำเข้าขยะอิเล็กทรอนิกส์ที่ปะปนมากับขยะพลาสติก และการเพิ่มขึ้นของปริมาณขยะพลาสติกในประเทศ จึงได้มีมติเห็นชอบให้มีการกำกับดูแลการนำเข้าเศษพลาสติกอย่างเป็นระบบ เพื่อแก้ไขปัญหาขยะพลาสติกที่เกิดขึ้น ทั้งที่นำเข้าและในประเทศ โดยการส่งเสริมการรีไซเคิลและการหมุนเวียนเศษพลาสติกตามแนวทาง BCG Economy Model (Bio-Circular-Green Economy Model) ซึ่งจะช่วยลดปริมาณขยะพลาสติกที่เหลือทิ้งและลดมลพิษที่กระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของประชาชนได้

 

 

 

ขยะพลาสติก ปัญหาใหญ่ด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ

ปัญหาการลักลอบนำเข้าขยะอิเล็กทรอนิกส์ที่ปะปนมากับขยะพลาสติกในประเทศไทยเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งและเป็นที่กังวล เนื่องจากขยะอิเล็กทรอนิกส์ (หรือที่เรียกว่า “e-waste”) ซึ่งมักมีสารพิษและโลหะหนัก เช่น ตะกั่ว ปรอท และแคดเมียม รวมถึงสารเคมีที่เป็นอันตรายอื่นๆ ถูกรวมกับขยะพลาสติก เมื่อขยะเหล่านี้ถูกนำเข้ามาในประเทศโดยไม่ได้รับการควบคุมหรือกำกับดูแลอย่างถูกต้อง สามารถสร้างผลกระทบทั้งทางสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของประชาชนได้

 

 

สาเหตุหลักของปัญหาขยะพลาสติกนำเข้า

  1. การขาดการตรวจสอบและควบคุมการนำเข้า: ขยะอิเล็กทรอนิกส์บางประเภทมักจะถูกซ่อนอยู่ภายในขยะพลาสติกหรือสิ่งของที่ดูเหมือนเป็นขยะทั่วไป เพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจจับจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะเมื่อมีการนำเข้าทางท่าเรือหรือชายแดนที่ไม่ได้รับการตรวจสอบอย่างเข้มงวด

 

  1. การนำเข้าขยะอิเล็กทรอนิกส์ที่ไม่เป็นไปตามมาตรฐาน: ขยะอิเล็กทรอนิกส์ที่มีส่วนผสมของสารพิษสามารถทำให้เกิดปัญหาสิ่งแวดล้อมและส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน ทั้งในการกำจัดหรือการรีไซเคิลที่ไม่เหมาะสม เช่น การเผาขยะอิเล็กทรอนิกส์ที่ปล่อยสารพิษออกสู่อากาศ

 

  1. ผลกระทบจากการรีไซเคิลที่ไม่ถูกต้อง: การรีไซเคิลขยะอิเล็กทรอนิกส์ที่มีสารพิษโดยไม่มีการควบคุมอาจทำให้เกิดมลพิษทั้งในดินและน้ำ และยังอาจส่งผลต่อการทำงานของชุมชนที่มีการรีไซเคิลขยะในลักษณะนี้

 

ผลกระทบจากขยะพลาสติกนำเข้าทำให้เกิดปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม สารพิษจากขยะอิเล็กทรอนิกส์ที่ไม่ถูกกำจัดอย่างถูกวิธีอาจรั่วไหลเข้าสู่แหล่งน้ำและดิน สร้างมลพิษที่มีผลกระทบระยะยาวต่อระบบนิเวศ นอกจากนี้ยังส่งผลกระทบต่อสุขภาพสารพิษจากขยะอิเล็กทรอนิกส์ที่ปะปนมากับขยะพลาสติกสามารถส่งผลกระทบต่อสุขภาพของผู้คนที่สัมผัสกับสารเหล่านี้ ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว เช่น โรคมะเร็ง หรือปัญหาสุขภาพอื่นๆ

ด้วยเหตุนี้ การกำหนดมาตรการควบคุมการนำเข้าเศษพลาสติกและขยะอิเล็กทรอนิกส์จึงเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการลดปัญหานี้ และการจัดการขยะเหล่านี้ให้ถูกต้องตามกฎหมายและมาตรฐานสิ่งแวดล้อม