ถอดกลยุทธ์ เฟรเซอร์ส 5 ปีกับการพัฒนาสามย่านมิตรทาวน์โตอย่างยั่งยืน

ถอดกลยุทธ์ เฟรเซอร์ส 5 ปีกับการพัฒนาสามย่านมิตรทาวน์โตอย่างยั่งยืน

ถอดกลยุทธ์ เฟรเซอร์ส ตลอด 5 ปีกับการพัฒนาสามย่านมิตรทาวน์ โครงมิกซ์ยูสขนาดใหญ่บนถนนพระรามสี่ตัดถนนพญาไท กลายเป็นต้นแบบอาคารประหยัดพลังงาน Smart Mixed-use วางเป้าหมายระยะยาว โตยั่งยืนด้วยการปรับตัวตามเทรนด์ผู้บริโภค ตัวตนชัด จับข้อได้เปรียบของทำเลให้อยู่หมัด ที่สำคัญต้องดูแลผู้คน ชุมชน 

 

การเกิดขึ้นของโครงการอสังหาริมทรัพย์ สะท้อนให้เห็นถึงความเจริญเติบโตของเมือง รวมถึงโครงการอสังหาริมทรัพย์ประเภทผสมผสาน (มิกซ์ยูส) ที่เกิดขึ้นเพื่อตอบสนองพฤติกรรมการใช้ชีวิตคนเมือง

‘สามย่านมิตรทาวน์’ ถือเป็นหนึ่งในโครงการมิกซ์ยูสขนาดใหญ่ ตั้งอยู่บนทำเลทองบริเวณหัวมุมตะวันตกเฉียงเหนือของสี่แยกสามย่าน ระหว่างถนนพระรามสี่ และถนนพญาไท หนึ่งในโครงการของเจ้าสัวเจริญ สิริวัฒนภักดี ที่เปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี 2562

โดยหนึ่งในจุดเด่นของโครงการนี้ เป็นอาคาร Smart Mixed-use ที่ได้รับคัดเลือกเข้าประกวดบนเวทีระดับอาเซียน ที่มีความโดดเด่น และเป็นต้นแบบอาคารมิกซ์ยูสอนุรักษ์พลังงานที่รักษาสมดุลระหว่างการดูแลธรรมชาติและการรักษาคุณภาพชีวิตของผู้ใช้บริการ เพื่อการส่งต่อประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าและชุมชนโดยรอบ

 

สามย่านมิตรทาวน์

มิกซ์ยูสครบวงจรแห่งแรก ถ.พระรามสี่

สามย่านมิตรทาวน์ เกิดจากการผนึกกำลังร่วมกันระหว่าง บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ประเทศไทย จำกัด (มหาชน) และสำนักงานจัดการทรัพย์สิน จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในการพัฒนาพื้นที่เกือบ 14 ไร่ ให้เป็นโครงการมิกซ์ยูสครบวงจรแห่งแรกบนถนนพระรามสี่ ด้วยมูลค่าการลงทุนกว่า 9,000 ล้านบาท 

ประกอบด้วย อาคารสำนักงานเกรดเอ พื้นที่รีเทล คอนโดมิเนียม โรงแรม และพื้นที่จัดแสดงงาน ที่ผสมผสานจุดเด่นของชุมชนสามย่าน กับความตั้งใจของเฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ประเทศไทย ได้อย่างลงตัวภายใต้แนวคิด Smart & Friendly ที่สะท้อนถึงความฉลาด การเรียนรู้ และความเป็นมิตร สอดรับกับกลุ่มเป้าหมายของสามย่านมิตรทาวน์ด้วยทำเลที่ตั้งบริเวณจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยที่เป็นแหล่งการเรียนรู้ ประกอบกับทำเลสามย่านที่เป็นแหล่งชุมชนเก่า เต็มไปด้วยมิตรภาพและความเป็นกันเอง ทำให้สามย่านมิตรทาวน์ถือกำเนิดขึ้นมาเพื่อรองรับผู้คนทุกไลฟ์สไตล์ทั้งคนทำงาน ผู้พักอาศัย และผู้ใช้บริการทั่วไป

 

ยึดแนวทางความยั่งยืน ใส่ใจผู้คน ชุมชน สังคม

ผ่านมากว่า 5 ปี เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ประเทศไทย มองว่าเป็นโครงการที่ประสบความสำเร็จ ด้วยทำเลที่ดี เนื่องจากอยู่ใกล้กับสถานศึกษา และมองทิศทางข้างหน้าไว้ว่าจะยังคงเติบโตได้อีก โดยยึดแนวทางความยั่งยืน ที่ให้ความสำคัญกับผู้คน ชุมชนและสังคมโดยรอบ

 

จากที่ดินจุฬาฯ สู่สามย่านมิตรทาวน์

นายธนพล ศิริธนชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (Country CEO) บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า เฟรเซอร์สเริ่มพัฒนาโครงการสามย่านมิดทาวน์เมื่อ 9 ปีที่แล้ว (พ.ศ.2558) หลังเซ็นสัญญากับจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เพื่อใช้พื้นที่ที่ถูกปล่อยว่างมามากกว่า 10 ปี โดยใช้เวลาก่อสร้าง พัฒนาโครงการ 4 ปีเต็มก่อนจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในปี พ.ศ. 2562 ทำให้เป็นโครงการนำร่องของโครงการมิกซ์ยูส บนถนนพระรามสี่ ซึ่งการก่อสร้างสามย่านมิตรทาวน์ ยึดกรอบการทำงานด้าน ESG ในภาคอสังหาริมทรัพย์ จะเน้นไปที่มาตรฐานอาคาร ซึ่งได้รับการรับรองจากมาตรฐาน LEED (Leadership in Energy & Environmental Design) ซึ่งเป็นมาตรฐานอาคารเขียวระดับสากลทั้งในระดับ Gold และ Platinum ซึ่งเป็นระดับสูงสุด

การก่อสร้างโครงการเน้น 3 กลไก เป็นจุดเด่นได้แก่ 

  1. Mitr – ting place concept คอนเซ็ปต์ที่ชัดเจนของการเป็น ‘คลังแห่งอาหารและการเรียนรู้’ จากความมุ่งมั่นตั้งใจพัฒนาโครงการสามย่านมิตรทาวน์เมื่อ 5 ปีที่แล้ว ที่เป็นการผสมผสานวัฒนธรรมของชุมชนสามย่าน และการตั้งอยู่บริเวณจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเป็นตัวแปรสำคัญที่ทำให้สามย่านมิตรทาวน์โดดเด่นในตลาดมิกซ์ยูสที่เป็นมากกว่าศูนย์การค้า 

แต่คือพื้นที่ที่ผสมผสานความเป็นอยู่ของคนเมืองและกลิ่นอายของชุมชนสามย่าน สร้างสรรค์ประสบการณ์ที่แตกต่างให้กับทุกคน ภายใต้แนวคิดหลักของการเป็นเมืองแห่งมิตร Smart & Friendly ที่สะท้อนถึงความทันสมัย ฉลาด การเรียนรู้ และความเป็นมิตรที่ดี พร้อมแนวคิดที่แตกต่างกันในแต่ละพื้นที่ อาทิ พื้นที่รีเทลภายใต้แนวคิด คลังแห่งอาหารและการเรียนรู้ (Urban Life Library) พื้นที่สำนักงานภายใต้แนวคิดอาคารอัจฉริยะ (Intelligent Office Tower) และพื้นที่พักอาศัยภายใต้แนวคิด แพลตฟอร์มการอยู่อาศัยรูปแบบใหม่ (Neo Explorer Living Platform)

 

  1. Mitr mindset กล้าคิดนอกกรอบ ด้วยการนำเสนอพื้นที่ให้บริการ 24 ชั่วโมงแห่งแรกใจกลางเมือง มีร้านอาหาร ร้านสะดวกซื้อ และพื้นที่โค-เลิร์นนิ่ง สเปซ ภายใต้ชื่อ ซี อาเซียน สามย่าน โค-ออป (C asean Samyan CO-OP) ที่เปิดให้เรียนรู้ฟรี ตลอด24 ชั่วโมง โดยปัจจุบันมีสมาชิกแล้วกว่า 180,000 คน เฉลี่ยมีผู้เข้าใช้บริการถึง 1,500 คน ต่อวัน มีอีเว้นต์ อาทิ ลานนมสามย่าน เทศกาลสงกรานต์ และเทศกาลโคมไฟอาร์ต 

 

 

นอกจากนี้ ยังยกระดับศักยภาพของโครงการและชุมชนด้วยอุโมงค์เชื่อมมิตรที่เชื่อมระหว่างรถไฟฟ้า MRT สถานีสามย่านตรงเข้าสู่โครงการ เพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้ใช้บริการและบุคคลทั่วไปได้เข้าสู่อาคารได้อย่างสะดวกสบาย ปลอดภัย ทั้งยังปรับภูมิทัศน์และอำนวยความสะดวกในการเดินเท้าบริเวณลานด้านถนนพญาไท และเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้ผู้ใช้บริการทุกคนได้ผ่อนคลายบริเวณชั้น 5 ของโครงการ เหล่านี้ถือเป็นสาธารณประโยชน์ที่เฟรเซอร์ส ตั้งใจคิดและสร้างสรรค์ขึ้นตามแนวคิดของการดำเนินงานที่คำนึงถึงผู้คน ชุมชน และสิ่งแวดล้อมเป็นสำคัญ

 

  1. The Mitr Ecosystem เมืองแห่งมิตร ด้วยออกแบบสัดส่วนพื้นที่อย่างเหมาะสม ทำให้สามย่านมิตรทาวน์เป็นมิกซ์ยูสที่ผสมผสานการใช้ชีวิตในรูปแบบต่างๆ สอดรับไลฟ์สไตล์คนหลากหลายวัย ที่รวบรวมทุกความต้องการไว้ในที่เดียว ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่สำนักงาน พื้นที่พักอาศัย โรงแรม พื้นที่รีเทล พื้นที่สีเขียวสำหรับการพักผ่อน พื้นที่สำหรับการเรียนรู้และสร้างสรรค์ และพื้นที่จัดแสดงงานสามย่านมิตรทาวน์ฮอลล์ที่รองรับการจัดงานแบบครบวงจร

 

 

ผ่านมา 5 ปี ยอดผู้ใช้บริการ 120 ล้านคน

ตลอดระยะเวลา 5 ปีที่ผ่านมา สามย่านมิตรทาวน์ ต้อนรับผู้คนไปแล้วกว่า 120 ล้านคน มียอดผู้เข้าใช้บริการต่อวัน 80,000 คน โดยมีอัตราการเช่าในส่วนของพื้นที่รีเทล 98% อาคารสำนักงานมีอัตราการเช่า 97% ส่วนที่พักอาศัย โรงแรมทริปเปิ้ล วาย มีอัตราการเข้าพักกว่า 90% และคอนโดมิเนียมสิทธิการเช่าระยะยาว (Leasehold) ทริปเปิ้ล วาย เรสซิเด้นซ์ ปิดการขาย 100 % ทั้งโครงการตั้งแต่เมื่อปี 2565 โดยปัจจุบันสามารถทำราคารีเซลได้ตารางเมตรละ 160,000 บาทเพิ่มขึ้นกว่า 20% จากราคาเริ่มต้น นอกจากนี้ในส่วนพื้นที่จัดแสดงงานสามย่านมิตรทาวน์ฮอลล์ได้จัดอีเวนต์และงานประชุมต่างๆ ไปแล้วกว่า 500 งาน ครอบคลุมหลากหลายอุตสาหกรรมทั้งจากภาครัฐและภาคเอกชน

 

 

มองธุรกิจระยะยาว 

ข้อได้เปรียบอยู่ใกล้สถานศึกษา

เมื่อถามถึงการพัฒนาโครงการให้เติบโตระยะยาว นายธนพล กล่าวว่า สามย่านมิตรทาวน์มีสัดส่วนลูกค้าคนรุ่นใหม่ และวัยทำงาน 70-80% ขณะที่สัดส่วนนักท่องเที่ยวมีบ้างแต่ยังไม่ใช่กลุ่มหลัก ผมมองว่าสามย่านมิตรทาวน์มีข้อได้เปรียบอยู่อย่างหนึ่งคืออยู่ใกล้สถาบันการศึกษา ทำให้นักศึกษาเข้ามาใช้บริการ และสถาบันศึกษาจะมีการรับนักศึกษาใหม่เพิ่มขึ้นทุกปี ซึ่งแน่นอนว่าโครงการเราจะมีคนใหม่ ๆ เข้ามาใช้พื้นที่ ไม่น้อยกว่า 2 แสนคน เป็นการเติมทราฟฟิคใหม่ทุกปี 

“การสร้างโครงการใดก็ตาม การเลือกโลเคชั่น และดูสิ่งแวดล้อม ชุมชนรอบ ๆ คือหัวใจหลัก ที่จะชี้ว่าธุรกิจจะไปต่อได้หรือไม่ อีกสิ่งคือตัวตนต้องชัด อย่างที่บอกว่า สามย่านมิตรทาวน์ มีความชัดในเรื่อง Smart & Friendly รวมถึงมีความโดดเด่นในการเป็น Food และ knowledge รวมกัน ซึ่งปัจจุบันเริ่มเห็นโครงการมิกซ์ยูสขนาดใหญ่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพราะถ้าสำรวจดูจะเห็นว่ามีโลเคชั่น ในเมืองที่สามารถขึ้นโครงการใหม่ได้อีกมาก” 

 

 

ก้าวต่อไปอีก 5 ปี ปรับตามเทรนด์ผู้บริโภค

อย่างไรก็ตาม นายธนพล กล่าวต่อไปว่า ในก้าวต่อไปอีก 5 ปีข้างหน้านั้น จะต้องดูเทรนด์ผู้บริโภค ตอนนี้สามย่านเป็นทำเลทอง ใกล้ๆ กันก็มีถนนบรรทัดทองที่พัฒนาเป็นถนนคนเดินแล้ว ในแง่ธุรกิจเป็นเรื่องดี แต่อย่างไรก็ตาม การทำให้โครงการมิกซ์ยูสก้าวหน้าไปได้อย่างยั่งยืน คือการดึง AI และเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามาซัพพอร์ต เช่น ดึง AI มาใช้ในส่วนออฟฟิศ หรือปรับเรื่องของ cashless สังคมไร้เงินสด หรือนำความรู้ใหม่ ๆ เข้ามาบริการในพื้นที่ 

“ขณะนี้มีเทรนด์ที่น่าจับตามองคือ หลังจากโควิด-19 ได้เกิดเทรนด์ work from anywhere ทำงานที่ไหนก็ได้ ทำงานทางไกล แต่ปรากฏว่า ตอนนี้คนส่วนหนึ่งเริ่มอยากกลับเข้าออฟฟิศ หรือมีที่นั่งทำงานประจำแล้ว และเริ่มเห็นชัดเมื่อช่วงที่ผ่านมาที่ Amazon ประกาศให้พนักงาน กลับเข้ามาทำงานในออฟฟิศ 100% ดังนั้นสามย่านมิตรทาวน์ถ้าสามารถปรับพื้นที่ให้รองรับกับเทรนด์ และความต้องการที่ยืดหยุ่นได้ธุรกิจก็จะเติบโตในระยะยาว” นายธนพล กล่าวทิ้งท้าย